ชัยชนะเหนือ แอตเลติโก้ มาดริด ของ ลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์ 2-3 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มเมื่อคืนวันอังคารนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นอะไรที่สร้างความ “สะใจ” และ “พึงพอใจ” ให้กับ เดอะค็อป ทั่วโลก
“สะใจ” ตรงที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ สามารถพาทีมบุกไปยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับทีมของ ดิเอโก้ ซิมิโอเน ได้ ซึ่งถือเป็นการแก้แค้นเอาคืนหลังจากที่เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนที่ หงส์แดง โดน ตราหมี ตบร่วงรอบน็อคเอ้าท์แบบชนะทั้งไปและกลับทั้ง 2 เลก โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมสุดดราม่าที่ แอนฟิลด์
ในส่วนของความ “พึงพอใจ” นั้นแน่นอนว่าพวกเขาต้องยินดีกับ 3 แต้มและ 9 คะแนนเต็มซึ่งทำให้รั้งตำแหน่ง “จ่าฝูง” ในกลุ่มบี ทิ้งห่าง แอตฯ มาดริด และ ปอร์โต้ ไป 4 คะแนน และขออีกเพียงแต้มเดียว เดอะเร้ดส์ ก็จะโบยบินเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามเบื้องหลังของชัยชนะนัดนี้ไม่ได้สวยงามและโรยไปด้วยกลีบกุหลาบเท่าใดนัก เมื่อตลอดทั้ง 90 นาที ลิเวอร์พูล ไม่ได้เหนือไปกว่าคู่แข่งแม้แต่น้อย แม้ว่าจะได้เปรียบจำนวนคนในช่วง 38 นาทีสุดท้ายก็ตาม
เมื่อกลับไปดูในเกม ลิเวอร์พูล ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็วจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ นาบี เกอิต้า ในช่วง 12 นาทีแรก พาทีมกุมความได้เปรียบตั้งแต่หัววัน ทำให้เรานึกย้อนกลับไปคิดถึงเกมกับ วัตฟอร์ด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งได้ประตูเร็วคล้ายกัน…ซึ่งบางคนอาจคิดด้วยซ้ำว่าวันนี้มีไหลแน่ ๆ !
หากแต่ว่านี่คือ แอตเลติโก้ มาดริด ซึ่งมี ดิเอโก้ ซิมิโอเน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น “จอมแท็คติก” คนหนึ่งของวงการกุมบังเหียนอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ แน่นอน
ว่าแล้วพวกเขาก็ค่อย ๆ กลับสู่เกมและใช้จุดเด่นของตัวเองคือลูกโต้กลับที่เฉียบขาดเล่นงานผู้มาเยือน จนในที่สุดก็มาตีไข่แตกในอีก 7 นาทีต่อมาและได้ประตูตีเสมอ 10 นาทีก่อนหมดเวลาครึ่งแรก…ไอ้ที่คิดว่า “ไหลแน่ ๆ” นั้นก็ไหลจริง ๆ แต่ดันเป็นสกอร์จากฝั่งเจ้าบ้านแทน!
พอเข้าสู่ครึ่งหลังรูปเกมก็ไม่ได้หนีกันเท่าไหร่ แต่จุดเปลี่ยนคือการโดนใบแดงของ อองตวน กรีซมันน์ ในนาทีที่ 52 ทำให้ ลิเวอร์พูล เล่นง่ายขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะมีโอกาสในการเบิกสกอร์เพิ่ม จนมาได้ลูกจุดโทษในนาทีที่ 78 และเป็น ซาลาห์ ที่ซัดประตูชัยปิดกล่องเก็บ 3 คะแนนอย่างหืดจับ
หลายคนอาจคิดว่ามันจะไปยากอะไรกับการเล่น 11 ต่อ 10 คน แต่ปัญหาก็คือ คุณไม่ได้เล่นกับทีมอย่าง วัตฟอร์ด หรือ นอริช ซิตี้ น่ะสิ ?!
แต่นี่คือดีกรีแชมป์ ลาลีก้า เมื่อซีซันที่แล้วเลยนะ!!
ชัยชนะแทบรากเลือดเช่นนี้คนเป็นแฟนบอลอย่างเรา ๆ คงไม่ได้คิดอะไรมาก เห็นทีมได้ 3 คะแนนก็มีความสุข แต่สำหรับผู้จัดการทีมอย่าง เยอร์เก้น คล้อปป์ มองว่านี่คือ 3 แต้มที่ไม่สวยหรูแต่สำคัญที่สุดสำหรับทีม
“เรายังต้องเล่นเกมรับด้วยทุกอย่างที่เรามี เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเหลือเพียง 10 แต่ก็ยังเล่นกันได้อย่างดุดันและเข้มข้น”
“แต่ 3 คะแนนที่ไม่ค่อยสวยงามนี้มันมักจะสำคัญที่สุด และแน่นอนว่าค่ำคืนนี้เราไม่ได้เล่นดีซักเท่าไหร่ มันไม่ใช่ฟุตบอลที่ดีที่สุดของเรา แต่เราเอาชนะพวกเขาได้และมันคือก้าวย่างที่สำคัญ”
“เมื่อทั้งสองทีมเผชิญหน้ากัน ผมรับประกันได้เลยว่ามันต้องมีดรามาเกิดขึ้น ทั้งสองทีมเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมและคุ้นเคยกับการที่จะต้องสู้เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกมเป็นอะไรที่พิเศษมาก ๆ เพราะคุณไม่ได้ขึ้นนำ แอตเลติโก้ มาดริด 2-0 ในช่วง 13 นาทีแรกแบบนี้ได้บ่อยๆ หรอก”
“สมองของมนุษย์นั้นคือศัตรูที่สำคัญที่สุด เราเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ผิดไปหมด เราต้องการคุมเกมด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง เราเปิดพื้นที่มากไปและเห็นได้ชัดว่ามันเลยนำมาซึ่งการเสีย 2 ประตูง่าย ๆ แบบนี้”
“ผมบอกพวกเขาเด็ก ๆ ในช่วงพักครึ่ง ซึ่งมันออกมาเป็นแง่บวกมาก ๆ เพราะเราได้รู้อะไรมากขึ้นกว่าเดิมในตอนแรก เราแค่ต้องเล่นให้รัดกุมขึ้น นั่นคือสิ่งที่เราพยายามทำ แต่จากนั้นเกมมันก็ยิ่งดรามาหนักเข้าไปอีกเพราะการตัดสินและสิ่งที่เกิดขึ้น” เยอร์เก้น คล็อปป์ กล่าว
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าแม้จะเก็บ 3 คะแนนได้ก็จริง แต่นายใหญ่ หงส์แดง คงต้องกลับไปปรับอะไรอีกหลายจุด เพราะนัดต่อไปพวกเขาจะต้องบุกไปเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อทำศึก “แดงเดือด” ยกแรกของฤดูกาล
แต่ตอนนี้…ขอมีความสุขกับ 3 แต้มขี้แหร่แบบนี้ไปก่อนแล้วกัน!