บทพิสูจน์คุณสมบัติของแชมป์

ลิเวอร์พูล, ข่าวซื้อ-ขายนักเตะ, หงส์แดง, Liverpool,ซาลาห์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, Salah, Mohamed Salah, Salah Contract, ข่าวการต่อสัญญาซาลาห์

ใครจะไปคิดว่าจากที่ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนมกราคมถึง 14 คะแนน ลิเวอร์พูล จะสามารถเก็บแต้มลดช่องว่างลงเหลือ 1 แต้มได้สำเร็จ หลังจากที่พวกเขาบุกไปเก็บ 3 แต้มเหนือ อาร์เซนอล ได้ที่กรุงลอนดอนเมื่อคืนวันพุธ

การพบกับ เดอะกันเนอร์ส แม้จะไม่ใช่งานง่ายเพราะลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เก็บชัยชนะมา 5 เกมรวด พร้อมกับนักเตะดาวรุ่งที่สดใหม่และพวกเขากำลังลุ้นอันดับ 4 เพื่อกลับไปเล่น ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีหน้า แต่จากการเจอกันที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้เจ้าบ้านยังไม่สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้เลยทั้งในศึก คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศและ พรีเมียร์ลีก นัดแรก แถมยังยิงประตูไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว

แต่ก่อนเกม เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็ให้เครดิตกับแข้ง ปืนโต พอสมควร พร้อมทั้งชมเชยการทำงานของ อาร์เตต้า ที่พาลูกทีมไต่ระดับขึ้นมาจากโซนตกชั้นเมื่อช่วงต้นฤดูกาล กลายเป็นลุ้นท้อปโฟร์ในช่วงโค้งสุดท้าย พร้อมกับเชื่อว่าพวกเขากำลังกลับมาอยู่ในฟอร์มของบิ๊กทีม พรีเมียร์ลีก อย่างที่เคยเป็นมาอีกครั้ง

ผมได้เห็นการเล่นของพวกเขาแล้วรู้สึกว่านี่คือทีมที่มีไอเดียชัดเจน มีโครงสร้างของทีมที่เป็นรูปธรรม และเป็นทีมที่แข็งแกร่ง พวกเขามีรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน ซึ่งพื้นฐานคือการครองบอล การใช้นักเตะดาวรุ่งอายุน้อย และการมีนักเตะพรสวรรค์อยู่ในทีม

ลองมองไปที่รายชื่อนักเตะเหล่านั้นสิ พวกเขามีกองหน้าที่มีประสบการณ์อย่าง อเล็กซองดร์ ลากาแซ็ตต์ และมี 3 ตัวรุกดาวรุ่งอยู่ข้างหลัง พร้อมด้วยคู่กองกลางหมายเลข 6 ที่ค่อนข้างจะมีประสบการณ์ ส่วนกองหลังก็มีพวกแข้งอายุน้อยฝีเท้าดี ปิดท้ายด้วยผู้รักษาประตูที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม

นี่คือทีมใหญ่ที่กำลังกลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง และเชื่อว่าไม่มีทีมไหนอยากจะเจอกับพวกเขาในเวลานี้หรอก

โดยสรุปก็คือ คล็อปป์ มองว่า อาร์เซนอล ในนาทีนี้คือทีมที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว องค์ประกอบโดยรวมของพวกเขาคือนักเตะอายุน้อยที่ถูกดันขึ้นมาจากทีมชุดเยาวชน พร้อมด้วยแข้งที่มีประสบการณ์ที่พร้อมจะเป็นเสาหลักให้กับแข้งรุ่นน้องและทีม

หากแต่สิ่งที่ยังขาดไปของนักเตะชุดนี้คือความเจนจัดในเกมที่มีความสำคัญ ดังที่ได้เห็นในแม็ตช์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ลิเวอร์พูล, ข่าวซื้อ-ขายนักเตะ, หงส์แดง, Liverpool, Mohamed Salah, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

แม้ว่า ลิเวอร์พูล และ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเจอกับเกมที่ยากลำบากกับการถูกไล่เพรสบดบี้ในแดนกลาง พร้อมปิดเกมริมเส้นทั้งสองข้างของเจ้าถิ่นในช่วง 45 นาทีแรกซึ่งรูปเกมเป็นไปตามที่ อาร์เตต้า วางเอาไว้คือ อย่าให้ทีมเยือนมีโอกาสครองบอลและเล่นเกมรุกได้ถนัด

แต่พวกเขาก็สามารถเอาตัวรอดได้

สังเกตได้ว่าในซีซันนี้มีไม่กี่นัดที่ หงส์แดง จะโชว์ฟอร์มสวยงามและเอาชนะคู่แข่งได้แบบเหนือชั้น เกินกว่าครึ่งที่พวกเขามีเกมที่ไม่ได้เปรียบคู่แข่ง แต่สามารถประคองตัวเองจนเอาชนะได้ในท้ายที่สุด

เกมครึ่งหลังกับ อาร์เซนอล คือข้อพิสูจน์!!

ลิเวอร์พูล, ข่าวซื้อ-ขายนักเตะ, หงส์แดง, Liverpool, Mohamed Salah, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

แต่จากนั้น 3 นาทีต่อมากองกลางทีมชาติสเปนก็มาแก้ตัวสำเร็จจากการจ่ายบอลทะลุช่องให้ ดิโอโก้ โชต้า ยิงมุมแคบผ่านมือ อารอน แรมสเดลส์ เข้าไปอย่างงง ๆ

รวมทั้งในประตูที่ 2 ที่ไม่มีใครคิดว่าอยู่ดี ๆ บอลที่กำลังจะตาย กลายเป็นว่า โรเบิร์ตสัน ฉวยโอกาสฉกบอลและลากไปปาดเข้ากลางให้ บ็อบบี้ ฟีร์มีโน เฉือนเข้าประตูไปแบบเวิลด์คลาสเก็บ 3 คะแนนไล่จี้จ่าฝูงเหลือแต้มเดียว

จริงอยู่ที่ ลิเวอร์พูล มีเปอร์เซ็นต์การครองบอลที่มากกว่าเจ้าบ้านอยู่นิด ๆ ที่ 48-52 แต่พวกเขาก็ไม่ได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งที่แตกต่างคือความเหนียวแน่นและการฉกฉวยโอกาสจากจังหวะสำคัญที่สามารถชี้เป็นชี้ตายในเกมได้

เด็กของ อาร์เตต้า เต็มไปด้วยความสดความคึกคะนอง วูบวาบ และเล่นกันได้ตามแผนที่วางเอาไว้ก็จริง แต่พวกเขาไม่เด็ดขาดพอและเสียสมาธิจนนำไปสู่การเสียประตู

เห็นได้ว่า ลิเวอร์พูล ชุดนี้มีพัฒนาการขึ้นอีกขั้นจากชุดที่ได้แชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก และแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อ 2-3 ปีก่อน แม้ว่าตัวผู้เล่นส่วนใหญ่จะเป็นชุดเดิม แต่พวกเขารู้ว่าจะต้องเล่นอย่างไรในการต่อสู้กันยืดเยื้อและกดดันตลอดฤดูกาลเช่นนี้, ทำให้รูปเกมที่ออกมาแม้ไม่ได้เหนือกว่าคู่แข่งมาก แต่สามารถเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการได้

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากประสบการณ์และความเข้าใจแท็คติกที่สูงมาก ซึ่งมันค่อย ๆ สั่งสมมาเรื่อย ๆ จนมาผลิดอกออกผลในช่วงสำคัญของการลุ้นแชมป์

หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 มกราคม ตอนนั้น เรือใบสีฟ้า กำลังฟอร์มร้อนแรงพวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ เชลซี รองจ่าฝูงไป 1-0 ทำแต้มทิ้งห่างออกไป 13 คะแนน ในขณะที่หนี ลิเวอร์พูล ที่อยู่อันดับ 3 ไปไกลสุดกู่ถึง 14 คะแนนด้วยกัน

แม้ว่าในวันถัดมาเด็ก ๆ ของ คล็อปป์ จะเก็บ 3 คะแนนและแซง สิงห์บลู ขึ้นไปอยู่ที่ 2 แต่ก็ยังมีแต้มห่างจาก ซิตี้ ถึง 11 คะแนน และคงไม่มีใครคิดว่าจะมีทีมไหนไล่ตามลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้ทัน

แต่เมื่อคืนวันพุธกลายเป็นว่าตอนนี้ ลิเวอร์พูล ไล่จี้มาเหลือเพียงแต้มเดียวและเป้าหมายเดียวคือการเก็บชัยชนะอีก 9 นัดที่เหลือเพื่อคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20

เชื่อว่าความเฉียบขาดและความเก๋านี่แหละ ที่จะพาพวกเขาไปถึงจุดนั้น

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top