ลิเวอร์พูล กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตลาดซื้อขายซัมเมอร์ โดยเฉพาะในแดนกลางที่มีเป้าหมายหลักอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม ที่ขึ้นลิสต์มาเป็นอันดับ 1 ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ หากแต่ปัญหาใหญ่ก็คือพวกเขาจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าตัวมหาศาลถึง 130 ล้านปอนด์ตามที่ ดอร์ทมุนด์ ตั้งเอาไว้ได้ นี่เป็นสิ่งที่ปฟนหงส์แดงทุกคนทราบกันดี
แม้ว่าจะมีทางเลือกอื่นที่น่าสนใจอย่าง เมสัน เมาท์, รูเบน เนเวส, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ มาเธอุส นูเนส แต่การจะคว้านักเตะเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะอย่างน้อยพวกเขาจะต้องมีเงินในมือไม่ต่ำกว่า 50 ล้านปอนด์ ซึ่งราคานี้ก็ซื้อได้แค่เพียงคนเดียวในขณะที่นายใหญ่ชาวเยอรมันต้องการนักเตะใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 รายในแดนกลาง
อย่างไรก็ตาม, ต้องไม่ลืมว่ายังมีผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ ลิเวอร์พูล ต้องการเพิ่มเติมด้วย เพราะผลงานที่ผ่านมาชวนให้สงสัยว่าบรรดานักเตะตัวหลักที่มีอยู่จะยังรับมือกับการแข่งขันที่ดุเดือดเลือดพล่านเช่นนี้ได้อีกหรือไม่ รวมทั้งในซัมเมอร์นี้ก็คาดว่า โจเอล มาติป และ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ อาจจะต้องย้ายทีมเพื่อเปิดโอกาสให้มีการสร้างขุมกำลังใหม่ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อหันไปมองในตลาดซื้อขายที่กำลังจะเปิดทำการ เราจะพบว่ายังมีผู้เล่นฝีเท้าดีอยู่จำนวนหนึ่งที่กำลังจะหมดสัญญาซึ่งมีทั้งในตำแหน่งมิดฟิลด์และกองหลังตามที่นายใหญ่ หงส์แดง ต้องการ พวกเขาเหล่านี้จึงน่าจะเป็นทางออกสำหรับทีมที่มีนโยบายจ่ายน้อยแต่คุ้มค่าอย่าง ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์
1. อาเดรียน ราบิโอต์ – มิดฟิลด์ตัวกลาง – ยูเวนตุส
ราบิโอต์ กลับมาเป็นกำลังสำคัญของทั้งสโมสรและทีมชาติในปลายซีซันที่ผ่านมา และไปโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นใน ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ จนตกเป็นข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่พักใหญ่ก่อนที่ดีลจะล่มไป แต่เจ้าตัวก็ยังคงมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับ ยูเวนตุส จากการลงเล่นไปทั้งหมด 33 นัดในทุกรายการในซีซันนี้
ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นและการที่สัญญากำลังจะหมดลงในเดือนมิถุนายนทำให้กองกลางวัย 27 ปีกลับมามีข่าวกับทีม ปีศาจแดง อีกครั้ง รวมทั้ง ลิเวอร์พูล ที่เจ้าตัวแอบหยอดว่ามี สตีเวน เจอร์ราร์ด เป็นไอดอลตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งเมื่อดูจากความต้องการของ เยอร์เก้น คล็อปป์ แล้วแข้งรายนี้น่าจะช่วยเติมความแข็งแกร่งและคลาสบอลในแดนกลางได้อย่างมากมาย อีกทั้งยังมีรูปร่างที่สูงใหญ่พอที่จะปะทะกับบรรดาขาโหดใน พรีเมียร์ลีก ได้ ที่สำคัญคือเขาจะสามารถทดแทนการจากไปของ นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน ได้เป็นอย่างดีด้วย
2. เอลเลียส ชคีรี – มิดฟิลด์ตัวรับ – เอฟซี โคโลญจน์
หลายคนอาจเลิกคิ้วสงสัยว่านักเตะชื่อแปลกรายนี้คือใครและมาทำอะไรในลิสต์นี้ ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่จะไม่มีคนรู้จักแข้งชาวตูนิเซีย เพราะเขาเป็นผู้เล่นในแบบฉบับของการปิดทองหลังพระตัวจริงเสียงจริง และเป็นตัวหลักในการลงเล่นให้กับทีม “แพะบ้า” โคโลญจน์ มาตลอดในซีซันนี้ โดยลงสนามในทุกรายการไป 32 นัดทำได้ 6 ประตูกับ 1 แอสซิสต์
แต่สิ่งที่น่าทึ่งมากกว่านั้นก็คือสถิติจาก FBref บ่งบอกอย่างชัดเจนว่า ชคิรี คือมิดฟิลด์ที่มีสถิติเกมรับที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งของวงการ โดยเจ้าตัวกำลังจะหมดสัญญาในเดือนมิถุนายน ซึ่งการได้กองกลางระดับนี้มาร่วมทีมจะทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ มีขุมกำลังเชิงลึกในการสู้ศึก พรีเมียร์ลีก แบบยาว ๆ แถมอายุ 27 ปีก็ถือว่าอยู่ในช่วงพีค ในขณะที่ค่าเหนื่อยก็ไม่แพงมาก เหมาะสมกับฐานานุรูปด้วยประการทั้งปวง
3. อีวาน เอ็นดิคก้า – เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ – ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟริต
ปกติแล้วตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คคือจุดแข็งจุดหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ฤดูกาลนี้ นักเตะส่วนใหญ่เริ่มที่จะโรยราจากการกรำศึกหนักและอายุอานามก็มากขึ้น อีกทั้งฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวาเหมือนเดิมทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ มองว่านี่เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่เขาต้องการเสริมความแข็งแกร่งในช่วงซัมเมอร์
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าหน้าตาของเซ็นเตอร์แบ็ค หงส์แดง จะเป็นอย่างไรในฤดูกาลหน้า แต่ที่แน่ ๆ คือจะมี 2 รายที่ต้องย้ายออกไปนั่นคือ โจเอล มาติป และ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ และฟอร์มของ โจ โกเมซ ก็ยังเป็นคำถาม ดังนั้นที่พอจะฝากผีฝากไข้ได้คงจะมีแต่ ฟาน ไดค์ และ โคนาเต้ ซึ่ง 2 คนนี้ก็ห้ามเจ็บห้ามตาย, การได้ เอ็นดิคก้า เข้ามาเพิ่มเติมจึงเป็นไอเดียที่น่าสนใจ ด้วยฟอร์มที่กำลังเข้ารูปเข้ารอยและอายุแค่ 23 ปี ยังสามารถใช้งานได้อีกนาน ที่สำคัญการได้มาแบบฟรี ๆ ยิ่งคุ้มค่า
มีการพูดกันถึงขนาดที่ว่าดาวเตะ แฟรงค์เฟิร์ต อาจไม่ใช่แค่การมาเป็นแบ็คอัพเท่านั้น แต่เขามีศักยภาพมากพอที่จะเบียดแย่งตำแหน่งกับ โคนาเต้ รวมทั้งสามารถทดแทน ฟาน ไดค์ ที่อายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้ในอนาคตด้วย
4. สเตฟาน เดอ ฟราย – เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ – อินเตอร์ มิลาน
อินเตอร์ กำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการต่อสัญญากับแข้งดัตช์รายนี้ให้ได้ หลังจากที่พวกเขาเพิ่งเสีย มิลาน สคริเนียร์ เซ็นเตอร์ตัวเก่งอีกคนให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นที่เรียบร้อย โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการเซ็นสัญญาล่วงหน้ากันไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาและการย้ายทีมก็จะเกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์
กระนั้นสถานการณ์ของ เดอ ฟราย ก็ถือว่าน่าสนใจ เพราะนักเตะยังไม่ได้ตกลงเซ็นสัญญาใหม่กับทีม งูใหญ่ และ ลิเวอร์พูล ก็ยังพอมีลุ้นในการคว้าตัวมาร่วมทีมแบบฟรี ๆ ได้ โดยพวกเขามีข้อได้เปรียบคือการมี เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่เป็นคนดัตช์ด้วยกันอยู่ในทีม น่าจะทำให้การพูดคุยง่ายขึ้น
แม้ว่าจะมีอายุอานามเข้าปีที่ 31 แล้วแต่ด้วยประสบการณ์อันโชกโชนก็เชื่อว่าเขาจะเป็นแบ็คอัพที่ดีให้กับ ลิเวอร์พูล ในการลุ้นแชมป์ระยะยาวได้
ขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก ufabet