สิ่งที่ได้จากเกมแดงเดือดเวอร์ชั่นไทยแลนด์

Jurgen Klopp, liverpool, Mohamed Salah, Premier League, UEFA Champions League, Ufabet, Ufaclub.live, ซาลาห์, พรีเมียร์ลีก, ยูฟา แชมเปียนส์ลีก, ลิเวอร์พูล, สมัครยูฟ่าคลับ, หงส์แดง, แดงเดือดเมืองไทย, The Match

การมาเยือนเมืองไทยของ ลิเวอร์พูล หากดูแค่ผลการแข่งขันก็ต้องบอกว่าเละเทะไม่เป็นท่า แต่ก็ต้องเข้าใจก่อนว่า หงส์แดง มีเวลาเตรียมตัวก่อนเดินทางมาเตะที่ราชมังคลากีฬาสถานน้อยกว่าคู่แข่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พอสมควร

เอริค เทน ฮาก จัดการเรียกลูกทีม ปีศาจแดง เข้าแค้มป์วันแรกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนหรือ 3 สัปดาห์ก่อน ในขณะที่ คล็อปป์ มีเวลาเจอลูกทีมแค่สัปดาห์เดียวก่อนที่จะมาเตะแดงเดือดที่บ้านเราเสียอีก

นั่นจึงเป็นสาเหตุให้นายใหญ่ชาวเยอรมันจัดทีมผสม 3 ชุดลงสนามทีมละ 30 นาที และผลการแข่งขันก็ออกมาอย่างที่เห็น

แน่นอนว่าไม่มีใครชื่นชอบความพ่ายแพ้ แต่หากมองในมุมของการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดซีซันและการลงเล่นเป็นเกมแรกของช่วงพรี-ซีซันเราจะพบว่าเกมนี้ทำให้ค้นพบอะไรบางอย่างที่น่าสนใจไม่น้อย

เริ่มจากทีมชุดแรก แม้ว่าแผงหลังจะก่อความผิดพลาดจนนำไปสู่การเสีย 2 ประตู แต่ในอีกแง่มุมทำให้เราได้เห็นฝีเท้าของ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ แบบเต็มตา แม้จะเพียงแค่ 30 นาที ซึ่งก็พอจะบอกได้ว่าเด็กคนนี้ดูดีมีอนาคตทีเดียว เทคนิคแพรวพราว ไปกับบอลได้ดี เซนส์บอลอยู่ในระดับสูง มีหลายครั้งที่ประสานงานกับ ฮาร์วีย์ เอลเลียต กันได้อย่างลื่นไหล

2 อดีตแข้ง ฟูแลม ช่วยกันสร้างสรรค์เกมรุก และเกือบจะทำให้ทีมได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ช่วง 10 นาทีแรก ทำ ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงเซฟอยู่ 2-3 ครั้ง ซึ่งก็น่าเสียดายที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้

ในขณะที่ตัว เอลเลียต เองนั้นก็ดูมั่นใจและกล้าเล่นมากขึ้น เด็กคนนี้มีของอยู่ในตัวอยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อซีซันก่อนดันไปสะดุดได้รับบาดเจ็บตั้งแต่นัดที่ 4 ของฤดูกาลจนหยุดการพัฒนาฝีเท้าไป ซึ่งก็เชื่อว่าในช่วงพรี-ซีซันที่เขากลับมาฟิตอีกครั้งจะได้รับโอกาสจาก คล็อปป์ และช่วยยกระดับทีมได้

อีกคนที่ได้รับการชื่นชมก็คือ อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน ที่ได้ลงสนามในทีมชุดที่ 2 ตั้งแต่นาทีที่ 30-60 ซึ่งสื่อต่างประเทศบางสื่อถึงกับบอกว่า นี่คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้เลยทีเดียว

เท่าที่ดูแล้วก็ต้องยอมรับว่า ดิอ็อกซ์ นั้นมุ่งมั่นมากขึ้น วิ่งพล่านไปทั่วสนาม แย่งบอลจากคู่แข่งได้ดี และเป็นคนสร้างเกมรุกให้กับทีมได้หลายจังหวะ อาจจะเพราะด้วยการที่เหลือสัญญาเป็นปีสุดท้ายเลยทำให้เขาต้องการพิสูจน์ตัวเองก็ได้

อีกคนที่ถูกพูดถึง นั่นคือ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าตัวใหม่ที่ได้ลงสนามในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ฟอร์มอาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทางนักเพราะเจ้าตัวเพิ่งจะมาเจอกับเพื่อนร่วมทีมวันเดียวก่อนมาประเทศไทย แถมลงซ้อมครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ แน่นอนว่าต้องให้เวลาในการปรับตัวและทำความเข้าใจกับเพื่อน ๆ อีกซักหน่อย

รูปเกมของ ลิเวอร์พูล โดยรวมนั้นพวกเขามีแพทเทิร์นที่ชัดเจนอยู่แล้วด้วยการเล่นระบบ 4-3-3 และการเพรสสูง ครองบอลได้มากกว่าคู่แข่ง เพียงแต่ขาดความแน่นอน และสภาพความฟิตของนักเตะตัวจริงแต่ละคนก็ยังไม่เต็มร้อย ซึ่งกว่าจะลงตัวก็คงต้องรออีกอย่างน้อย 2-3 นัดต่อจากนี้

คล็อปป์ เองก็ไม่ได้ซีเรียสกับผลการแข่งขันที่ออกมา เขาบอกว่ามันก็สมควรแล้วกับระดับการเล่นและความฟิตแบบนี้ แต่ทำให้ได้เห็นอะไรมากมายที่จะเอาไปปรับใช้ในช่วงที่เหลือต่อไป

จริง ๆ แล้วดูจากเกมเมื่อวาน การมาเมืองไทยของ ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นมีวัตถุประสงค์ที่ค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร

คล็อปป์ เหมือนพาทีมมาเรียกความฟิต เพราะยังไม่ได้มีเวลาเจอกันมากนัก มาดูตัว มาดูความพร้อม มาทดลองแท็คติก นักเตะ และอะไรบางอย่าง ในขณะที่ เทน ฮาก นั้นเตรียมทีมมาตั้งแต่เนิ่น ๆ ซ้อมกันมาก่อนหน้านี้เกือบเดือน นักเตะแต่ละคนก็ต้องการพิสูจน์ตัวเองต่อหน้าผู้จัดการทีมคนใหม่จึงใส่กันเต็มที่ และต้องยอมรับว่าพวกเขาทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม

ส่วนทาง เอริค เทน ฮาก ก็คงอยากจะเห็นลูกทีม ปีศาจแดง ของตนเล่นในแท็คติกใหม่ที่เน้นการผ่านบอลแม่นยำ และวิ่งหาพื้นที่ พร้อมเพรสแดนบน ซึ่งพวกเขาไม่เคยทำมาก่อนเลยทั้งในยุคของ โอเล กุนนาร์ โซลชา และ ราล์ฟ รังนิค

ดูจากการจัดตัวในครึ่งแรกก็รู้แล้วว่ากุนซือแต่ละคนตั้งเป้าหมายไว้ต่างกัน

Jurgen Klopp, liverpool, Mohamed Salah, Premier League, UEFA Champions League, Ufabet, Ufaclub.live, ซาลาห์, พรีเมียร์ลีก, ยูฟา แชมเปียนส์ลีก, ลิเวอร์พูล, สมัครยูฟ่าคลับ, หงส์แดง, แดงเดือดเมืองไทย, The Match

ดังนั้น ผลการแข่งขันที่ออกมาจึงสะท้อนถึงความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ซึ่งพูดกันตามตรงว่ายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ก็เชื่อว่าในช่วงเวลา 20 กว่าวันก่อนเปิดฤดูกาล เยอร์เก้น คล็อปป์ จะสามารถเรียกความฟิตและทำทีมให้เข้ารูปเข้ารอยได้

เจอกันอีกทีในแดงเดือดของจริงวันที่ 20 สิงหาคมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตอนนั้นถึงจะบอกได้ว่าใครเจ๋งกว่ากัน

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top