ลิเวอร์พูล vs เบิร์นลีย์ กับ 5 ประเด็นหลังเกม เปิดบ้านทุบ ‘เดอะ คลาเร็ตส์’

ลิเวอร์พูล vs เบิร์นลีย์ เกมที่ 24 ของ ลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ 2023/24 และทีม หงส์แดง ก็เก็บ 3 แต้มในถิ่น แอนฟิลด์ ได้ ตามที่เหล่า เดอะ ค็อป คาดหวัง

เกมนี้นักเตะ ลิเวอร์พูล ดูจะเครื่องติดช้า และโดนทีมเยือนคุกคามอยู่หลายจังหวะ แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดได้ เพราะความเฉียบขาดในแนวรุก ซึ่ง 3 แต้มในเกมนี้ ทำให้พลพรรค หงส์แดง ยังกลับมายึดตำแหน่งจ่าฝูงได้เช่นเดิม และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าพูดถึงเป็นอย่างมาก

1. ลิเวอร์พูล vs เบิร์นลีย์ เป็นเกมที่น่าอึดอัดอีกเกมหนึ่ง

เบิร์นลีย์

ลิเวอร์พูล ต้องการการตอบสนองอย่างจริงจัง หลังจากต้องพบกับความผิดหวัง กับการบุกไปพ่ายให้กับ อาร์เซนอล ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ 3-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในช่วงออกสตาร์ทของเกมนี้ กลับดูเหมือนว่า ลูกทีมของ คล็อปป์ จะไม่ได้ทำแบบนั้นเลย

เบิร์นลีย์ มีความมั่นใจอย่างมากในช่วงครึ่งแรก และก็ตีเสมอได้สำเร็จก่อนพักครึ่ง โดย แวงซองต์ กอมปานี เทรนเนอร์ของ “เดอะ คลาเร็ตส์” ยังคงยึดมั่นกับแนวทาง การเล่นบอลที่สั้นสวยงาม และไล่เพรสซิ่งตั้งแต่ในแดนของ ลิเวอร์พูล ตามที่พวกเขาถนัด

อย่างไรก็ตาม, เบิร์นลีย์ ไม่สามารถยืนระยะได้ตลอดทั้ง 90 นาที และยังมีช่องว่างในเกมรับพอสมควร ซึ่งทำให้ ลิเวอร์พูล ที่อาศัยความเฉียบขาด บดเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ไปได้

2. แนวรุกตัวจริงทุกคนทำประตูได้ในเกม ลิเวอร์พูล vs เบิร์นลีย์

ลิเวอร์พูล 3-1 เบิร์นลีย์

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่ได้ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่วันปีใหม่เป็นต้นมา, แต่ผู้เล่นแนวรุกที่มีอยู่ในมือของ คล็อปป์ ในเกมนี้อย่าง ดิโอโก้ โชต้า, หลุยส์ ดิอาซ และ ดาร์วิน นูนเญซ ต่างก็ทำประตูกันได้ทั้งหมด และตอนนี้ทีม หงส์แดง ก็สามารถกระทุ้งประตูคู่แข่งได้ทั้งหมด 22 ประตู จาก 8 เกมที่ ดาวเตะอียิปต์ ไม่ได้ลงสนาม

ในสถานการณ์ตอนนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เปรียบเสมือนกับเครื่องจักรสังหาร ที่กำลังรอวันปลดปล่อยเท่านั้น และการที่เจ้าตัวใกล้จะกลับมา ลงสนามล่าตาข่ายคู่แข่งได้อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ จะยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในเกมรุกของ ลิเวอร์พูล มีความน่ากลัวมากขึ้นไปอีก

3. ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ คือผู้เปลี่ยนเกมโดยแท้จริง

ฮาร์วีย์ เอลเลียต

แม้จะเป็นซีซันที่ดูเงียบ ๆ สำหรับ ฮาร์วีย์ เอลเลียต ก็ตาม, แต่ ดาวเตะชาวอังกฤษ วัย 20 ปี ก็สร้างความประทับใจ ให้กับแฟนบอลหงส์แดงได้อีกครั้ง กับการรับบทบทตัวสำรอง ผู้ลงมากอบกู้สถานการณ์ของทีม ซึ่ง เอลเลียต สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับทีมได้เสมอ เมื่อเขาถูกส่งลงสนาม

เกมนี้ เอลเลียตต์ ลงมาแทน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็คขวารองกัปตันทีม ตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลัง และก็มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เกมรุกอย่างมาก ทำแอสซิสต์ ให้กับ นูนเญซ โขกประตูปิดกล่อง ในนาทีที่ 79 อีกด้วย

ในช่วงที่ โดมินิค โซบอสซ์ไล ได้รับบาดเจ็บ, ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางฝั่งขวา ยังคงเปิดกว้างอยู่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เอลเลียต ก็มีโอกาสจะกลับมาทวงตำแหน่งตัวจริงอีกครั้ง ในเกมต่อ ๆ ไป

4. สถานการณ์ของทีมที่ผู้เล่นขาดหายไป

อลิสซอน เบ็คเกอร์ & โจ โกเมซ

ก่อนเกม ลิเวอร์พูล vs เบิร์นลีย์ จะเริ่มขึ้น, ทีม หงส์แดง ต้องเจอข่าวร้าย หลังจาก อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูมือ 1 และ โจ โกเมซ ที่กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม มีอาการป่วยเป็นไข้หวัด ทำให้ไม่มีส่วนร่วมกับทีม ในขณะที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ได้รับบาดเจ็บหัวเข่า ตั้งแต่จบเกมครึ่งแรก

คอเนอร์ แบรดลีย์ ที่กำลังทำผลงานได้ดี ก็ยังไม่พร้อมลงสนามในเกมนี้ เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว และน่าจะเป็นเรื่องครอบครัวของแข้งรายนี้ ที่ได้สูญเสียคุณพ่อ โจ แบรดลีย์ ไป เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

คล็อปป์ จัดการแก้ไขปัญหา ด้วยการให้ เคอร์ติส โจนส์ ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา เป็นเวลา 45 นาทีในครึ่งหลัง แต่มันก็คงไม่ใช่ทางออกที่ดี สำหรับทีมที่จะลุ้นแชมป์ไปจนถึงท้ายซีซัน ซึ่งต้องดูว่า พวกเขาจะหาทางแก้ปัญหาอย่างไรต่อไป

ขณะเดียวกัน บรรดานักเตะอย่าง โจเอล มาติป และ ติอาโก อัลคันทารา น่าจะปิดเทอมยาวไปแล้ว ส่วน คอสตาส ซิมิกาส, คอเนอร์ แบรดลีย์, สเตฟาน บายเซติช, ซาลาห์ และ โซบอสซ์ไล ก็มีโอกาสจะกลับมามีชื่ออยู่ในทีมได้ ในเกมถัดไป

5. วาตารุ เอ็นโด คือ ผู้คืนความสมดุลให้กับทีม

วาตารุ เอ็นโด

การกลับมาของ เอ็นโด จากศึก เอเชียนคัพ 2023, ทำให้เกิดคำถามมากมาย เกี่ยวกับสถานการณ์ในแผงมิดฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล หลังจากช่วงที่ผ่านมา อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ทำหน้าที่ในบทบาทห้องเครื่องหมายเลข 6 ได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม, การที่ เอ็นโด กลับมาประจำการหน้าแผงแบ็คโฟร์อีกครั้ง ทำให้ ลิเวอร์พูล มีความสมดุลมากขึ้นในแดนกลาง และ แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็ได้รับอิสระในการเล่นมากกว่าเดิม ขณะที่ คล็อปป์ ก็มีทางเลือกในการจัดทีมที่หลากหลาย

กัปตันทีมชาติญี่ปุ่น ยังคงโชว์ฟอร์มได้ตามมาตรฐานเช่นเดิมในเกม ลิเวอร์พูล vs เบิร์นลีย์ เพราะ วาตารุ เอ็นโด ทำให้แผงกองกลาง ลิเวอร์พูล มีความนิ่ง และจัดการกับแนวรุก เบิร์นลีย์ ได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีการผ่านบอลขึ้นหน้าสวย ๆ ได้หลายครั้งเลยทีเดียว


ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top