แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมคู่ปรับอันดับหนึ่งตลอดกาลของ ลิเวอร์พูล กำลังจะได้ “ราล์ฟ รังนิก” นั่งแท่นกุนซือชั่วคราวเป็นระยะเวลา 6 เดือนตามการรายงานจากสื่อที่น่าเชื่อถืออย่าง ดิ แอธเลติก
ทีม ปีศาจแดง จัดการปลด โอเล กุนนาร์ โซลชา ออกจากตำแหน่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังพาทัพปีศาจแดงบุกไปพ่ายต่อ วัตฟอร์ด ด้วยสกอร์ 4-1 จากนั้นพวกเขาก็ตั้ง ไมเคิล คาร์ริค ขึ้นมารับหน้าที่คุมทีมชั่วคราวในเกมที่เจอกับ บียาร์เรอัล เมื่อวันอังคาร ก่อนจะกำลังได้ตัว รังนิก เข้ามาเป็นกุนซือขัดตาทัพจนจบฤดูกาล
ปัจจุบันอดีตเฮดโค้ช อาร์เบ ไลป์ซิก รับหน้าที่ผู้อำนวยการด้านกีฬาและพัฒนาที่ โลโคโมทิฟ มอสโคว์ ยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ซึ่งรายงานข่าวระบุว่าหากทั้งสองสโมสรสามารถตกลงเงื่อนไขต่าง ๆ ได้ เราคงจะได้เห็นการเปิดตัวหลังเกมที่ ยูไนเต็ด พบกับ เชลซี
เมื่อพูดถึงการเชื่อมโยงกับ ลิเวอร์พูล หลายคนคงทราบแล้วว่า รังนิก ถือเป็น “ต้นแบบ” ให้กับ เยอร์เก้น คล้อปป์ ในการนำ “เกเก้นเพรสซิง” มาใช้ในสมัยที่คุม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ใน บุนเดสลีกา และยังต่อยอดมาสู่ถิ่น แอนฟิลด์ อีกด้วย
จากนั้น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็จัดการคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา ได้สำเร็จ !!!
ตัดกลับมาในปัจจุบัน, ฟุตบอลของ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้ ราล์ฟ รังนิก อดไม่ได้ที่จะยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างในงานสัมมนาโค้ชที่ใช้ชื่อว่า “Coaches Voice” เมื่อไม่นานมานี้เอง โดยเจ้าตัวได้พูดถึงวิธีการสร้าง 3 ประสานแนวรุกสุดอันตรายของนายใหญ่ หงส์แดง ไว้อย่างน่าสนใจ
“ซาลาห์, ฟีร์มีโน และ มาเน 3 เป็นนักเตะที่แตกต่างกัน มาจากคนละประเทศ, แต่เมื่อพวกเขาย้ายมาเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ไม่มีใครที่เป็นนักเตะที่แย่งบอลได้ดีมาตั้งแต่เกิด พวกเขาไม่ใช่ผู้เล่นที่เพรสซิ่งได้ดีด้วย ดังนั้นวิธีการเล่นของพวกเขาที่ ลิเวอร์พูล จึงเป็นงานของโค้ชและทีมสตาฟฟ์”
นอกจากนั้น เมื่อย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม 2019 รังนิก ยังพูดถึงสไตล์การเล่นของ ลิเวอร์พูล โดยให้เหตุผลว่าทำไมจึงมีความคล้ายคลึงกับ อาร์เบ ไลป์ซิก และ เร้ดบูล ซัลซ์บวร์ก ที่เขาเคยทำงานด้วย
“สไตล์การเล่นคล้ายกับของ เยอร์เก้น มากเลย เน้นเกมรุก การเพรสซิ่งสูง เกมเค้าท์เตอร์เพรส คือเมื่อเราแย่งบอลมาได้แล้ว เราไม่ต้องการที่จะเสียเวลากับการจ่ายบอลเป็นสี่เหลี่ยมหรือจ่ายคืนหลัง”
“เราพยายามพาบอลไปข้างหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามสร้างสรรค์โอกาส พยายามจบสกอร์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“และมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกที่ทีมของ คล็อปป์ จะมีนักเตะในทีมเก่าของผมถึง 4 คน (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน, นาบี เกอิต้า, ซาดิโอ มาเน และ โจเอล มาติป) เพราะมันแสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเขากำลังมองหาผู้เล่นประเภทเดียวกัน ด้วยวิธีการเล่นที่เหมือนกัน และความคิดที่เป็นแบบเดียวกับเรา”
“และผมก็คิดว่าเมื่อพิจารณาจากสโมสรชั้นนำในยุโรปแล้ว คล็อปป์ อาจจะเป็นผู้จัดการทีมที่มีอดีตนักเตะของเรามากที่สุดก็ได้”
น่าสนใจว่าเมื่อต้นตำรับของ เกเก้นเพรสซิง อย่าง รังนิก เข้ามาคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะทำได้ดีขนาดไหน
และที่น่าสนใจกว่านั้นคือเมื่อทั้ง 2 ทีมมาเจอกันในศึก แดงเดือด เราคงจะได้เห็น เกเก้นเพรสซิง กันสนั่น แอนฟิลด์ อย่างแน่นอน !!!