ไบรท์ตัน vs ลิเวอร์พูล 5 ประเด็นหลังเกม หงส์แดง แบ่งแต้มแบบน่าเสียดาย

ไบรท์ตัน vs ลิเวอร์พูล เกมที่ 8 ในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ 2023-24 ก่อนที่จะเช้าช่วงพักเบรกทีมชาติ ซึ่งเกมนี้ทัพ หงส์แดง ทำได้เพียงแค่ บุกไปแบ่งแต้ม จาก นกนางนวลแดนใต้ เท่านั้น

แม้จะเก็บได้เพียง 1 คะแนน กลับออกมาจากถิ่น เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม แต่ก็ถือว่า เป็นที่น่าพอใจสำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะการมาเยือน ไบรท์ตัน ไม่ใช่งานง่ายอยู่แล้ว และนี่ คือ 5 ประเด็นที่พูดถึง ในเกมที่หนักที่สุดเกมหนึ่งของ ลิเวอร์พูล

1.ไบรท์ตัน vs ลิเวอร์พูล อีกเกมที่ หงส์แดง เครื่องร้อนช้า

ไบรท์ตัน

การที่ ลิเวอร์พูล เก็บได้ 10 แต้ม ในศึก พรีเมียร์ลีก หลังจากโดนคู่แข่งนำไปก่อน นั้น มันเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็น ว่า ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในเวอร์ชั่น 2.0 กลับมาเล่นฟุตบอล ด้วยจิตใจที่ห้าวหาญ และแข็งแกร่งได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สถิติที่น่าประทับใจเหล่านั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อทีม ลิเวอร์พูล นัก เพราะพวกเขา มักจะโดนฝ่ายตรงข้ามยิงขึ้นนำไปก่อน 7 ถึง 11 เกม รวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ และเกมกับ ไบรท์ตัน พวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงปัญหานี้ อีกครั้ง

ลิเวอร์พูล ควรจะได้ 3 คะแนน กลับออกมา หากไม่พลาดกันเอง จาก 2 ประตู ที่เสียไป ซึ่งแน่นอนว่า คล็อปป์ ต้องหาทางแก้ไข ให้ลูกทีมเล่นด้วยความมั่นคง ในช่วงที่เหลือของซีซัน

2. การตัดสินที่น่าสงสัยของกรรมการ

Pascal Gross

เมื่อพิจารณาทุกอย่างที่ตามมา ภายหลังความพ่ายแพ้ต่อ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มันคงจะดีไม่น้อยสำหรับทุกคน ที่เกี่ยวข้องในสโมสร ลิเวอร์พูล ไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงการทำหน้าที่ของกรรมการ

อย่างไรก็ตาม เกมกับ ไบรท์ตัน มันมีจังหวะ ที่กลายเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันอีกครั้ง โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ปาสคาล กรอสส์ กองกลางเจ้าบ้านดึงเสื้อ โดมินิค โซบอสไล ในเขตโทษ ซึ่งกรรมการก็เป่าให้เป็นจุดโทษทันที แต่หลายคนตั้งคำถามว่า กรอสส์ ควรโดนไล่ออกหรือไม่

ขณะเดียวกัน กรอสส์ ยังไม่โดนแม้แต่ใบเหลือง และก็แน่นอนว่า หลายคน คงตั้งคำถามกับการตัดสินใจของกรรมการเช่นกัน

3.ไบรท์ตัน vs ลิเวอร์พูล เกมที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ เล่นไม่ออก

Mac Allister

บางทีมันอาจจะรุนแรงเกินไป ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ผู้เล่นที่ไม่ได้เล่นในบทบาทที่ตัวเองถนัด กับสโมสรใหม่ แต่มันจะดีกว่าหรือไม่ หาก แม็ค อัลลิสเตอร์ ถูกขยับมายืนสูงขึ้นในแดนกลาง และไม่ต้องรับผิดชอบในการตัดเกมหน้าแผงแนวรับ

ในจังหวะที่เสียประตูแรก กองกลางชาวอาร์เจนไตน์ ตัดสินใจช้าไปนิดเดียว จนโดน ซีมง อาแด็งกร้า ฉกบอล และเข้าไปยิงประตู นอกจากนี้ ตลอด 45 นาทีแรก แม็ค อัลลิสเตอร์ ยังมีการเล่นผิดพลาดในหลาย ๆ จังหวะ และเบรกเกมเจ้าถิ่นไม่ได้เลยอีกด้วย

คล็อปป์ ยังมีหลายสิ่งที่ต้องไตร่ตรอง ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเบรกทีมชาติในสัปดาห์หน้า และการหาวิธีที่จะดึงศักยภาพสูงสุด จากการเล่นของ แม็ค อัลลิสเตอร์ น่าจะอยู่ในอันดับต้น ๆ ที่เจ้าตัวต้องขบคิดอย่างหนัก เช่นกัน

4. มิดฟิลด์รายอื่น ที่ต้องก้าวเข้ามาช่วยทีม

Wataru Endo

วาตารุ เอ็นโด ห้องเครื่องทีมชาติญี่ปุ่น ถูกเปลี่ยนตัวออก ช่วงพักครึ่งในเกม ยูโรปา ลีก กับ แซงต์ กิลลุส เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหลายคนคาดหมายว่า ดาวเตะวัย 30 ปี จะได้ลงเป็นตัวจริงในเกมกับ ไบรท์ตัน แต่สุดท้าย คล็อปป์ กลับเลือก ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ให้ลงสนามก่อน

อย่างไรก็ตาม เอลเลียตต์ ไม่สามารถสร้างผลกระทบใด ๆ ได้เลย ตลอด 45 นาทีแรก ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออก โดยกองกลางดาวรุ่งชาวอังกฤษ มีสถิติที่น่าผิดหวังอย่างหนัก จากการสกัดบอลสำเร็จ 0 เข้าปะทะ 0 และเอาชนะลูกกลางอากาศ 0

อีก 2 เกม ข้างหน้า เอลเลียตต์ ต้องแสดงให้เห็นว่า สามารถทดแทนช่องโหว่ ที่ เคอร์ติส โจนส์ ทิ้งเอาไว้ได้ ซึ่งถ้าหากเขาทำไม่สำเร็จ เขาอาจจะต้องตกไปเป็นตัวสำรองต่อไป โดยมี เอ็นโด และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก กองกลางชาวฮอลแลนด์ รอเสียบ

5. การออกสตาร์ทฤดูกาลที่ดี

ไบรท์ตัน vs ลิเวอร์พูล

ด้วยความพ่ายแพ้ที่น่าเจ็บใจ ในเกมกับ สเปอร์ส ต่อด้วยการเสมอกับ ไบรท์ตัน แฟนบอล ลิเวอร์พูล บางส่วน อาจตั้งคำถามกับคุณภาพของทีมชุดนี้ แต่พวกเขาไม่ควรมองข้ามความจริงที่ว่า นี่เป็นการเริ่มต้นซีซันใหม่ ที่น่าประทับใจพอสมควร

ตลอด 8 เกมที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ต้องเจอโปรแกรม ที่ยากลำบากมากมาย และต้องออกไปเยือนถึง 5 เกม โดยเป็นบรรดาสโมสรอย่าง เชลซี, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด,  วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส, สเปอร์ส และ ไบรท์ตัน แต่ลูกทีมของ คล็อปป์ ก็ยังสามารถรั้งตำแหน่งท็อปโฟร์ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

ด้วยการเก็บได้ 17 คะแนน ตามหลัง สเปอร์ส ทีมจ่าฝูงเพียง 3 คะแนน ก่อนจะเข้าสู่ช่วงการพักเบรกทีมชาติ และเมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อน ๆ ที่ ลิเวอร์พูล เคยทำผลงานได้อย่างร้อนแรง ก็จะรู้ว่า แต้มที่มีอยู่ในมือ หลังจากผ่านไป 8 เกม ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่เลย

แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล มีงานที่ต้องทำอีกมาก หลังจบภารกิจทีมชาติกลับมา แต่พวกเขาก็จะไม่ได้เจองานหนัก เหมือนช่วงที่ผ่านมาอีกแล้ว โดยเกมในลีก 5 นัดถัดไป พลพรรค “หงส์แดง” จะพบกับ เอฟเวอร์ตัน, น็อตติงแฮม ฟอเรสต์, บอร์นมัธ, ลูตัน ทาวน์ และ เบรนท์ฟอร์ด

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top