5 สิ่งที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ควรทำในช่วงที่ ลิเวอร์พูล หยุดพักเบรกทีมชาติ

เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล จะว่างจากการคุมทีมลงแข่งขันนานถึง 17 วันเต็ม ๆ หลังเกม พรีเมียร์ลีก กับ ฟูแล่ม เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมาถูกเลื่อนออกไป และเข้าสู่ช่วงโปรแกรมทีมชาติต่อเนื่องทันที

หลังจากฟุตบอลลีกกลับมาแข่งขัน ลิเวอร์พูล เจองานหนักด้วยการไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม จากนั้น ในอีก 3 วันต่อมาไปเยือน เชลซี ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อด้วยเปิด แอนฟิลด์ รับมือทีมจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล

ขณะเดียวกัน คล็อปป์ ยอมรับว่า 3 เกมต่อไปจะเป็นตัวกำหนดฤดูกาลของ ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง และในช่วงพัก 2 สัปดาห์กว่าๆ นี้ มันเป็นเวลาที่เขาต้องรีบจัดการเรื่องต่างๆเพื่อทำให้ “หงส์แดง” กลับมาพร้อมที่สุด

1. เยอร์เก้น คล็อปป์ ควรเตรียม หลุยส์ ดิอาซ ให้พร้อมลงสนาม

ปีกชาวโคลอมเบีย เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวโชคร้ายได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา และการที่เขากลับมาสู่ทีมอย่างเต็มตัว นั้น จะทำให้ คล็อปป์ มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น

การเข้ามาของ โคดี้ กัคโป หัวหอกชาวดัตช์ ที่ย้ายมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้ ลิเวอร์พูล ยังพอแก้ไขสถานการณ์แนวรุกได้รับบาดเจ็บได้ และหากได้ ดิอาซ กลับมาเพิ่มอีก ขุมกำลังก็จะแน่นขึ้นกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม การที่ ดิอาซ กลับมาสมบูรณ์ก็ทำให้ คล็อปป์ ต้องคิดหนักเช่นกัน เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ดาร์วิน นูนเญซ ทำผลงานทางริมเส้นฝั่งซ้ายได้อย่างยอดเยี่ยม และกลาเป็นตัวความหวังของ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว

ขณะเดียวกัน 2 ตัวเลือกในแนวรุกอย่าง โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ดิโอโก โชต้า ก็พร้อมลงสนามเช่นกัน ซึ่งทำให้ คล็อปป์ ต้องปวดหัวในการจัดทีม 11 คนแรก

2. แก้ไขปัญหากองกลาง

อาการบาดเจ็บจนต้องพักยาวไปจนจบฤดูกาลของ สเตฟาน บาย์จเซติช กองกลางดาวรุ่งนั้น ทำให้ ลิเวอร์พูล เจอวิกฤตอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ติอาโก อัลคันทาร่า มิดฟิลด์ชาวสเปน ก็ยังสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์พร้อมลงสนาม

ข่าวร้ายเกี่ยวกับ บาย์จเซติช เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีมวัย 32 ปี ถูกตัดออกจากการเดินทางไปเยือน เรอัล มาดริด เนื่องจากอาการป่วย ซึ่งทำให้เหลือ ฟาบินโญ่ เป็นหลักเพียงคนเดียวเท่านั้น

ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด คล็อปป์ จะต้องหาทางทำให้แดนกลางมีความสมดุลให้ได้ก่อนจะลงเล่น 3 เกมหนักติดต่อกัน

เยอร์เก้น คล็อปป์

3. แก้ปัญหาเรื่องสภาพจิตใจของนักเตะ

ฟอร์มนอกบ้านของ ลิเวอร์พูล เป็นสาเหตุสำคัญสำหรับความกังวล และพวกเขาจะต้องปรับปรุงฟอร์มการเล่นเป็นทีมเยือนอย่างหนักหากยังหวังจะจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งท็อปโฟร์

ลูกทีมของ คล็อปป์ เก็บชัยชนะได้เพียง 3 จาก 13 นัดในการเป็นทีมเยือน และดูเหมือนว่า นักเตะ ลิเวอร์พูล ยังขาดความมั่นใจที่จะรักษาผลการแข่งขันที่ดีได้เมื่อออกไปเล่นนอกบ้าน ซึ่งเป็นการบ้านกองโตที่ คล็อปป์ ต้องแก้ไข

การเดินทางไปยัง เอทิฮัด สเตเดี้ยม และ สแตมฟอร์ด บริดจ์ รอพวกเขาอยู่หลังพักเบรคทีมชาติ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่โหดร้ายสุดๆเลยก็ว่าได้

4. ค้นหาบทบาทของ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่

แน่นอนว่าจะมีผู้เล่นมากมายที่จะยังคงอยู่ที่สนามซ้อม เคิร์กบี ในช่วงพักเบรกทีมชาติครั้งนี้ ซึ่งมันเป็นโอกาสสำหรับ คล็อปป์ ที่จะพิจารณาผู้เล่นเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด

ลิเวอร์พูล มีผู้เล่นทีมชุดใหญ่เพียง 12 คนเท่านั้นที่ถูกเรียกติดทีมชาติ ซึ่งหมายความว่า 17 คนจะพร้อมสำหรับการฝึกซ้อม โดย คาร์วัลโญ่ ก็คือหนึ่งในนั้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ดาวเตะวัย 20 ปี ไม่ได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก เป็นเวลาถึง 4 เดือน ก่อนจะถูกส่งลงสนามในเกมล่าสุดกับ บอร์นมัธ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าท้อใจสำหรับ คาร์วัลโญ่ อย่างแท้จริง แต่บางที 2 สัปดาห์หลังจากนี้ คล็อปป์ อาจจะหาตำแหน่งในทีมที่เหมาะสมกับเขาเพื่อเป็นทางเลือกในช่วงท้ายของฤดูกาล

เยอร์เก้น คล็อปป์

5. เยอร์เก้น คล็อปป์ ควรวางแผนสำหรับฤดูร้อนล่วงหน้า

มันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของแฟนบอล “เดอะ ค็อป” หลายๆ คน และมันคงไร้เดียงสาเกินไปจะคิดว่าสโมสรยังไม่ได้วางแผนสำหรับการทำธุรกิจครั้งสำคัญในซัมเมอร์นี้

อย่างไรก็ตาม มีการตั้งคำถามว่า ใครเป็นเป้าหมายของ คล็อปป์ กันแน่ และเขาต้องการเสริมทีมในตำแหน่งใดบ้างนอกเหนือกจากกองกลาง และกองหลัง ซึ่งบางที แบ็คขวาคนใหม่ก็อาจเป็นสิ่งที่กำลังต้องการเช่นกัน

การพักเบรกครั้งนี้ อาจทำให้ คล็อปป์ ได้พิจารณาสิ่งต่างๆอย่างละเอียด รวมถึงการพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของผู้ที่สัญญากำลังจะหมดลงอย่าง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, นาบี เกอิต้า และ เจมส์ มิลเนอร์ เป็นต้น

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top