ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ยังคงไว้ใจได้เสมอเมื่อเล่นใน แอนฟิลด์ หลังเปิดบ้านไล่ตามตีเสมอทีมจ่าฝูงอย่าง อาร์เซนอล ของโค้ช มิเกล อาร์เตต้า แบบสุดมันส์ แบบน่าจะพลิกชนะได้ด้วย
รายละเอียดในเกมมีเรื่องให้พูดถึงมากมาย ทั้งแท็คติคใหม่ที่ คล็อปป์ วางให้กับลูกทีม รวมถึงบรรยากาศในสนาม และนี่คือ 5 เรื่องที่ต้องพูดถึงหลังเกมเจ๊า “ไอ้ปืนใหญ่” แบบสนุก
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2023/04/1-1-1.webp)
1. แอนฟิลด์ ยังมีมนต์ขลังเสมอสำหรับ ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก
ก่อนเกมนี้ ลิเวอร์พูล ตามหลัง อาร์เซนอล มากถึง 29 แต้ม และรั้งอันดับ 8 ของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยห่างจากอันดับท็อปโฟร์มากถึง 13 แต้ม ซึ่งเทียบจากฟอร์มการเล่นแล้ว “หงส์แดง” สู้ผู้มาเยือนไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ในครึ่งชั่วโมงแรกที่โดน อาร์เซนอล ซัดไปก่อน 2 ประตู นั้น เกมของ ลิเวอร์พูล ดูสะเปะสะปะ และนักเตะดูหลายเหมือนยังไม่ตื่น ซึ่งจากมุมมองหลายๆคนคิดว่า ลูกทีมของ คล็อปป์ ไม่สามารถรักษาผลการแข่งขันในเกมนี้ไว้ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ประตูตีไข่แตกของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนจบครึ่งแรก เหมือนเป็นการปลุกพลังในสนาม แอนฟิลด์ กลับมาอีกครั้ง ก่อนที่ “หงส์แดง” จะไล่บดขยี้ทีมเยือนตลอดทั้งครึ่งหลัง และได้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน หัวหอกแซมบาที่ลงมาเป็นตัวสำรองยิงตีเสมอในช่วงท้ายเกม
ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองจะเก็บชัยชนะได้หลายครั้งจากการพลาดจุดโทษของ ซาลาห์ และลูกหลุดเดี่ยวของ ดาร์วิน นูนเญซ รวมถึงลูกซัดจ่อๆของ อิบราฮิมา โกนาเต้
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2023/04/22.webp)
2. เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในตำแหน่งกองกลาง
บางครั้ง อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ถูกมองว่า ขยับไปยืนในแดนกลางระหว่างเกมบ่อยมาก แต่ไม่ชัดเจนเท่ากับในเกมนี้มาก่อน และถึงแม้ในช่วงเวลาที่ ลิเวอร์พูล ตั้งรับ ฟูลแบ็ควัย 24 ปี ยังคงประจำการอยู่บริเวณกลางสนาม
ผลกระทบอีกข้อหนึ่งคือ โกนาเต้ ต้องขยับออกมายืนควบคุมพื้นที่แนวรับทางฝั่งขวามากขึ้น ซึ่งในช่วงแรกอาจจะสับสันไปบ้างกับแท็คติคใหม่ แต่หลังจากจับจังหวะเกมได้ กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส ก็กลับมาทำหน้าที่ได้แข็งแกร่งเหมือนเดิม
ในเกมนี้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และการเล่นของเจ้าตัวก็สร้างประโยชน์กับทีมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งดูเหมือนว่า คล็อปป์ จะค้นพบแนวทางการเล่นใหม่ที่จะให้ลูกทีมได้ใช้ไปจนจบฤดูกาลนี้
อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำหน้าที่ปั่นป่วนแนวรับของ อาร์เซนอล ได้ตลอด และจากการเปิดบอลจองเจ้าตัวก็ทำให้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นอยู่หลายครั้ง ซึ่งรวมถึงจังหวะเตะบอลลอดขา โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ไปแอสซิสต์ให้ ฟีร์มิโน โหม่งตีเสมอด้วย
![ลิเวอร์พูล ทีมดัง](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2023/04/3-3.webp)
3. สาวก “เดอะ ค็อป” ถูกปลุกให้ตื่น
อุณหภูมิของเกมที่ แอนฟิลด์ อาจลดลงไป จาก ลิเวอร์พูล โดนนำไปก่อนถึง 2 ประตู แต่หลังจากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มีปัญหากับ กรานิต ชาก้า กองกลางชาวสวิตเซอร์แลนด์ของ อาร์เซนอล นั้น เสียงเชียร์กลับมาดังกระหึ่มอีกครั้ง
มีหลายจังหวะที่เริ่มเดือด และทำให้เกมหยุดลงจากการปะทะกันของผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่าย แต่มันกลับกลายเป็นการกระตุ้นให้กองเชียร์ “เดอะ ค็อป” ร้องเพลงกระตุ้นนักเตะกันอย่างสุดเสียง และประตูตีแข่แตกของ ซาลาห์ ทำให้ แอนฟิลด์ ถูกปลุกอีกครั้ง
นอกจากจากนี้ จังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้าย ลิเวอร์พูล โดนไลน์แมนฟันศอกจากการเข้าไปสอบถามบางอย่าง ทำให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล ยิ่งทวีความเดือดดาล ก่อนจะร่วมพลังส่งเสียงเชียร์ดังไปทั่วสนาม
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2023/04/4-4.webp)
4. ติอาโก้ อัลคันทาร่า กลับมาแล้ว
กองกลางจอมเก๋าชาวสเปน พักยาวจากปัญหาอาการบาดเจ็บไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเห็นได้ชัดว่า แดนกลางของ ลิเวอร์พูล ไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม และขาดการสร้างสรรค์เกมจากแนวลึก รวมถึงการผ่านบอลที่แน่นอน
ในเกมนี้ ติอาโก้ ได้ลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 60 และเจ้าตัวก็ทำให้ ลิเวอร์พูล มีกจังหวะการเล่นที่นิ่ง สมดุล และแน่นอนมากขึ้น รวมถึงทำให้แดนกลางของ ลิเวอร์พูล สามารถควบคุมเกมได้เหนือกว่า อาร์เซนอล
การกลับมาของ ติอาโก้ จะทำให้ คล็อปป์ มีทางเลือกหลากหลายมากขึ้นในการจัดทีมช่วงท้ายฤดูกาล และสามารถสลับหมุนเวียนนักเตะได้
![ลิเวอร์พูล ทีมดัง](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2023/04/5-5.webp)
5. โอกาสคว้าท็อปโฟร์ของ ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่ง พรีเมียร์ลีก
เป็นเกมสุดท้ายที่ยากที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในช่วง 9 เกมที่เหลือของฤดูกาล โดย 3 เกมที่ผ่านมา “หงส์แดง” ต้องเผชิญหน้ากับทีมระดับท็อป 3 นัดติดต่อกันไล่ตั้งแต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และล่าสุดกับ อาร์เซนอล
ลูกทีมของ คล็อปป์ เหลือบิ๊กแมทช์อีกเกมเดียวคือ เปิดบ้านพบกับ ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ซึ่งอาจเป็นเกมมีความสำคัญสำหรับทั้งสองทีมในการต่อสู้เพื่อตั๋วฟุตบอลยุโรป แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายของ ลิเวอร์พูล ที่จะเอาขนะได้ทุกเกมที่เหลือของฤดูกาลนี้
การเริ่มต้นที่ย่ำแย่ของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ คงบอกได้ว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้แล้วที่พวกเขาจะได้ไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซันหน้า