ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน กลับสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งหลังบุกไปถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด ถึงสนาม เอลแลนด์ โรด แบบขาดลอย 6-1 ในเกมลีกเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา
การบุกไปเอาชนะ ลีดส์ ได้นั้น ถือเป็นการปลดล็อกเก็บชัยชนะครั้งแรกในฐานะทีมเยือนรอบ 5 เกมหลังสุดของ ลิเวอร์พูล และจากการที่พลพรรค “หงส์แดง” เก็บ 3 คะแนนแบบสวยหรูในเกมนัดนี้ ก็มีหลายเรื่องที่สาวก “เดอะ ค็อป” ต้องนำมาพูดคุยกัน
1. ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก ได้ หลุยส์ ดิอาซ กลับมาแล้ว
ปีกชาวโคลอมเบีย โชคร้ายได้รับบาดเจ็บยาวจนหมดสิทธิลงสนามไปนานถึง 6 เดือน ซึ่งทำให้เกมรุกทางฝั่งซ้ายของ ลิเวอร์พูล ขาดการสร้างสรรค์ พละกำลัง การทำงานหนัก ความเข้าใจเกม และการจบสกอร์ที่เฉียบคม
อย่างไรก็ตาม ในเกมนี้ ดิอาซ กลับมามีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองแล้ว และได้โอกาสลงมาสัมผัสเกมในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ซึ่งเขาก็ได้รับเสียงปรบมือต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนบอล ลิเวอร์พูล รวมถึงบรรดาเพื่อนร่วมทัพ “หงส์แดง”
อีก 8 เกมที่เหลือของฤดูกาลนี้ ตัวรุกวัย 27 ปี น่าจะค่อยๆเข้ามามีส่วนร่วมในทีมชุดแรกมากขึ้น และเจ้าตัวจะกลายเป็นทางเลือกใหม่ในเกมรุกให้กับ คล็อปป์ ได้ใช้งาน
2. ดิโอโก โชต้า ตอบข้อสงสัยว่า ทำไมถึงได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริง
ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น มีคำถามมากมายว่า โชต้า ควรได้ลงเป็นตัวจริงหรือไม่ หลังจากที่ต้องพักไปนาน เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งส่งผลต่อจังหวะการเล่น การเคลื่อนที่ การตัดสินใจ และหากมองถึงผลงานโดยรวมแล้วเจ้าตัวแทบไม่ได้สร้างผลกระทบต่อทีมเลย
หลังหายจากอาการบาดเจ็บกลับมา หัวหอกชาวโปรตุเกส ดูเหมือนไม่ใช่ผู้เล่นแนวรุกจอมอันตรายที่เราเคยรู้จัก เขายืนผิดตำแหน่ง จ่ายบอลผิดพลาด ไม่มีการคุกคามกองหลังฝ่ายตรงข้าม และยิงประตูไม่ได้มานานกว่า 1 ปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในเกมนี้ โชต้า แสดงให้เห็นว่า ค่อยๆเรียกฟอร์มเดิมกลับคืนมาหลังซัดไป 2 ประตูแบบคมกริบ และทำไป 1 แอสซิสต์ รวมถึงมีจังหวะการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่กดดัน และช่วยวิ่งไล่เพรสซิ่งตลอดทั้งเกม
การกลับมาของ ดิอาซ จะทำให้ โชต้า มีคู่แข่งมากขึ้น บวกกับการมี ดาร์วิน นูนเญซ และ โคดี กัคโป ในแดนหน้า แต่สำหรับ คล็อปป์ แล้ว ดาวยิงเลือด “ฝอยทอง” วัย 26 ปี ยังคงเป็นนักเตะคนโปรดอยู่เสมอ
3. ชัยชนะที่สวยงามในฐานะทีมเยือน
ในฤดูกาลนี้ มันเป็นเหลือเชื่อสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่สามารถเก็บ 3 โดยไม่ต้องลงเล่นใน แอนฟิลด์ และหากย้อนกลับไปดูสถิติจะพบว่า มันเป็นเพียงชัยชนะในการออกมาเล่นเป็นทีมเยือนเกมที่ 3 นับตั้งแต่วัน บ็อกซิ่งเดย์ เป็นต้นมา
10 เกมหลังสุดในฐานะทีมเยือน นั้น ลูกทีม คล็อปป์ เก็บ 3 คะแนนได้ในเกมที่ชนะ แอสตัน วิลลา 3-0, ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 และล่าสุด ถล่ม ลีดส์ 6-1 ซึ่งถือว่านี่เป็นใบเบิกทางในการกลับมาสู่ฟอร์มที่อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน อีก 3 เกมสุดท้ายของซีซันที่ ลิเวอร์พูล ต้องอออไปเล่นนอกบ้าน พวกเขาจะบุกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด , เลสเตอร์ ซิตี้ และ เซาแธมป์ตัน ซึ่งหากรักษาผลงานเหมือนในเกมกับ ลีดส์ ได้นั้น ก็ไม่น่ามีปัญหากับการเก็บชัยชนะออกมา
4. ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ เคอร์ติส โจนส์
นอกจากฟอร์มการเล่นอันน่าประทับใจของ โชต้า ที่ฝืดมาเป็นปี ในเกมนี้ โจนส์ ก็เป็นคนที่น่าชื่นชมเช่นกัน หลังจากเจ้าตัวทำผลงานในฐานะตัวจริงตอบแทนความไว้วางใจของเจ้านายอย่าง คล็อปป์ ได้อย่างยอดเยี่ยม
กองกลางวัย 22 ปี ได้ลงเล่นเล่นเป็นตัวจริงเกมที่ 3 ติดต่อกันหลังหายเจ็บกลับมา โดยนัดนี้ โจนส์ ได้เล่นในบทบาทมิดฟิลด์ฝั่งซ้ายร่วมกับ ฟาบินโญ่ และกัปตันทีม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โจนส์ ทำงานอย่างหนักตลอดทั้ง 90 นาที มีส่วนร่วมกับทั้งเกมรุก และเกมรับ ควบคุมจังหวะเกม ไล่เพรสซิ่ง แถมยังทำได้ 1 แอสซิสต์อีกด้วย
5. ความคงเส้นคงวาที่ยังเป็นเครื่องหมายคำถามของ ลิเวอร์พูล ทีมดัง แห่ง พรีเมียร์ลีก
หลังจากเปิด แอนฟิลด์ ไล่อัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7-0 ในศึก “แดงเดือด” เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เกมถัดไป ลิเวอร์พูล บุกไปพ่ายทีมบ๊วยอย่าง บอร์นมัธ แบบสุดช็อก 1-0 และหลังจบเกมกับ ลีดส์ ก็เช่นกัน โดย “หงส์แดง” มีคิวเปิดบ้านเจอกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
เกมกับ ฟอเรสต์ เป็นเกมที่ ลิเวอร์พูล ต้องเอาชนะเพียงสถานเดียวเท่านั้นหากยังอยากรักษาความหวังการลุ้นท็อปโฟร์เอาไว้ ซึ่งตอนนี้ทีมคู่แข่งอย่าง ไบรท์ตัน และ แอสตัน วิลล่า ก็อยู่ในฟอร์มที่ดีขึ้นมากเช่นกัน
อีก 8 เกมที่เหลือยังมี 24 คะแนนให้เก็บ และหากลูกทีมของ คล็อปป์ ทำได้ บางทีอาจมีเซอร์ไพรส์ในช่วงท้ายซีซันก็เป็นได้เช่นกัน