สปาร์ต้า ปราก – ลิเวอร์พูล กับ 5 ประเด็นหลังเกม ‘หงส์แดง’ บุกถล่มเจ้าถิ่นขาดลอย

สปาร์ต้า ปราก – ลิเวอร์พูล เกมยูโรป้า ลีก ประจำฤดูกาลที่ 2023/24 รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก โดยทีม ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เป็นฝ่ายบุกไปเอาชนะเจ้าถิ่นได้ตั้งแต่นัดแรก เป็นชัยชนะที่ขาดลอย และทำให้ทีม หงส์แดง กุมความได้เปรียบในการทะลุผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไว้เป็นอย่างมากอีกด้วย

ซึ่งในเกมนี้, เหล่านักเตะ ลิเวอร์พูล ต่างก็วาดลวดลายในเกมการแข่งขันกันได้อย่างแข็งแกร่ง และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ที่เหนือกว่าเจ้าบ้านอย่างชัดเจน เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งนัดทึ่พลพรรค หงส์แดง ไม่ต้องออกแรงมากนัก และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าพูดถึง หลังเกมที่ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบทุกอย่าง

1. เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดทีมตัวจริงลงในเกม สปาร์ต้า ปราก – ลิเวอร์พูล

สปาร์ต้า ปราก - ลิเวอร์พูล

หากมองไปที่รายชื่อ 11 ตัวจริงของเกมนี้, เชื่อได้เลยว่า หลายคนคงตั้งข้อสงสัยว่า ทำไม เยอร์เก้น คล็อปป์ ถึงจัดผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ลงสนามในเกมนี้ แทบจะทุกตำแหน่ง ยกเว้นเพียง จาเรลล์ ควอนซาห์ ปราการหลังดาวรุ่ง ที่ได้ลงมายืนคู่กับ อิบราฮิมา โคนาเต้ ที่มาแทนที่ของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังผู้เป็นกัปตันทีม

ในขณะเดียวกัน, แม้ฝั่งของ สปาร์ต้า ปราก จะได้ประตูคืนได้เพียงลูกเดียว แต่พวกเขาก็สมควรได้รับการชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง จากการต่อสู้ และการทุ่มเทอย่างเต็มที่ของทีมฝั่งเจ้าบ้าน สร้างโอกาสเพื่อคุกคามแนวรับของทีมเยือนได้หลายครั้ง ซึ่งทาง ลิเวอร์พูล ก็ต้องให้เครดิตกับ ควิวีน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูมือ 2 ที่กำลังโชว์ผลงานดีได้อย่างต่อเนื่อง

ชัยชนะแบบถล่มทลายในเกมนี้ ถือเป็นการเพิ่มความมั่นใจครั้งใหญ่ สำหรับลูกทีมของ คล็อปป์ ที่จะต้องเปิดสนาม แอนฟิลด์ ทำศึกสำคัญกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์นี้

2. อาการบาดเจ็บของ อิบราฮิมา โคนาเต้ ที่เกิดขึ้นในเกม สปาร์ต้า ปราก – ลิเวอร์พูล

อิบราฮิมา โคนาเต้

บรรดานักเตะทีมชุดใหญ่ ที่พร้อมลงสนามในเวลานี้, อิบราฮิมา โคนาเต้ เป็นผู้เล่นที่ควรถนอมการใช้งานไว้ให้มากที่สุด ในห้วงเวลาที่ผ่านมา เซ็นเตอร์แบ็คชาวฝรั่งเศส มักมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง และด้วยสภาพร่างกายของเขาเอง ก็ไม่สามารถยืนระยะเล่นเกมหนัก ๆ แบบติดต่อกันหลายเกมได้

ในเกมนี้ คล็อปป์ ต้องเจอกับเรื่องปวดหัวอีกครั้ง หลังจาก โคนาเต้ ได้รับบาดเจ็บในนาทีที่ 50 และต้องถูกเปลี่ยนออกจากสนาม โดยให้ ฟาน ไดจ์ค ลงมาเล่นแทน และจนถึง ณ เวลานี้ ยังไม่มีรายงานว่า ดาวเตะเฟรนช์แมน จะต้องพักฟื้นนานกี่วัน

อย่างไรก็ตาม, คล็อปป์ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า โคนาเต้ อาจไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก โดยระบุว่า “อิบู พูดกับผมว่า ถ้าเขาวิ่งมากกว่านี้ เขาอาจจะแย่ แต่เขาก็บอกว่า เขาไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ เรายังไม่ทราบรายละเอียด

3. ดาร์วิน นูนเญซ โดดเด่นมาก ๆ ในเกมนี้

ดาร์วิน นูนเญซ

เป็นอีกเกมที่ ดาร์วิน นูนเญซ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้า และการพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากระเบิดฟอร์มซัดไป 2 ประตูแบบสุดสวย พร้อมกับทำสถิติยิงประตูรวมทุกรายการ 16 ประตู แซงหน้าตัวเลข 15 ประตู ในฤดูกาลก่อนไปเรียบร้อยแล้ว และอย่าลืมว่า นี่เพิ่งเดือนมีนาคมเท่านั้น

ซีซันนี้, ดาวยิงชาวอุรุกวัย ก็มีช่วงเวลาที่น่าหงุดหงิดอยู่บ้าง หลังจากที่เจ้าปินฝืด ยิงประตูไม่ได้มา 12 เกมติดต่อกัน แต่ในตอนนี้กลับดูเหมือนว่า นูนเญซ ลงเล่นด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม และพร้อมจะรับภารกิจเป็นนักเตะตัวหลักในแดนหน้าอย่างเต็มตัว

ประตูชัยสุดดราม่าในเกมกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และ 2 ประตูที่เจ้าตัวยิงแบบเฉียบขาดในเกม สปาร์ต้า ปราก – ลิเวอร์พูล, ดาร์วิน นูนเญซ เริ่มแสดงให้เห็นแล้วว่า เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของยุคนี้

4. โจ โกเมซ เตรียมลงตัวจริงในเกมเผชิญหน้ากับ แมนฯ ซิตี้

โจ โกเมซ

ในเกมนี้, กองหลังสารพัดประโยชน์ ประจำการในตำแหน่งแบ็คขวา และถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงต้นครึ่งหลังให้ คอเนอร์ แบรดลีย์ ลงมาเล่นแทน นั่นหมายความว่า โกเมซ แทบจะการันตีการออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกในเกมต่อไปกับ แมนฯ ซิตี้ แน่นอนแล้ว

เกมนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายทีมชาติสก็อตแลนด์ ได้ลงเล่นครบ 90 นาที, ส่วน โคนาเต้ อาจจะไม่ฟิตพอที่จะลงเล่นเกมถัดไป และมันเป็นคำถามที่น่าสนใจว่า โกเมซ จะได้รับมอบหมายจาก คล็อปป์ ให้ลงเล่นในตำแหน่งใด

ฤดูกาลนี้, ดาวเตะชาวอังกฤษ วัย 26 ปี ลงเล่นมาแล้ว ทั้งในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง, แบ็คขวา, แบ็คซ้าย และกองกลางตัวรับเบอร์ 6 และเจ้าตัวก็ทำผลงานได้คงเส้นคงวามาตลอด ถือเป็นอีก 1 แข้งที่สมควรได้รับคำชมอย่างมาก

5. ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกที่ฝากความหวังได้

ฮาร์วีย์ เอลเลียต

มันคงเป็นไปไม่ได้ที่ ลิเวอร์พูล จะเดินหน้าคว้าชัยชนะ 5 นัดจาก 5 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ในช่วงวิกฤตอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักหลายคน หากทีม ลิเวอร์พูล ปราศจาก ฮาร์วีย์ เอลเลียต โดยดาวเตะชาวอังกฤษรายนี้ ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง และบทบาทการเป็นตัวรุกฝั่งขวา

ตลอดทุกนาที ที่เขาได้รับโอกาสในสนาม เอลเลียตต์ ทำงานหนัก และทุ่มเทอย่างเต็มที่เสมอ และในเกมนี้ เจ้าตัวก็ได้รับรางัลตอบแทน ด้วยการทำแฮตทริคแอสซิสต์ได้อีกด้วย


ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top