เก็บตก 5 ประเด็น หลัง ลิเวอร์พูล บุกพ่าย เรอัล มาดริด ตกรอบ UCL

ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่บุกไปพ่าย เรอัล มาดริด ที่สนาม ซานติอาโก เบอร์นาบิว 1-0 ในศึก ยูฟ่า แชมปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลก 2 (สกอร์รวม 6-2) ทำให้พลพรรค “หงส์แดง” จอดป้ายแค่รอบนี้ ซึ่งไม่ใช่ผลการแข่งขันที่น่าประหลาดใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม นอกจากผลการแข่งขันที่ขาดลอย และรูปเกมที่สู้ มาดริด ไม่ได้ 2 นัดที่เจอกัน นั้น ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน มีข้อที่ต้องปรับปรุงมากมาย และนี่คือ 5 เรื่องหลักที่ควรพูดถึงหลังเกมโดน “ราชันชุดขาว” สอนบอล  

1. การจัดตัวที่กล้าหาญ หรือเป็นเพียงสิ่งที่จำเป็นต้องทำ สำหรับ ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก

จากปัญหาผู้เล่นกองกลางอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ สเตฟาน บาย์จเซติช ได้รับบาดเจ็บ คล็อปป์ ตัดสินใจเลือกใช้ เจมส์ มิลเนอร์ ลงมายืนคู่กับ ฟาบินโญ่ โดยมี โคดี กัคโป, ดิโอโก โชต้า, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 4 แนวรุกลงสนามพร้อมกัน

มันดูเหมือน คล็อปป์ จะกล้าเสี่ยงเพื่อทำประตู มาดริด ให้ได้ แต่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้แสดงความดุดัน และคุกคามแนวรับเจ้าบ้านได้เลย แถมเมื่อเกมผ่านไปปัญหาที่ขัดเจนคือ มิดฟิลด์ “ราชันชุดขาว” อย่าง โทนี่ โครส, ลูกา โมดริช และ แอดูอาร์โด้ กามาแว็งก้า ควบคุมเกมได้ทั้งหมด

ท้ายที่สุดแล้ว โดยไม่คำนึงถึงการจัดนักเตะ 4 คน ในแนวรุก ลิเวอร์พูล ยังคงขาดการเชื่อมต่อระหว่างกองกลาง และแดนหน้าที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงยังงขาดความสร้างสรรค์อย่างมาก และยังขาดการเพรสซิ่งที่น่าประทับใจ

2. สถานการณ์ของผู้รักษาประตูที่แตกต่างกัน

อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารทีมชาติบราซิลของ ลิเวอร์พูล และ ติโบต์ กูตัวร์ส มือกาวชาวเบลเยียมของ มาดริด เป็นโกล์ที่ดีที่สุดลำดับต้นๆของโลก และในเกมเลกแรกที่ แอนฟิลด์ พวกเขาทำผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตูทั้งคู่

อย่างไรก็ตาม เกมที่ ซานติอาโก เบอร์นาบิว กลับกลายเป็นว่า อลิสซอน แสดให้เห็นถึงความกังวลอย่างชัดเจน แม้จะมีจะงหวะโชว์ซุเปอร์เซฟก็ตาม ซึ่งแตกต่างกับ กูตัวร์ส ที่เล่นแบบไร้ความกดดัน และไม่ถูกทดสอบจากแนวรุก ลิเวอร์พูล มากนัก

3. ผู้ด้อยประสิทธิภาพบนเวทีใหญ่

ในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล มีนักเตะฝีเท้าดี แต่ฟอร์มห่วยเยอะมาก ทั้งที่เป็นผู้เล่นชุดเดิมจากปีก่อน ซึ่งน่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถตอบแทนความไว้วางใจที่ คล็อปป์ มอบให้ได้ดีไปกว่านี้ และบางทีคนที่น่าสงสารที่สุดคงเป็นแฟนบอล “เดอะ ค็อป”

เกมกับ มาดริด การจายบอลของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างหนักอีกครั้ง ในขณะที่เกมรับเขาไม่เคยหยุด วินิซิอุส จูเนียร์ ปีกชาวบราซิล ได้เลย และปีนี้ก็ไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีนักของดาวเตะวัย 24 ปี

การวิ่งแบบไร้เป้าหมายของ โชต้า ยังคงดำเนินต่อไป รวมถึงการผลิตสกอร์ที่ฝืดมนานหลายเดือน ส่วน ฟาบินโญ่ เหมือนจะกระเตื้องขึ้นมา แต่เมื่อเจอกับกองกลาง มาดริด เขาก็แทบช่วยทีมไม่ได้เลยั้งเกมรุก และเกมรับ

4. ตัวเลือกที่น่าหดหู่ และคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวสำรอง คล็อปป์

หลุยส์ ดิอาซ, ติอาโก้ อัลคันทารา หรือบางทีตอนนี้เป็น บาย์จเซติช คือ นักเตะที่ คล็อปป์ กำลังคิดถึงอย่างหนัก และเมื่อต้องการประตู หรือแรงกระตุ้นในเกม ลิเวอร์พูล ไม่สามารถหันไปหาใครได้เลยแม้แต่คนเดียว

โชต้า ยังไม่ฟิต และยิงไม่ได้มา 11 เดือนแล้ว โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ก็นับถอยหลังอำลาทีม อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ นาบี เกอิต้า กำลังหมดสัญญา และแทบไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมมากนักในระยะหลัง เคอร์ติส โจนส์ ก็เป็นดาวรุ่งตลอดกาล ส่วน ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ก็เด็กเกินไป

การยกเครื่องในซัมเมอร์อาจไม่ได้แก้ปัญหาทั้งหมดให้กับ ลิเวอร์พูล และบางทีนอกจากกองหลัง และกองกลางคนใหม่แล้ว คล็อปป์ อาจต้องมองหาศูนย์หน้าระดับคุณภาพที่สามารถผลิตสกอร์ในเกมใหญ่ๆได้

5. การรอคอยที่ยาวนานของ ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก

เนื่องจากเกมี่จะเปิดบ้านพบกับ ฟูแล่ม ในสุดสัปดาห์นี้ถูกเลื่อนออกไป ลิเวอร์พูล ไม่มีคิวลงเตะนานถึง 17 วัน ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาพักฟื้น และเตรียมตัวครั้งใหญ่ของ คล็อปป์ และลูกทีมก่อนจะกลับมาเจองานหนัก

หลังจากเกิดข้อผิดพลาดมากมายตั้งแต่พักเบรก ฟุตบอลโลก 2022 กลับมา ตอนนี้เรายอมรับได้ว่า เป็นปีที่แย่มาก และไม่คงเส้นคงวาอย่างหนักกับผลงานของ ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นการบ้านที่ คล็อปป์ ต้องหาทางแก้ให้ได้

ลิเวอร์พูล มีคิวจะต้องไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อด้วยเยือน เชลซี และเจอกับ อาร์เซนอล ในบ้าน ซึ่งเป็นเกมใหญ่ 3 นัดติด ซึ่งมันอาจเป็นการตัดสินได้ว่า “หงส์แดง” จะจบฤดูดาลด้วยอันดับท็อปโฟร์ได้ หรือไม่

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top