มันเป็นอีกช่วงเวลาที่ แฟนบอล ลิเวอร์พูล แห่งศึก พรีเมียร์ลีก ต้องเหนื่อยใจกับผลงานของทีมรัก หลังจาก 2 เกมหลังสุดรวมทุกรายการไม่พบกับชัยชนะเลย โดยพลพรรค “หงส์แดง” เปิดรัง แอนฟิลด์ พ่าย เรอัล มาดริด คาบ้าน 2-5 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ต่อด้วยบุกไปเสมอกับ คริสตัล พาเลซ แบบจืดชืด 0-0
แม้เกมกับ มาดริด และ พาเลซ ผลลัพธ์จะไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ แต่ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ยังพอมีมุมดี ๆ ให้เห็นในภาพรวมอยู่บ้างในช่วงเวลายังไม่ฟื้นไข้แบบนี้ และนี่คือ 3 ข้อบวก และ 3 ข้อลบ ที่เป็นประเด็นน่าสนใจให้นำมาพูดถึงกัน
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2023/02/ฟาน-ไดจ์ค-1.webp)
1. ลิเวอร์พูล แห่งศึก พรีเมียร์ลีก เก็บคลีนชีตในลีกได้ 3 เกมติดต่อกัน
ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล เสียประตูให้กับคู่แข่งแทบทุกเกมไม่ว่าจะเล่นในบ้าน หรือนอกบ้าน และการไม่เสียประตู 3 นัดติดต่อกันใน พรีเมียร์ลีก ให้กับ เอฟเวอร์ตัน, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ พาเลซ คงไม่มีอะไรที่ยอดเยี่ยมไปกว่านี้อีกแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ที่ ลิเวอร์พูล เก็บคีลนชีตได้ 3 นัดติดต่อกัน ซึ่งหากนับผลงานในลีกของซีซั่นนี้ “หงส์แดง” เก็บคลีนชีตได้เพียง 8 เกม โดย คล็อปป์ เปิดเผยว่า การไม่เสียประตูในเกมกับ พาเลซ เป็นสัญญาณที่เริ่มดีขึ้น
“นอกเหนือจากตอนที่พวกเขายิงชนคานแล้ว พวกเขายิงไม่ตรงกรอบ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีเช่นกัน มันเป็นเกมที่ยาก แต่เราก็มีแต้ม เก็บคลีนชีตได้ และต้องเดินหน้าต่อไป” อดีตนายใหญ่ ไมนซ์ และ โบรุสเซีย ดอร์มุนด์ กล่าว
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2023/02/โชต้า.webp)
2. ดิโอโก้ โชต้า พร้อมกลับมาลงสนาม
เป็นครั้งแรกในรอบ 120 วันที่ หัวหอกชาวโปรตุเกส กลับมาลงสนามในฐานะ 11 คนแรกให้กับ ลิเวอร์พูล และในเกมกับ พาเลซ นั้น เจ้าตัวลงเล่นไปถึง 71 นาที แต่น่าเสียดายที่ โชต้า ยังค้นหาจังหวะที่เฉียบคมของตัวเองไม่เจอ
มันไม่ใช่ฟอร์มที่ดีที่สุดของ โชต้า ซึ่งว่ากันตามจริง เขายังห่างไกลจากระดับการเล่นที่เคยทำได้อยู่ไกลพอสมควร แต่มันก็เป็นอีกก้าวหนึ่งที่สาวก “เดอะ ค็อป” ได้เห็นว่า เจ้าตัวคืนสนามแล้ว และอยู่ระหว่างปรับจูนสิ่งต่างๆให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น
คล็อปป์ กล่าวว่า “สำฟรับผมคิดว่า ฟอร์มโดยรวมของเขาดีมากจริงๆ ตอนนี้เราพยายามทำให้เขาเรียกจังหวะกลับคืนมา แต่มันก็ต้องใช้เวลาสักพัก จนถึงตอนนี้ มันเป็นฤดูกาลที่ยากสำหรับเขาจริงๆ แน่นอน เขาเล่นได้ดีกว่านี้ได้ แต่ตอนนี้มันยังไม่เป็นบแบบนั้น นั่นคือสิ่งที่เราต้องผ่านไปให้ได้ และนั่นคือสิ่งที่เราทำ”
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2023/02/เทรนท์.webp)
3. ไม่แพ้ใครในลีกมา 3 เกมติดต่อกัน
นับเป็นครั้งแรกในปฏิทินปี 2023 ที่ ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครในลีกถึง 3 เกมติดกัน และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียง 2 ครั้งเท่านั้นในฤดูกาลนี้
ผลที่ออกมาในเกมกับ พาเลซ คือ ลิเวอร์พูล ยังคงรักษามองถึงโควตาท็อปโฟร์ไว้ได้ โดยปัจจุบัน “หงส์แดง” อยู่อันดับที่ 7 เก็บได้ 36 คะแนน มีแต้มตามหลัง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 4 อยู่ 9 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่าถึง 2 เกม
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2023/02/เฮนโด้-มิลเนอร์.webp)
4. ควรพัก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เจมส์ มิลเนอร์
จังหวะบล็อกในครึ่งแรกของ เฮนเดอร์สัน ในเกมกับ พาเลซ นั้น น่าจะสมบูรณ์แบบหากไม่ใช่ฟรีคิกของทีมตัวเองที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นคนยิง และดูเหมือนว่า วิถีของบอลน่าจะเป็นสกอร์ค่อนข้างสูง
ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ในวัย 37 ปี ก็ไม่ควรได้ลงเป็นตัวจริงแล้ว เนื่องจากเจ้าตัวดูเชื่องช้า อ่อนล้า และโรยลาอย่างเห็นได้ชัด และการมายืนจับคู่กับ เฮนเดอร์สัน ก็ทำให้กองกลางของ ลิเวอร์พูล กลายเป็นบ่อน้ำมันชัดๆ
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2023/02/มาติป.webp)
5. ฟอร์มของนักเตะยังไม่คงเส้นคงวา
เราต้องยอมรับความจริงว่า นี่ยังห่างไกลจากฟอร์มการเล่นเดิมที่นักเตะ ลิเวอร์พูล เคยทำได้เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ยกเว้นผลงานส่วนตัวของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารมือ 1 ชาวบราซิล ที่ยังไว้ใจได้แม้จะมีความผิดพลาดบ้างก็ตาม
เวลานี้ คีย์แมนของทีมอย่าง อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เวอร์จิล ฟาน ไดจค์, เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฟอร์มหลุดกันไปดื้อ รวมถึงพวกตัวเสริมที่กู่ไม่กลับอย่าง นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2023/02/ดาร์วิน-นูนเญซ.webp)
6. อาการบาดเจ็บของ ดาร์วิน นูนเญซ ไม่พร้อมลงสนามช่วย ลิเวอร์พูล แห่งศึก พรีเมียร์ลีก
เกมกับ พาเลซ นับเป็นนัดที่ 4 ในฤดูกาลนี้แล้วที่ ลิเวอร์พูล ไม่มี นูนเญซ ลงสนามเป็น 11 คนแรกเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งเป็นผลมาจากอาการบาดเจ็บที่ไหล่ของเจ้าตัวในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
การไม่มีหัวหอกชาวอุรุกวัยลงเล่นตลอด 4 เกม นั้น ทำให้ ลิเวอร์พูล ยิงประตูคู่แข่งไม่ได้ถึง 3 เกม ยกเว้นในเกม เอฟเอ คัพ ที่บุกไปเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นูนเญซ กลายเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ไปเรียบร้อยแล้ว เขาสร้างความปั่นปวนให้กับแนวรับคู่แข่งได้อยู่เสมอ แม้จะพลาดโอกาสไปบ่อยครั้งก็ตาม แต่การที่มีเข้าอยู่ในสนามนั้น มันเพิ่มความอันตรายให้กับทีมอยู่มากทีเดียว