แดงเดือด และผลกระทบจากเกมที่แล้ว

แดงเดือด” เกมนี้คือนัดสำคัญที่ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมฟอร์มร้อนแรงที่กำลังรั้งอันดับ 3 ของตารางและเจ้าของแชมป์ คาราบาวคัพ สด ๆ ร้อน ๆ ซึ่ง หงส์แดง ยังตามหลังอยู่ 10 คะแนนจากการแข่ง 24 นัดเท่ากัน

และถ้าหาก ลิเวอร์พูล สามารถอนแค้นจากเกมแรกที่ไปแพ้มา 2-1 ได้สำเร็จ ก็จะทำให้ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ขยับช่องว่างเหลือเพียง 7 แต้ม พร้อมกับการลุ้นท็อปโฟร์อย่างเต็มตัวอีกครั้ง หลังจากที่หลุดวงโคจรมาระยะหนึ่ง รวมทั้งยังเบรกความเชื่อมั่นของคู่อริตลอดกาล มิให้ทิ้งห่างไปมากกว่านี้

และผลจากเกมที่ชนะ วูล์ฟ เมื่อนัดที่แล้ว ก็ถือว่ามีสัญญาณที่ดีหลายอย่างที่ทำให้ลูกทีมของ คล็อปป์ กลับมามีความเชื่อมั่นกันอีกครั้งทั้งการยิงได้ 6 ประตูและไม่เสียประตูเลยใน 4 นัดหลังสุด รวมทั้งการได้แข้งตัวหลักกลับมาพร้อมกับฟอร์มที่กำลังเข้าที่เข้าทางของนักเตะหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็น เวอร์จิล ฟาน ไดค์, อิบราฮิมา โคนาเต้, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ในใจลึก ๆ ก็ยังเชื่อว่า แม้ฟอร์มโดยรวมในซีซันนี้จะเป็นรอง แต่ด้วยความมั่นใจที่กำลังกลับมาและการได้เล่นเป็นเจ้าถิ่นจะทำให้ ลิเวอร์พูล สู้ได้อย่างสูสีและเป็นเกมที่น่าจะดูสนุกกว่าเกมนัดแรกที่เจอกันที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด, “แดงเดือด” นัดนี้ ทีมของ คล็อปป์ น่าจะทำในสิ่งที่แตกต่างกับนัดแรกได้

แดงเดือดนัดล่าสุด
แมนยู เป็นฝ่ายเปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
ในเกม แดงเดือด นัดล่าสุด

ก่อนหน้านี้ หงส์แดง กำลังกลับเข้าสู่เส้นทางในการลุ้นท็อปโฟร์ หลังจากที่พวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้ 2 เกมติดต่อกันเหนือ เอฟเวอร์ตัน และ นิวคาสเซิล แต่การโดน เรอัล มาดริด บุกมายำใหญ่ถึงถิ่นด้วยสกอร์ขาดลอย 2-5 นั้น ย่อมทำให้สภาพจิตใจและฟอร์มการเล่นสะดุดลงไปไม่น้อย

ความพ่ายแพ้ต่อ “ราชันชุดขาว” ส่งผลอย่างเห็นได้ชัดต่อรูปเกมของ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ออกไปเยือน คริสตัล พาเลซ เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว พวกเขาเล่นกันอย่างติด ๆ ขัด ๆ มีข้อผิดพลาดส่วนบุคคลเกิดขึ้นอยู่แทบจะทุกจังหวะ ส่วนการจบสกอร์ก็ไม่เฉียบขาด ทำให้จบ 90 นาทีทำได้แค่เสมอกันไป 0-0

มาถึงเกมกลางสัปดาห์กับ วูล์ฟ จึงเป็นที่เข้าใจกันดีว่า พวกเขาจะไม่สามารถพลาดได้แล้วหากต้องการลุ้นไปเล่น ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะการเจอกับทีมลุ้นตกชั้นในบ้านตัวเองแบบนี้ คือโอกาสที่ดีที่จะเก็บ 3 แต้มหลังจากที่เคยพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยในเกมกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด มาก่อนหน้านี้

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล เคยบุกไปพลาดท่าแพ้ให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

สำหรับเกมล่าสุด เยอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจเปลี่ยน 5 ตำแหน่งตั้งแต่แดนหลัง อิบราฮิมา โคนาเต้ ลงแทน โจเอล มาติป ในขณะที่แดนกลางเปลี่ยนยกแผงโดยส่ง ฟาบินโญ, สเตฟาน บายจ์เซติช และ ฮาร์วีย์ เอลเลียต ลงเล่น โดยพัก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เจมส์ มิลเนอร์ ไว้ข้างสนาม ส่วน นาบี เกอิต้า มีข่าวได้รับบาดเจ็บ ไม่มีชื่อในนัดนี้ ส่วนแดนหน้าเปลี่ยน ดาร์วิน นูนเญซ ลงแทน โคดี้ กัคโป

ภาพรวมของเกมนี้ถือว่า ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มได้ดี หลายคนได้รับคำชม โดยเฉพาะ นูนเญซ ที่มีส่วนในเกมรุกค่อนข้างมากและสร้างความอันตรายแทบจะทุกครั้งเมื่อบอลอยู่ที่เท้า ในขณะที่ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็ออกมาตอบโต้เสียงวิจารณ์ด้วยการทำประตูแรกให้กับทีม และพาเพื่อน ๆ เก็บคลีนชีตได้เป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันใน พรีเมียร์ลีก

แมตช์นี้ดูเหมือนว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ จะกระตุ้นมาอย่างหนัก เพราะในเกมที่บุกไปเจ๊าแบบไร้สกอร์กับ คริสตัล พาเลซ นั้นเหมือนนักเตะลงไปเล่นบอลการกุศล แฟนบอลหลายคนบ่นดูไปแทบจะหลับไป แม้ว่าจะมีโอกาสเยอะกว่า แต่ก็ไร้ความเฉียบคม แต่ในนัดล่าสุดนี้พวกเขาใช้เกมถนัดของตัวเอง ทั้งอาวุธจากลูกตั้งแต่และการสวนกลับเพียงไม่กี่จังหวะซึ่งนำมาสู่ประตูที่ 2 ของ ซาลาห์

ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ การเก็บคลีนชีตได้ 4 นัดต่อต่อกันเฉพาะเกมลีก ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือนที่พวกเขาทำได้สำเร็จ ซึ่งดูเหมือนว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ จะค่อย ๆ แก้ปัญหาเรื่องเกมรับและการเสียประตูเร็วได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

อิบราฮิมา-โคนาเต้ แดงเดือด
ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ วูล์ฟ ในเกมล่าสุด

การกลับมาของ โชต้า ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น เขาอาจจะยังไม่มีประตูให้เห็นแต่การประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมถือว่าทำได้เนียนตา และทำแอสซิสต์ได้ในประตูแรก ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับกองหน้าที่เพิ่งร้างสนามไปนาน

ผลจาก 3 คะแนนนัดนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 6 ของตารางมีแต้มตามหลัง ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ทีมอันดับ 4 อยู่ 6 คะแนนและแข่งน้อยกว่า 1 นัด และตามหลัง นิวคาสเซิล ทีมอันดับ 5 อยู่แค่ 2 คะแนนแต่แข่งมากกว่า 1 นัด

เชื่อเหลือเกินว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ เองก็อยากจะให้ลูกทีมทุกคนรักษาระดับการเล่นเอาไว้ต่อไป โดยเฉพาะในเกมแดงเดือดในวันอาทิตย์นี้ เพราะนี่คือแมตช์แห่งฤดูกาลที่อาจจะชี้ว่า พวกเขาสมควรจะคว้าโควต้าไปเล่น ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าหรือไม่

หาก คล็อปป์ ต้องการจุดเปลี่ยนแห่งฤดูกาล นี่คือโอกาสที่เขาและลูกทีมจะต้องไม่ปล่อยให้หลุดมือ

ขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก ufabet

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top