5 เรื่องที่ต้องชำแหละหลัง ลิเวอร์พูล บุกพ่ายบ๊วยแบบสุดช็อก

ในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจกลายเป็นสโมสรที่โชว์ฟอร์มได้ไม่สม่ำเสมอมากที่สุดในวงการฟุตบอลยุโรปเลยก็ว่าได้ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา “หงส์แดง” เพิ่งเปิดบ้านถล่มอริตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบขาดลอย 7-0

 อย่างไรก็ตาม ในเวลาเพียง 7 วัน ลิเวอร์พูล กลับบุกไปพ่ายให้กับ บอร์นมัธ ทีมอันดับสุดท้ายในตารางคะแนนแบบสุดช็อก 1-0 ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นสกอร์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ และนี่คือ 5 ประเด็นที่ควรนำมาพูดถึงกับผลงานที่น่าผิดหวังในเกมล่าสุดของ เยอร์เก้น คล็อปป์ และลูกทีม

1. ความไม่สม่ำเสมอของ ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก

ฤดูกาลของ ลิเวอร์พูล ยังไม่ได้บทสรุปที่ชัดเจนนัก แต่ผลการแข่งขันในเกมกับ บอร์นมัธ ที่สนาม วิตาลิตี สเตเดียม นั้น แสดงให้เห็นว่า พลพรรค “หงส์แดง” ไม่แข็งแกร่งพอทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ รวมถึง แท็คติก และเทคนิคก็ยังไม่ดีพอ

แม้จะออกสตาร์ทเกมได้ดี และดูเหมือนจะควบคุมเกมได้เหนือเจ้าบ้าน แต่ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถสร้างจังหวะอันตรายได้เลย พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความเชื่องช้า ขาดสมาธิ และไม่สู้เต็มที่ในการหาทางเจาะตาข่าย บอร์นมัธ

ลูกทีมของ คล็อปป์ ไร้ความคงเส้นคงวาอย่างหนัก ไม่มีความดุดัน และไม่มีแรงกระหายในการเอาชนะ ซึ่งรวมๆแล้วมันคือ ฟอร์มการเล่นที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก

2. ปฏิกิริยา และการแก้เกมของ คล็อปป์

ไม่มีการตั้งถาม หรือความคาดหวังจากผู้เล่นว่า พวกเขาทำอะไรบ้างหลังจากเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด และปฏิกิริยา รวมถึงสีหน้าของ คล็อปป์ ก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า เจ้าตัวรู้สึกผิดหวังกับฟอร์มการเล่นของนักเตะ “หงส์แดง” เป็นอย่างมาก

คล็อปป์ ไม่พอใจกับผลงานหลังจบครึ่งแรก ซึ่งเห็นได้จากการที่ตัดสินใจเปลี่ยนตัว ดิโอโก้ โชต้า ลงมาแทน ฮาร์วีย์ เอลเลียยต์ ตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง แต่หัวหอกชาวโปรตุเกส ก็ไม่สามารถสร้างผลกระทับกับทีมได้มากพอนอกจากจังหวะสับไกยิง 1 ครั้ง

หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง เกมของ ลิเวอร์พูล ยังคงไม่ดีขึ้น คล็อปป์ จึงตัดสินใจถอด เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์, ดาร์วิน นูนเญซ และ ฟาบินโญ่ ออกมา โดยให้ เจมส์ มิลเนอร์, โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาแทน

อย่างไรก็ตาม เกมของ ลิเวอร์พูล ที่ คล็อปป์ แก้ไปยังไม่กระเตื้อง โดยนักเตะ “หงส์แดง” ดูขาดไอเดีย และตื้อตันไปหมดในการสร้างโอกาสทำประตู

3. วันที่ยากลำบากของ เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ และแนวรับ

อาจมีการพูดคุยในวงกว้างขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวะที่ บอร์นมัธ ได้ประตูขึ้นนำ แต่คนที่โดนวิจารณ์มากที่สุดคือ ฟาน ไดจค์ ที่ปล่อยให้ คองโก วาตตารา ปีกเจ้าบ้านกระชากผ่านไปดื้อๆ ก่อนจะจ่ายให้ ฟิลิปป์ บิลลิง ซัดเข้าไปง่ายๆ

ก่อนหน้านี้ ปราการชาวดัตช์ โดนโจมตีอย่างหนักถึงผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่า สภาพร่างกายไม่เหมือนเดิมแล้ว เนื่องจากลงเล่นกรำศึกหนักมาติดๆกันทั้งกับทีมชาติฮอลแลนด์ และ ลิเวอร์พูล

ฟาน ไดจค์ ไม่แข็งแกร่ง และอยู่ในช่วงพีคเหมือนเดิมอีกแล้ว เขาสามารถโดนเลี้ยงผ่านได้ง่าย ๆ และช้าลงกว่าเดิมเยอะมาก ซึ่งเป็นจุดหลักที่ทำให้ คล็อปป์ ต้องสร้างแนวรับสายเลือดใหม่ขึ้นมาในฤดูกาลหน้า

4. ปัญหาเกมรุกไม่ทำงานในวันที่ต้องการประตู  

ลิเวอร์พูล มาเยือน บอร์นมัธ ซึ่งเป็นทีมเสียประตูมากกว่าทีมอื่นๆ ในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ และ “หงส์แดง” ก็ไม่สามารถยิงประตูได้เลยแม้แต่ลูกเดียว โดยจังหวะชัดเจนคือ ครึ่งหลังที่ โชต้า ซัดไป แต่ เนโต้ นายทวารเจ้าถิ่นเซฟได้

ขณะเดียวกัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกชาวอิยิปต์ ก็ยิงจุดโทษหลุดกรอบไปแบบดื้อๆ ขณะที่ นูนเญซ หายไปจากเกมจนโดนเปลี่ยนตัวออก และ โคดี กัคโป หัวหอกชาวดัตช์ ไม่สามารถสร้างผลกระทบใดๆในเกมรุกแลย

แนวรุก ลิเวอร์พูล ชุดนี้เปลี่ยนไปจากทีมเดิมในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเกมนั้น พวกเขาเล่นอย่างรวดเร็ว ผ่านบอลเฉียบคม และการจบสกอร์อย่างเฉียบขาด

5. ศึกหนักที่รออยู่ของ ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก

เมื่อ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถทำประตูทีมบ๊วยอย่าง บอร์นมัธ ได้ นั้น การไปเยือน เรอัล มาดริด ที่สนาม ซานติอาโก เบอร์นาบิว ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลก 2 และต้องการถึง 3 ประตู ในการยิงใส่ทีมที่แข็งแกร่งอย่างพลพรรค “ราชันชุดขาว” คงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน หลังจากเกมกับ ฟูแล่ม ถูกเลื่อนออกไป หลังกลับมาจากเบรกทีมชาติ ลูกทีมของ คล็อปป์ ต้องเผชิญหน้ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และ อาร์เซน่อล 3 เกมติดต่อกัน ซึ่งถือว่า หนักหนาสาหัสมากเลยทีเดียว

บางทีในอีก 1 เดือนข้างหน้ามันก็อาจชัดเจนแล้วว่า บทสรุปในฤดูกาลนี้ของ ลิเวอร์พูล จะลงเอยอย่างไร และจะเป็นสิ่งที่บรรดาแฟนบอล “เดอะ ค็อป” คาดคิดกันเอาไว้ก่อนหรือไม่ กับฟอร์มที่เอาแน่เอาเอานอนไม่ได้ขอทีมในซีซั่นนี้

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top