เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คืออีกหนึ่งนักเตะที่โดนวิจารณ์อย่างหนักหน่วงในเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเสมอกับ คริสตัล พาเลซ 0-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งในซีซันนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ซีซั่นที่ดีของเขาซักเท่าไหร่นัก…
บางทีข่าวแบบนี้ คงทำให้เด็กหงส์รู้สึกชินชาไปเสียแล้ว เนื่องจากฟูลแบ็คจอมครอสบอลรายนี้ตกเป็นเป้าหมายของแฟนบอลและกูรูมาโดยตลอดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2022-2023 เป็นต้นมา แต่จริง ๆ ต้องบอกว่าเขาโดนเล่นงานแบบนี้มาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน ๆ แล้วก็ว่าได้
ซีซั่นก่อนหน้านี้ เทรนท์ กลายเป็น “แพะ” ในเกมที่เสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด และ ไบรท์ตัน ด้วย เพราะคู่แข่งได้ประตูจากการครอสบอลข้ามแดนหลังไปยังฝั่งซ้ายของตัวเอง ซึ่งตรงนั้นคือเกมรับฝั่งขวาที่เป็นพื้นที่รับผิดชอบของแข้งวัย 24 ปี พวกเขาใช้การบอมบ์เข้าใส่จุดนั้นแทบทุกครั้งที่ได้บอล และก็แทบทุกครั้งเหมือนกันที่มันเกือบจะทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องเสียประตู
จำได้ว่าเมื่อโดนวิจารณ์เรื่องนี้, คล็อปป์ ก็แก้ลำด้วยการให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาช่วยซ้อนในเกมรับอีกที ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ตอนนั้นผลงานในภาพรวมของทีมกำลังไปได้ดีจนทำให้จุดอ่อนตรงนี้ถูกมองข้ามไปได้
แต่กับฤดูกาลนี้ เทรนท์ กลับมาอยู่ในหน้าสื่อบ่อยครั้งด้วยความผิดพลาดในเกมรับที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็รวมถึงในเกมที่เสมอกับ พาเลซ ที่เขาก่อความผิดพลาดถึง 2 ครั้ง จนเกือบจะทำให้ทีมเสียประตู และนั่นคงจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวแบ็คขวาทีมชาติอังกฤษออกจากสนามในนาทีที่ 71 และให้ เจมส์ มิลเนอร์ ขยับลงมาเล่นแทนในช่วงที่เหลือ
ผลการแข่งขันจบลงที่ ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงแค่บุกไปแบ่ง 1 แต้มจากถิ่นของ คริสตัล พาเลซ ด้วยสกอร์ 0-0 ทั้งที่สถิติของ หงส์แดง ในการไปเยือนคู่แข่งทีมนี้อยู่ในระดับที่เรียกได้เลยว่า ‘ข่มอย่างหนัก’ เพราะทีม ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายยัดเยียดความปราชัยให้ คริสตัล พาเลซ คาถิ่น เซลเฮิร์ส ปาร์ค มาได้ยาวนานถึง 7 ปีติดต่อกัน, แต่กับในเกมนี้ ถ้ามองเรื่องสกอร์และจังหวะต่าง ๆ ในเกมแล้ว เด็กหงส์บางรายถึงกับกล้าใช้คำพูดได้เลยว่า ‘รอดตายกลับมาได้อย่างหวุดหวิด‘
และแม้ว่า ลิเวอร์พูล จะไม่แพ้ใครมา 3 นัดติดต่อกันแล้วในเกมลีก บวกกับเก็บคลีนชีตได้ทั้ง 3 นัดด้วย แต่ด้วยผลการแข่งขันที่ทีมเยือนควรจะเก็บ 3 แต้มไปจากเกมนี้ได้ ยิ่งทำให้ฟอร์มการเล่นของ เทรนท์ กลายเป็นเป้าคำวิจารณ์อย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
ด้วยผลงานที่ออกมาเป็นเช่นนี้ ก็ไม่แปลกที่บรรดาสื่อข่าวจะระดมกระสุนยิงคำถามไปที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ หลังจบเกมว่า เทรนท์ สูญเสียความเชื่อมั่นไปแล้วหรืออย่างไร?! ซึ่งนายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ก็ได้ออกมาปฏิเสธในประเด็นนี้
“ไม่ เขาไม่ได้เป็นแบบนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเกมที่เราเก็บชัยชนะได้ก่อนหน้านี้ เขาก็คือหนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีมาก ๆ แต่เพราะเขาคือ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ นักเตะที่พอโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเมื่อไหร่ ก็จะมีแต่คนจ้องคอยวิพากษ์วิจารณ์เขา”
คล็อปป์ กล่าว
“ตอนที่เขาฟอร์มดี ก็ไม่เห็นใครพูดถึงเลย นอกจากตอนที่เขามีส่วนร่วมกับการได้ประตู เขาเป็นคนเริ่มต้นในประตูที่ยอดเยี่ยมใน 2 เกมหลังสุดที่เจอกับ เอฟเวอร์ตัน และ นิวคาสเซิล นะ”
“เขาไม่ได้เป็นอะไร มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเกม เราเปลี่ยนเขาออกเพื่อที่จะได้มีเวลาพักนานขึ้นและเขาก็จะกลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง”
คล็อปป์ กล่าวเสริม
เทรนท์ ถือได้ว่าเป็นนักเตะคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ โดยเจ้าตัวลงเล่นไปแล้ว 31 นัดจาก 35 เกม และเป็นนักเตะที่ลงเล่นมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของทีมที่เวลาทั้งหมด 2,451 นาที ซึ่งหากนับตั้งแต่ที่ได้ขึ้นมาเฉิดฉายในทีมชุดใหญ่เมื่อซีซัน 2017-2018 นั้น เขาลงเล่นไปทั้งหมด 245 นัดจาก 317 เกมในทุกรายการ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็อยู่ที่ระดับ 77.3 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ตอนนี้ ก็ยังคงมีไอเดียที่ว่าน่าจะลองจับแบ็คขวารายนี้มาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า บวกกับนักเตะเองตอนสมัยเล่นในทีมเยาวชนก็โดดเด่นจากการเล่นในแผงกองกลาง แต่ คล็อปป์ ก็ไม่ได้ตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องเหล่านั้น และเขายังคงเชื่อมั่นอยู่ในใจว่า แข้งอังกฤษรายนี้ คือหนึ่งในแบ็คขวาที่ดีที่สุดในยุโรป
“มันชัดเจนนะ, เทรนท์ ลงเล่นแทบทุกเกมให้กับทีมของเรา มันเลยทำให้เราต้องมานั่งพิจารณากันในบางเกม”
“จริง ๆ ก่อนเกมเราคิดกันมาแล้วว่าเขาลงเล่นมากเกินไป แต่สุดท้ายเขาก็ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น และนั่นก็เป็นเหตุผล (ที่ เทรนท์ โดนเปลี่ยนตัวออก) ไม่มีอะไรมากกว่านั้น”
เยอร์เก้น คล็อปป์
ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟอร์ม ณ ปัจจุบันของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อยู่ในเกณฑ์ที่เรียกได้เต็มปากว่า น่าเป็นห่วงจริง ๆ โดยเฉพาะการต้องเจอกับทีมที่มีเกมรุกโต้กลับฉับพลัน การเพรสแดนบน และการต้องเผชิญหน้ากับปีกที่มีความเร็วสูง พิสูจน์ได้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นถึง 2 ครั้งซ้อน ๆ ในเกมที่เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้สื่อหลายสำนักให้คะแนนความสามารถเขาไม่ถึง 5 คะแนนและยกให้เป็นผู้เล่นที่เล่นได้แย่ที่สุดรองจาก นาบี เกอิต้า
สาวกหงส์แดงต้องรอดูกันต่อไปว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ จะสามารถจัดการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเหมือนที่เคยทำมาแล้วในช่วง 2-3 ปีหลังได้หรือไม่ หรือจะมีการเปลี่ยนแปลงบทบาทของแข้งรายนี้ตามที่มีคนแนะนำหรืออย่างไร
แต่ลึก ๆ แล้ว หลายคนก็ยังเชื่อว่า ดาวเตะทีมชาติอังกฤษผู้นี้ ก็ยังคงเป็นแบ็คขวาอันดับ 1 ที่ยากจะหาใครมาทดแทนได้ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าของ ลิเวอร์พูล อยู่ดี…