บทบาทของ แม็ค อัลลิสเตอร์ กับการรีดศักยภาพของ ดาร์วิน นูนเญซ

หากให้ประเมินผลงานของ ดาร์วิน นูนเญซ ตลอดซีซั่นที่ผ่านมา แฟนบอล ลิเวอร์พูล อาจจะมีอารมณ์และความรู้สึกต่อแข้งรายนี้ที่แตกต่างกันออกไป

หลายคนผิดหวังกับฟอร์มการเล่นและจำนวนการยิงประตู เมื่อเทียบกับค่าตัวที่สูงถึง 100 ล้านยูโร (เมื่อรวม Adds-on) ในขณะที่บางส่วนมองว่า นี่เป็นเพียงปีแรกของการปรับตัว ฟอร์มการเล่นในระดับนี้ ก็ถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างยิ่งแล้วกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับทีม

แต่เมื่อย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นฤดูกาล นูนเญซ ถูกยกเปรียบเทียบกับการมาของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวยิงมหาประลัยของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเมื่อผลลัพธ์หลังจบซีซันกลายเป็นว่ารายหลังสามารถพาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์อย่างยิ่งใหญ่พร้อมกับทำได้ 36 ประตูใน พรีเมียร์ลีก ในขณะที่รายแรกยิงไปเพียง 9 ลูกและทำอีก 3 แอสซิสต์และทำได้แค่เพียงคว้าถาด คอมมูนิตี้ ชิลด์ มาครองเท่านั้น

จริงอยู่ที่การเปรียบเทียบกันเช่นนี้อาจจะไม่แฟร์กับแข้งอุรุกวัย เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า ลิเวอร์พูล นั้นอยู่ในช่วงขาลง และมีปัญหามากมายโดยเฉพาะในแดนกลาง ซึ่งทำให้ผลงานตลอดซีซั่นที่ผ่านมา พวกเขาทำได้แค่ประคองตัวเข้าป้ายคว้าโควต้า ยูโรป้า ลีก เท่านั้น 

ฮาแลนด์ นูนเญซ
เออร์ลิง ฮาแลนด์ – ดาร์วิน นูนเญซ

ส่วนทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา นั้นสมบูรณ์แบบแทบทุกตำแหน่ง การได้ ฮาแลนด์ เข้ามาในแดนหน้าถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้ 

เมื่อมองไปที่สถิติของ นูนเญซ ยังมีแง่มุมที่น่าสนใจอยู่บ้าง โดยเจ้าตัวถือเป็นนักเตะที่ยิงประตูเฉลี่ยต่อเกมสูงที่สุดที่ 4.5 ครั้งต่อ 90 นาที นำหน้า อเล็กซานดร้า มิโตรวิช ของ ฟูแลม และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3 โดยทั้งคู่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.8 ครั้งต่อ 90 นาที

เพียงแต่ว่า โอกาสที่มากกว่าของแข้งชาวอุรุกวัยไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูเหมือนที่ดาวเตะ แมนซิตี้ ทำได้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ คล็อปป์ มองเห็นและเริ่มลงมือแก้ปัญหานี้แล้ว

หากมองไปที่แทคติกของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เราจะเห็นว่าทุกอย่างพร้อมสนับสนุนการยิงประตูของ ฮาแลนด์ อย่างเต็มที่ นั่นจึงทำให้สถิติการถล่มประตูเกิดขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งมันสวนทางกับองค์ประกอบภายในของ ลิเวอร์พูล ที่ทำให้ปผลงานของ นูนเญซ ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร

ดาร์วิน นูนเญซ

สิ่งที่ คล็อปป์ ต้องทำคือการหากองกลางดี ๆ ซักคนที่สามารถสร้างสรรค์และช่วยให้แดนหน้ามีโอกาสในการผลิตสกอร์ได้มากขึ้น ซึ่งการดึง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เข้ามาร่วมทีมคือจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ ทั้งเรื่องฝีเท้าที่มีดีกรีคว้าแชมป์ในรายการฟุตบอลโลกหนล่าสุดและเรื่องค่าฉีกสัญญาที่ทำให้ทีมอื่นต้องอิจฉาตาร้อนไปตาม ๆ กัน

มิดฟิลด์วัย 24 ปีถือเป็นนักเตะที่มีทักษะที่สมบูรณ์แบบ นายใหญ่ชาวเยอรมันถึงกับยกให้แข้งรายนี้เป็น “ผู้เล่นที่มีความสามารถพิเศษรอบด้าน” และมีความเฉลียวฉลาดเมื่ออยู่ในสนาม จากการให้สัมภาษณ์ในวันเปิดตัวเป็นนักเตะใหม่ที่ แอนฟิลด์ แค่คำยกย่องของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เปรยมาในวันเปิดตัวมิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์ ก็เล่นเอาแฟนหงส์แดงแทบกรี๊ดกันแล้ว

อีกทั้งเจ้าตัวยังเคยเปิดเผยอีกด้วยว่า เพราะมีโอกาสได้พูดคุยกับ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในหลาย ๆ เรื่อง นั่นเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ตัดสินใจมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล ก่อนที่จะเข้าแตมป์ทีมชาติอาร์เจนติน่า เพื่อไปสู้ศึก ยูฟ่า เนชั่น ลีกส์

แม็ค อัลลิสเตอร์ สามารถเล่นได้หลายบทบาทในแดนกลาง แต่คุณสมบัติสำคัญที่เขาจะมาช่วยให้ ลิเวอร์พูล มีความอันตรายมากยิ่งขึ้นก็คือ ความสามารถในการควบคุมเพื่อนร่วมทีมและการกำหนดจังหวะเกม ซึ่งเมื่อดูสถิติย้อนกลับไปดาวเตะดีกรีแชมป์โลกรายนี้แทบไม่สูญเสียการครองบอลเลยแม้จะเล่นในตำแหน่งฟิลด์ตัวรุก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่แออัดและเต็มไปด้วยนักเตะแนวรับมากมายก็ตาม

Alexis Mac Allister

สถิติที่น่าสนใจของอดีตกองกลาง ไบรท์ตัน อีกอย่างหนึ่งคือเขาติดท็อป 7 ของผู้เล่นที่สัมผัสบอลมากกว่า 2,000 ครั้ง โดยเป็นรองยอดมิดฟิลด์อย่าง โรดรี้, ฟาบินโญ, มอสเซส ไคเซโด้, ปิแอร์ ฮอยจ์เบิร์ก, โธมัส ปาร์เตย์ และ ดีแคลน ไรซ์ แต่สิ่งที่ทำให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ แตกต่างจากคนอื่น ๆ ก็คือเขาเป็นกองกลางที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในพื้นที่สุดท้ายของฝั่งตรงข้าม 

เมื่อพิจารณาจากสไตล์ของ ดาร์วิน นูนเญซ เชื่อว่าคุณสมบัติเหล่านี้ของ แม็ค อัลลิสเตอร์ จะทำให้เขาสามารถเชื่อมต่อและสนับสนุนการเล่นของกองหน้าอุรุกวัยรวมทั้งแนวรุกคนอื่น ๆ ภายในทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ทีมมีตัวเลือกในการเล่นเกมรุกเพิ่มมากขึ้นด้วย

ดังนั้นการลงทุน 35 ล้านปอนด์ในครั้งนี้ จึงน่าจะทำให้ ลิเวอร์พูล มีความแข็งแรงในแดนกลางรวมทั้งช่วยรีดศักยภาพของ ดาร์วิน นูนเญซ ออกมาได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม เยอร์เก้น คล็อปป์ จะต้องไม่หยุดเสริมทัพเพียงเท่านี้ ถ้าเขาต้องการยกระดับให้ หงส์แดง กลับมาเป็นทีมลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหมือน 2-3 ปีที่ผ่านมา 

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top