12 นาทีแห่งความพังพินาศของ ลิเวอร์พูล

ในฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่ง พรีเมียร์ลีก มักจะโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมจนสร้างความเจ็บปวดให้กับแฟนบอลคู่แข่งไม่ว่าจะเป็นเกมเหย้าหรือเยือนก็ตาม แต่ในปีนี้ ทุกสิ่งมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง และกลับกลายเป็นสาวก “เดอะ ค็อป” ที่ต้องรู้สึกผิดหวังกับผลงานของทีม

การบุกไปพ่าย ไบรท์ตัน 3-0 ที่สนาม เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ในฐานะทีมเยือนก่อนหน้านี้ว่ามันแย่สุดๆแล้ว แต่การพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ที่สนาม โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์เดียวกันนั้น มันเข้าขั้นโคม่ายิ่งกว่าเสียอีก

ความพ่ายแพ้ต่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน ถือเป็นหนแรกที่ ลิเวอร์พูล ปราชัยในเกมเยือน 3 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2012 และตั้งแต่เปิดปี 2023 พลพรรค “หงส์แดง” ไม่พบกับชัยชนะในลีกเลย แถมยังโดนถลุงไป 9 ประตูจาก 4 เกม และยิงได้เพียง 1 ประตู

ผลงานอันย่ำแย่ของ ลิเวอร์พูล แทบจะไม่เป็นฟอร์มการเล่นที่สมบูรณ์แบบเลยสำหรับเกม “เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมทช์” นัดถัดไปที่จะเปิดรัง แอนฟิลด์ รอรับ เอฟเวอร์ตัน ที่เพิ่งได้ ฌอน ไดซ์ เข้ามาคุมทีม และเพิ่งปราบ อาร์เซน่อล ทีมจ่าฝูงไปสดๆร้อนๆ

ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่ง พรีเมียร์ลีก ต้องการความเปลี่ยนแปลงในทันที

เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน กล่าวหลังเกมกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ว่า “เราต้องเปลี่ยนทุกอย่างทันทีในเกมหน้า เอฟเวอร์ตัน ชนะในวันนี้ และพวกเขาอยู่ในช่วงเวลาที่ดี ดังนั้นเราต้องพิสูจน์ตัวเองกันอีกครั้ง”

ความพ่ายแพ้ในเกมล่าสุดทำให้ ลิเวอร์พูล หล่นมารั้งอยู่ในอันดับที่ 10 ในตารางคะแนนแล้ว โดยมี 11 แต้มตามหลัง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 มากถึง 11 คะแนน ซึ่งมันแทบเป็นไปไม่ได้แล้วที่ทีมของ คล็อปป์ จะกลับไปติดท็อปโฟร์ในปีนี้

“12 นาทีแห่งหายนะ” เราจะเรียกแบบนั้นก็ไม่ผิดกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นในเกมกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน โดยสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิดคือ ลิเวอร์พูล เสีย 2 ประตูอย่างง่ายดายจากความผิดพลาดส่วนบุคคลของแนวรับอย่าง โจเอล มาติป และ โจ โกเมซ

แน่นอนว่า การเสีย 2 ประตูอย่างรวดเร็วให้กับเจ้าบ้านอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน มันเหมือนเป็นการแพ้ไปแล้วครึ่งตัว และมันเป็นงานที่ยากสุดๆสำหรับนักเตะ ลิเวอร์พูล ในการจะเรียกพลังกาย และพลังใจของตัวเองเพื่อกลับเข้าสู่เกม

คล็อปป์ อธิบายต่อว่า “เราทำให้ตัวเองเจอความยากลำบากใน 12 นาทีแรก สิ่งเหล่านี้มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ในเกมแบบนี้เราไม่ควรจะเสียประตูง่ายๆแบบนั้น คุณสามารถวิจารณ์ และตัดสินเราได้ และคุณน่าจะคิดถูก เพราะ 12 นาทีนั้นมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นจริงๆ”

กำลังมีปัญหาในทุกพื้นที่บนสนาม

นอกจากเกมรับที่หละหลวมจนโดนคู่แข่งยิงขึ้นนำไปก่อนจนเป็นเรื่องปกตินั้น แผงกองกลางของ ลิเวอร์พูล ก็มีแผลอย่างชัดเจน ขณะที่บรรดาแนวรุกก็ฝืดสนิทอย่างหนัก ซึ่งเป็นปัญหาที่ คล็อปป์ ต้องปวดหัวอย่างหนักเลยทีเดียว

แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บของนักเตะหลักอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจค์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, ดิโอโก้ โชต้า และ หลุยส์ ดิอาซ ก็มีส่วนที่ทำให้ ลิเวอร์พูล มีผลงานดิ่งลงเหว แต่ผู้เล่นคนอื่นๆที่มีอยู่ก็ไม่ได้ชื่อชั้นเป็นรองคู่ต่อสู้เลยแม้แต่น้อย

ลิเวอร์พูล เสียไป 3 ประตู จากการเล่นเป็นทีมเยือน 3 เกมหลังสุด ซึ่งคู่แข่งที่พวกเขาเผชิญหน้าด้วยคือทีมอย่าง เบรนท์ฟอร์ด, ไบรท์ตัน และ วูล์ฟแฮมป์ตัน โดยตอนนี้ “หงส์แดง” เสียไปแล้ว 28 ลูก จาก 20 เกม แต่ปีที่แล้วพวกเขาเสียเพียง 26 ประตู จาก 38 เกม

ลิเวอร์พูล ยังเป็นทีมที่ดี และมีศักยภาพมากพอที่จะพลิกสถานการณ์ได้ แต่พวกเขาต้องการเกมรับที่แน่นอน และพลังเกมรุกที่ต้องกลับมาเฉียบคมอีกครั้ง

เมื่อถูกถามว่ายังเชื่อมั่นในตัวลูกทีมว่าจะเรียกฟอร์มกลับมาสู่เส้นทางที่ดีได้หรือไม่ คล็อปป์ กล่าวว่า ผมไม่ได้สูญเสียความมั่นใจในตัวเด็กๆเลย แต่เราต้องปรับปรุงฟอร์มการเล่นทันที และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังดำเนินการอยู่”

ขณะเดียวกัน ในช่วงท้ายเกมมี แฟนๆ วูล์ฟแฮมป์ตัน แสดงอาการเยาะเย้ย คล็อปป์ ด้วยการตะโกนว่า “แกจะโดนไล่ออกในตอนเช้า” ซึ่งมันเป็นสถานการณ์ที่ อดีตนายใหญ่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อาจยังไม่เคยเจอมาก่อนนับตั้งแต่เข้ามาทำงานใน แอนฟิลด์

ลิเวอร์พูล มีคิวจะต้องเผชิญหน้ากับอริร่วมเมืองอย่าง เอฟเวอร์ตัน ที่ แอนฟิลด์ ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และชัยชนะเหนือ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” นั้น อาจช่วยเพิ่มกำลังใจให้คืนกลับมาก่อนที่จะต้องเจอกับ เรอัล มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 8 วันถัดมา

เมื่อถูกถามว่ายังเชื่อในความสามารถของตัวเองที่จะพลิกสถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล กลับมาได้หรือไม่ นั้น คล็อปป์ ตอบด้วยความมั่นใจว่า “ใช่ แน่นอนที่สุด”

สำหรับ คล็อปป์ ยังคงมีความเชื่อมั่นในตัวเอง และลูกทีมเต็มเปี่ยมว่าจะกลับมาสู่ฟอร์มการเล่นที่ดีได้ และตอนนี้แฟนๆ “หงส์แดง” ก็ได้แต่ทำใจ และอดทนให้ได้มากที่สุดเพื่อรอเห็นการเปลี่ยนแปลง

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top