ส่วนผสมที่ลงตัวของ ลิเวอร์พูล

ความคิดที่สับสนไม่เคยเป็นเรื่องดีสำหรับผู้จัดการทีมทุกคนบนโลกนี้ และสำหรับ ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาแล้วในยุคที่ เบรนแดน ร็อดเจอรอดีตโค้ชชาวไอร์แลนด์เหนือคุมทีม

ในช่วงสิ้นสุดฤดูกาล 2014/15 ร็อดเจอร์ส เหมือนหาตัวตน และหาทางออกที่เหมาะสมให้กับ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ เขาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นอยู่หลายครั้งเพื่อหาคำตอบสำหรับปัญหาของทีม “หงส์แดง” และมันก็เป็นฉนวนที่ทำให้เจ้าตัวโดนไล่ออกช่วงกลางเดือนตุลาคมปี 2015 ในท้ายที่สุด

แน่นอนว่า สำหรับ เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมันคนปัจจุบันของ ลิเวอร์พูล ยังไม่ถึงจุดเดียวกันกับที่ ร็อดเจอร์ส เคยเผชิญ แต่ก็มีการตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับการตัดสินใจของอดีตกุนซือ ไมนซ์ และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่แปลกประหลาดอยู่หลายๆครั้ง

ลิเวอร์พูล ทีมดัง

เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่ง อังกฤษ ต้องหาความลงตัว

คล็อปป์ สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับหลายๆคนอาทิ ในเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกไปพ่าย ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-0 ที่สนาม เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ด้วยการปรับแท็คติคเป็นระบบ 4-4-2 แบบไดมอนด์ โดยให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กองกลางชาวสเปนออกสตาร์ทในตำแหน่งหมายเลข 10

รายงานของ WhoScored ระบุว่า ติอาโก้ เคยลงเล่นในตำแหน่งดังกล่าวไปเพียง 13 นัด โดยครั้งล่าสุดที่ห้องเครื่องชาวสเปนยืนเป็นเพลย์เมคเกอร์ต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2017/18 ที่เจ้าตัวเล่นกับอดีตต้นสังกัดเก่าอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน

ผลงานของ ลิเวอร์พูล ที่ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม นั้น เข้าขั้นย่ำแย่สุดๆจน คล็อปป์ ต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นสำรองมากถึง 4 คน ในช่วง 21 นาทีสุดท้ายของเกม ก่อนจะปรับระบบมาเป็น 4-3-3 ตามเดิม โดยให้ ติอาโก้ ขยับลงต่ำมาเล่นเป็นกองกลางตัวรับหน้าแผงแบ็คโฟร์

หลังปรับเปลี่ยนนักเตะ และตำแหน่งการยืนของ ติอาโก้ โดยมี นาบี เกอิต้า ดาวเตะชาวกินี และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ดาวรุ่งชาวอังกฤษ ยืนขนาบข้างนั้น ลิเวอร์พูล ก็เริ่มดูกระเตื้องขึ้น ซึ่งมันก็กลายเป็นคำถามอีกว่า ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ คล็อปป์ จะให้ ติอาโก้ เล่นในบทบาทใดต่อไป

ติอาโก้ เป็นนักเตะคุณภาพ และมีประสบการณ์มากมาย นอกจากนี้ เขายังคุ้นเคยกับการยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับในระบบ 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 ที่ บาเยิร์น ในช่วงที่ร่วมงานกับ ฮานซี่ ฟลิค และก็ทำผลงานออกมาได้เป็นอย่างดี

ปรับเปลี่ยนบทบาท ติอาโก้ อัลกันตาร่า

แนวคิดในการเล่น ติอาโก้ ทำให้นึกถึงยุค ร็อดเจอร์ส อีกครั้ง โดยทีม ลิเวอร์พูล ชุดรองแชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2013-14 ที่มี สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีม “หงส์แดง” ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวต่ำหน้าแผงหลัง และขนาบข้างด้วยบรรดากองกลางอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ โจ อัลเลน

เจอร์ราร์ด ทำหน้าที่เป็นเพลย์เมคเกอร์จากแนวลึกคอยกระจายบอลไปทั่วสนาม และวางบอลยาวให้กับบรรดาแนวรุกอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ฟิลิเป้ คูคินโญ่ ซึ่ง ติอาโก้ ก็สามารถทำหน้าที่นั้นได้เช่นเดียวกัน

ติอาโก้ เป็นนักเตะที่ควบคุมจังหวะเกมได้เป็นอย่างดี ครองบอลได้อย่างยอดเยี่ยม เต็มไปด้วยเทคนิค ไหวพริบ อ่านเกมเด็ดขาด และประสบการณ์โชกโชน รวมถึงมีการผ่านบอลสั้น-ยาวที่แม่นยำ นอกจากนี้ ยังสมารถเข้าปะทะเพื่อชะลอเกมคู่แข่งได้อีกด้วย

การที่อดีตแข้ง บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น ได้ลงมายืนเป็นกองกลางตัวต่ำนั้น จะทำให้จังหวะการเล่นของ ลิเวอร์พูล มีความแน่นอน และมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นทางเลือกของ คล็อปป ในการทำให้ “หงส์แดง” กลับมาครองเกมเหนือคู่แข่งได้อีกครั้ง

มีสถิติที่น่าสนใจอย่างหนึ่งจาก Opta คือ ในบรรดามิดฟิลด์ทุกคนของศึก พรีเมียร์ลีก ที่เล่นอย่างน้อย 900 นาทีในฤดูกาลนี้ ติอาโก้ อยู่อันดับที่ 5 สำหรับความถี่ในการเข้าปะทะคู่ต่อสู่ ดังนั้น ลิเวอร์พูล มีโอกาสในการเอาบอลกลับมาครองครองได้

ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าตัวเลขที่ Opta ระบุไว้มันจะคงอยู่ตลอดทั้งฤดูกาลหาก ติอาโก้ ขยับลงมายืนเป็นโฮลดิ้งมิดฟิลด์ แต่มันก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยในช่วงที่ เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ พากันฟอร์มตก และดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับแผงกองกลางของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้มันคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ด้วยคุณภาพของ ติอาโก้ ก็จะช่วยปรับปรุงสิ่งต่างๆ และดึงให้ทีมไม่ตกต่ำไปกว่านี้ และหาก คล็อปป์ ยังหาส่วนผสมที่ลงตัวไม่เจอนั้น บางทีดาวเตะชาวสเปนวัย 31 ปีคนนี้อาจจะช่วยคลี่คลายสถานกาณณ์ต่างๆได้

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top