ฮาร์วีย์ เอลเลียต ดาวรุ่งที่อาจกลายร่างเป็น ‘นิวคูตินโญ’ ของหงส์แดง

ฮาร์วีย์ เอลเลียต เจ้าหนูสัญชาติผู้ดีที่ย้ายมาจาก ฟูแลม เมื่อปี 2019 กำลังมีพัฒนาการที่เหลือเชื่อโดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ เจ้าหนูรายนี้ได้รับโอกาสจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ ในทีมชุดใหญ่อย่างต่อเนื่องและเป็นหนึ่งในผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่ฟอร์มคงเส้นคงวามากที่สุด ท่ามกลางวิกฤติการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับทีม

ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ลิเวอร์พูล เคยได้ต้อนรับนักเตะระดับเวิลด์คลาสที่ว่ากันว่า เป็นอนาคตของทีมชาติบราซิลและเคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์อัจฉริยะคนหนึ่งของวงการ และอาจจะพูดได้ว่า เจ้าตัวคือผู้จุดประกายความสำเร็จให้กับทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ จนถึงยุคปัจจุบันก็ว่าได้

เรากำลังพูดถึง ฟิลิปเป้ คูตินโญ เพลย์เมคเกอร์จอมเทคนิคที่ เดอะ ค็อป ยังคงให้การยอมรับเขาจนทุกวันนี้ แม้ว่าฉากจบระหว่างเขาและสโมสรจะเป็นไปด้วยความผิดหวัง หลังจากที่ตัดสินใจย้ายตัวเองไปหาความสำเร็จกับ บาร์เซโลนา เมื่อเดือนมกราคม 2018 ซึ่งในเวลานั้นคือหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลกและสตาร์ดังอย่าง เนย์มาร์, หลุยส์ ซัวเรส และ ลีโอเนล เมสซี ค้าแข้งอยู่ที่นั่น

จำได้ว่า เดอะ ค็อป หลายคนมีสภาพเหมือนคนอกหักรักคุด เหมือนโดนผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตสลัดรักและตัดสินใจไปอยู่กับนักธุรกิจหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จทุกด้านที่กำลังมีชีวิตที่รุ่งโรจน์พร้อมกับอนาคตที่สดใส ต่างจากไอ้หนุ่มบ้าน ๆ ที่มีแต่คำว่า ‘รักเธอหมดหัวใจและพร้อมสู้ทุกอย่างเพื่อสร้างอนาคตไปด้วยกัน’

ซึ่งแค่นั้น มันไม่เพียงพอที่จะรั้งให้สาวเจ้าให้อยากจะร่วมหัวจมท้ายไปจนสุดปลายทางได้…

คูตินโญ
คูตินโญ ในวันที่ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ บาร์เซโลนา

หากเป็นละครหรือนิยายไอ้หนุ่มบ้าน ๆ คนนั้น อาจจะไม่ได้อะไรกลับมานอกจากความช้ำใจ แต่เมื่ออยู่ในโลกของฟุตบอล การจากไปของ คูตินโญ นำมาซึ่งทุนรอนมหาศาลระดับสถิติสโมสรซึ่งมูลค่าสูงถึง 142 ล้านปอนด์ และทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ นำมาต่อยอดสร้างทีมใหม่ได้อีกมากมาย

เงินก้อนนี้แหละที่เป็นที่มาของคำว่า “การจุดประกายความสำเร็จให้กับ ลิเวอร์พูล” เพราะเงินที่ได้จากการขายสตาร์บราซิลเลียนในเวลานั้นสามารถนำมาซึ่งการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยม พวกเขาสามารถคว้าตัวยอดเซ็นเตอร์แบ็คอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ มาร่วมทีมได้ในตลาดเดียวกันและอีก 6 เดือนต่อมาก็ดึงเอาผู้รักษาประตูอันดับ 1 ของโลกอย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์ มาเฝ้าเสาได้อีกด้วย

จากนั้นที่เหลือคือประวัติศาสตร์ เยอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมเดินหน้าสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2019 จนปัจจุบันเขาช่วยให้ เร้ด แมชชีน คว้าแชมป์ไปทั้งหมด 7 รายการ ถือเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970-1980

ในทางกลับกัน กราฟชีวิตของ คูตี้ กลับดำดิ่งลงไปเรื่อย ๆ เขาถูกปล่อยยืมตัวในปีต่อมาและวนเวียนบนม้านั่งสำรองอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งต้องย้ายกลับมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้งกับ แอสตัน วิลลา โดยเซ็นสัญญาถาวรกันไปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

คูตินโญ-เอลเลียต
ฟิลิปเป คูตินโญ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียต

เดอะค็อป บางคนอาจรู้สึกสะใจกับผลที่ คูตินโญ ได้รับ แต่เชื่อเถอะว่าทุกคนคิดถึงเขา โดยเฉพาะสไตล์การเล่นที่หาใครเทียบได้ยาก และเจ้าตัวยังถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในเพลย์เมคเกอร์ที่ดีที่สุดในโลก ณ เวลานั้น เยอร์เก้น คล้อปป์ เองก็รู้เรื่องนี้ดีและมีความพยายามที่จะรั้งตัวเขาเอาไว้อยู่หลายครั้ง จนเป็นที่มาของประโยคคลาสสิคที่ว่า

“อยู่ที่นี่ต่อไปเถอะ แล้วพวกเขาจะสร้างรูปปั้นหน้าสนามให้นาย”

แต่ถ้านายย้ายไป บาร์เซโลนา, บาร์เยิร์น มิวนิค หรือแม้กระทั่ง เรอัล มาดริด นายจะเป็นเพียงนักเตะธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่เหมือนกับการอยู่ที่นี่ ซึ่งคุณสามารถสร้างสรรค์บางสิ่งได้มากกว่า”

คล็อปป์ กล่าวกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ

หลังจากที่ไร้ คูตินโญ ในสนาม ตำแหน่งกองกลางด้านซ้ายของ ลิเวอร์พูล ก็มีทิศทางที่แตกต่างออกไป คล็อปป์ เลือกใช้งานนักเตะที่สไตล์แตกต่างกันตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น เจมส์ มิลเนอร์, จีนี ไวจ์นัลดุม และ ติอาโก้ อัลคันทารา ซึ่งแต่ละคนก็มีแนวทางการเล่นในแบบของใครของมัน จนกระทั่งในช่วงหลังดูเหมือนว่าพวกเขาจะค้นพบนักเตะที่มีสไตล์ใกล้เคียงกับอดีตมิดฟิลด์ บาร์ซา แล้ว

เรากำลังพูดถึง ฮาร์วีย์ เอลเลียต เจ้าหนูสัญชาติผู้ดีที่ย้ายมาจาก ฟูแลม เมื่อปี 2019 ซึ่งกำลังมีพัฒนาการที่น่าเหลือเชื่อในซีซันนี้ ดาวเตะวัย 19 ปีลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ทุกนัดใน พรีเมียร์ลีก และทำไปแล้ว 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ รั้งอันดับที่ 94 ในสถิติการสร้างสรรค์โอกาสยิงประตูในเวลา 90 นาที และอยู่อันดับที่ 95 ในสถิติการพาบอลไปข้างหน้าเมื่อเทียบกับมิดฟิลด์ทั้งหมดของ 5 ลีกใหญ่ในยุโรป โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์ FBref

เอลเลียต พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็วในการเป็นผู้เล่นตัวสร้างสรรค์เกมของ ลิเวอร์พูล และถ้าเทียบนักเตะอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาคือหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดด้วยความสามารถในการจ่ายบอลในจังหวะสุดท้าย รวมถึงการพาบอลจากแดนกลางสู่แดนหน้า ซึ่งทำให้เจ้าตัวเป็นผู้เล่นที่แตกต่างจากตัวเลือกอื่นที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ มี

ฮาร์วีย์-เอลเลียต
ฮาร์วีย์ เอลเลียต ทำผลงานในเกมแดงเดือดได้น่าพอใจ
แม้จะมีจังหวะให้เสียวในครึ่งแรก

และเมื่อมองดูสถิติโดยรวมกองกลางวัย 19 ผู้นี้มีค่าเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกับมิดฟิลด์ตัวท็อปของยุโรปอีกหลายคน อาทิ นิโคโล บาร์เรลลา ของ อินเตอร์ มิลาน, มาร์ติน โอเดการ์ด จาก อาร์เซนอล และ เควิน เดอ บรอยน์ ห้องเครื่องคนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย

เกมที่ไล่ถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปถึง 7-0 ได้แสดงให้เห็นว่า เอลเลียต คือผู้เล่นที่สร้างสรรค์เกมได้ที่ดีที่สุดคนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล เพราะนอกจากจะมี 1 แอสซิสต์ติดตัวมาแล้ว เขายังมีสถิติเลี้ยงบอลสำเร็จ 100% พร้อมทั้งจ่ายบอลได้อย่างแม่นยำคิดเป็น 79% ซึ่งนับเป็นผลงานที่ดีที่สุดในชุดแดงเพลิง นับตั้งแต่ที่ย้ายมาจาก ฟูแลม เมื่อ 4 ปีที่แล้ว

แม้ว่าเอาเข้าจริง เจ้าตัวอาจจะไม่ได้มีเทคนิคที่แพรวพราว รวมทั้งช็อตยิงไกลที่ถือเป็นเครื่องหมายการค้าเหมือนกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ ก็ตาม แต่เชื่อว่าด้วยวิธีคิดในการสร้างสรรค์เกมและการเล่นเป็นทีมนั้น จะทำให้ดาวรุ่งรายนี้กลายเป็นอนาคตอันยิ่งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ได้

ลองเพชรเม็ดงามเม็ดนี้ได้มาอยู่ในมือของ เยอร์เก้น คล็อปป์ แล้ว พวกเราคงจะได้เห็นอะไรดี ๆ จากเจ้าหนู ฮาร์วีย์ เอลเลียต ในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้อย่างแน่นอน…

ขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก ufabet

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top