ฟาบินโญ กับบทบาทที่อาจจะช่วยให้เจ้าตัวฟื้นคืนชีพ

ต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่าการที่แดนกลางของ ลิเวอร์พูล กำลังมีปัญหาอย่างหนัก ส่วนหนึ่งมาจากฟอร์มที่ตกต่ำของ ฟาบินโญ มิดฟิลด์ตัวรับคนสำคัญ ที่ไม่สามารถรักษาระดับการเล่นให้เหมือนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้

เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หงส์แดง มีแผงมิดฟิลด์ที่ถือได้ว่าดีที่สุดทีมหนึ่งในยุโรป ประกอบด้วย ติอาโก้ อัลคันทารา, ฟาบินโญ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แม้ว่าสถิติการยิงประตูและทำแอสซิสต์ของทั้ง 3 คนจะไม่ได้โดดเด่น แต่พวกเขาถือเป็นกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเกมและรูปแบบการเล่นของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งทำให้ทีมมีลุ้นแชมป์ถึง 4 รายการมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในซีซันนี้กลายเป็นว่าแผงกองกลางที่เคยแข็งแกร่งกลับโรยราและกลายเป็นบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ให้ทีมต่าง ๆ ขุดเจาะกันได้ตามอำเภอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแข้งบราซิลเลียนที่ไม่เหลือฟอร์มเดิมเมื่อปีที่แล้วให้เห็นเลย จนมีการตั้งคำถามว่าหรือนี่จะเป็นช่วงที่เลยจุดพีคของเขาไปแล้ว

หากมองไปที่อายุของ “แฟ๊บ” ที่เพิ่งจะอยู่ในวัย29 ปี สำหรับมิดฟิลด์คนหนึ่งถือว่ากำลังอยู่ในจุดสูงสุดของการค้าแข้ง มีทั้งประสบการณ์และความเก๋า ซึ่งแม้จะผ่านความสำเร็จมาแล้วในทุกรายการ แต่ก็ยังไม่น่าจะใช่เวลาที่อยู่ในช่วงขาลงอย่างที่หลายคนคิด

แน่นอนว่า สาเหตุสำคัญมาจากเรื่องความฟิตจากการกรำศึกหนักและสภาพจิตใจที่บอบช้ำจากการพลาดแชมป์ใหญ่อย่าง พรีเมียร์ลีก และ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งสะท้อนผ่านการให้สัมภาษณ์หลังจบเกมที่แพ้ต่อ เรอัล มาดริด ในรอบชิงชนะเลิศที่กรุงปารีส โดยเจ้าตัวยอมรับว่า เขารู้สึกผิดหวังและไม่อยากจะกลับไปขึ้นรถบัสฉลองแชมป์บอลถ้วยในวันรุ่งขึ้นเลยด้วยซ้ำ

ติอาโก้-ฟาบินโญ-เฮนเดอร์สัน
ติอาโก้ ฟาบินโญ และ เฮนเดอร์สัน 3
มิดฟิลด์สุดเก๋าของลิเวอร์พูล

สิ่งนี้อาจส่งผลต่อการเล่นของ ฟาบินโญ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในโลกของฟุตบอล คุณเองก็ไม่สามารถฟอร์มตกยาว ๆ ได้เหมือนกัน เพราะนั่นหมายความว่าหากเล่นไม่ได้และหมดประโยชน์ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือการย้ายทีม ดังนั้นสิ่งที่ต้องมานั่งคิดกันคือ จะทำอย่างไรให้ดาวเตะแซมบ้ากลับมาคืนฟอร์มได้อีกครั้ง

ชาร์ล็อต โคอาเตส นักข่าวของ ลิเวอร์พูล เอ็คโค เลยลองเสนอไอเดียที่น่าจะทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ สามารถกลับมาใช้งานดาวเตะแซมบ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพภาพ โดยตั้งประเด็นที่น่าสนใจว่า ทำไมไม่ลองให้ “แฟ๊บ” ไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็คดูล่ะ?

ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 2020-2021 หลังจากที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จเมื่อซีซันก่อน พวกเขากลับต้องมาเจอวิกฤติในเกมรับโดยเริ่มจากอาการบาดเจ็บ ACL ของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์, อาการเส้นเอ็นสะบ้าแตกของ โจ โกเมซ และการต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ข้อเท้าของ โจเอล มาติป ซึ่งทั้ง 3 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแบบติด ๆ กันจนทำให้ คล็อปป์ ไม่สามารถใช้งานเซ็นเตอร์แบ็คระดับซีเนียร์ได้พร้อม ๆ กัน

ว่าแล้ว นายใหญ่ชาวเยอรมันก็เลยแก้ปัญหาด้วยการจับเอา ฟาบินโญ ลงมาเล่นเป็นกองหลังตัวกลางดู ซึ่งกลายเป็นว่าเขาทำผลงานได้อย่างน่าชื่นชมจากการลงสนามทั้งหมด 15 นัด โดยพาทีมเสียแค่ 12 ประตูและเก็บได้ถึง 6 คลีนชีต ต่างจาก 14 นัดก่อนหน้านั้นที่ใช้กองหลังแท้ ๆ ลงสนามคู่กัน ซึ่งแม้จะยิงได้มากถึง 24 ประตูแต่ก็เก็บคลีนชีตได้ไปไม่กี่นัดเท่านั้น

ฟาบินโญ - ฟาน ไดจ์ค
ฟาบินโญ ประสานงานกับ ฟาน ไดจ์ค
ในเกมที่บุกไปชนะ เชลซี คารัง

ว่ากันว่าเกมที่โดดเด่นของ แฟ๊บ คือนัดที่เขาถูกส่งลงสนามจับคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ในเกมที่เอาชนะ เชลซี ได้ 2-0 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ จากการทำคนเดียว 2 ประตูของ ซาดิโอ มาเน เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2020 ซึ่งเขาแสดงให้เห็นถึงความนิ่งและสามารถจัดการแนวรุกของ สิงห์บลู ได้ตลอดทั้งเกม

จริงอยู่ที่ในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล มีปัญหาในแดนกลางและต้องเสริมทัพอย่างเร่งด่วน หลังจากที่มีเพียง ติอาโก้ อัลคันทารา เท่านั้นที่ย้ายเข้ามาในช่วง 3 ปีหลังสุด ในขณะที่เวลานี้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็ถูกจับนั่งเป็นตัวสำรอง ส่วน  แฟ๊บ เองก็หายหน้าไปในเกมล่าสุดที่พ่ายต่อ วูล์ฟ แถมซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ นาบี เกอิต้าอเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน และ เจมส์ มิลเนอร์ จะหมดสัญญาและไม่น่าจะได้อยู่ต่อกับทีม ซึ่งทำให้ คล็อปป์ ต้องการนักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีมอย่างน้อย 2-3 คนในตลาดซัมเมอร์

หากแต่ปัญหาจริง ๆ อาจจะไม่ได้อยู่แค่ตรงกลางสนาม เพราะในเกมล่าสุดที่โดน วูล์ฟ ถล่มมา 3 ลูกเราได้เห็นแล้วว่า โจเอล มาติป และ โจ โกเมซ นั้นยังไม่ใช่คู่กลางที่ไว้ใจได้ ซึ่งเชื่อว่าหากทั้งคู่ยังมีผลงานแบบนี้หลังจบซีซันก็อาจจะต้องถูกขึ้นบัญชีขายด้วยเหมือนกัน

ดังนั้นไหน ๆ ฟาบินโญ ก็เคยแสดงฝีเท้าในการเล่นเซ็นเตอร์แบ็คมาแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน แถมเจ้าตัวยังเคยเล่นตำแหน่งนี้มาตั้งแต่สมัยอยู่กับ โมนาโก มันคงจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยหากจะปรับให้เขาลงไปยืนตำแหน่งนั้นในอีกครั้ง แม้ไม่ใช่ตำแหน่งที่เจ้าตัวโปรดปรานนักก็ตาม ด้วยคุณสมบัติของการเล่นเป็นกองกลางมานานเชื่อว่าเรื่องความนิ่ง การอ่านเกม และการวางบอลจากแนวลึก จะทำให้ คล็อปป์ ได้ประโยชน์ตรงนี้ไปเต็ม ๆ และอาจจะไม่ต้องหาซื้อนักเตะใหม่ในตำแหน่งนี้เพิ่ม ช่วยประหยัดเงินได้อีกหลายสิบล้านปอนด์อีกต่างหาก

แต่ถ้าจะให้พูดถึงตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็ต้องเป็น ฮาร์เวียร์ มาสเคราโน ที่เคยเล่นในตำแหน่งกองกลางกับ เวสต์แฮม และ ลิเวอร์พูล ก่อนที่จะย้ายไป บาร์เซโลนา และถูก เป๊ป กวาร์ดิโอลา จับไปเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค ซึ่งเจ้าตัวก็ทำดีและทำให้ทีมประสบความสำเร็จอย่างมากมาย

มาสเคราโน่
มาสเคราโน่ สมัยค้าแข้งกับ บาร์เซโลนา

ดังนั้น การลองปรับบทบาทของสตาร์ทีมชาติบราซิลไม่ได้หมายความว่าเวลาของเขากับ ลิเวอร์พูล ใกล้จะหมดลงแล้ว แต่บางทีการได้ลองสัมผัสบรรยากาศใหม่ ๆ ก็อาจจะทำให้ไฟในตัวของนักเตะกลับมาลุกโชนอีกครั้งและอาจทำให้ทีมได้ประโยชน์ไปด้วย หรืออาจจะทำให้เราค้นพบตำแหน่งที่เหมาะสมกับตัวนักเตะในช่วงเวลาที่กำลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านก็เป็นได้…

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top