นาทีนี้คงไม่มีข่าวใดที่น่าสนใจมากไปกว่าการกลับมายัง พรีเมียร์ลีก อีกครั้งของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ หลังจากที่ไปตกระกำลำบากกับ บาร์เซโลนา เป็นเวลา 4 ปีเต็ม ๆ นับตั้งแต่ย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล ในเดือนมกราคม 2018 ด้วยค่าตัว 142 ล้านปอนด์
แฟนหงส์บางคนอาจจะรู้สึกสะใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ คูตี้ เพราะการจากลาของเขานั้นไม่ค่อยน่าจดจำซักเท่าไหร่นัก แม้ว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ เองจะพยายามรั้งเอาไว้อย่างเต็มที่ พร้อมกับเคยเตือนสติกันมาแล้วตอนที่ข่าวกับ บาร์เซโลนา เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2017 ว่า
“จงอยู่ที่นี่ต่อไป และสุดท้ายพวกเขาจะสร้างรูปปั้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับนาย แต่ถ้านายย้ายไปเล่นให้กับทีมอื่นอย่าง บาร์เซโลนา, บาเยิร์น มิวนิค หรือ เรอัล มาดริด นายก็จะเป็นแค่นักเตะธรรมดา ต่างกับการอยู่ที่นี่ ซึ่งนายจะได้ทำบางสิ่งที่มากกว่า”
แต่สุดท้าย คูตินโญ ก็เลือกเดินหนีจากแฟนบอลเพื่อตามหาความฝันใน ลา ลีกา ก่อนจะซมซานกลับมายังอังกฤษอีกครั้งกับ แอสตัน วิลลา ในอีก 4 ปีต่อมา
แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เชื่อว่าหลายคนอาจจะยอมให้อภัยแข้งแซมบ้ารายนี้กันไปบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อย เพราะบนเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพเราไม่อาจจะล่วงรู้ได้ว่าโอกาสในการย้ายไปเล่นให้กับยอดทีมของโลกนั้นมันจะเข้ามาเมื่อไหร่ แม้ว่าสุดท้ายมันจะกลายเป็นฝันร้ายก็ตาม
มาพูดถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้ากันดีกว่า เพลย์เมคเกอร์วัย 29 ปีมีโปรแกรมจะเดินทางมายังเมืองเบอร์มิงแฮมที่ตั้งของ วิลลา ในสุดสัปดาห์นี้เพื่อพบกับอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ว่ากันว่านี่คือคนสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจมาที่นี่ รวมทั้งจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับสโมสร
และหากไม่มีอะไรผิดพลาดเราก็อาจได้เห็นเจ้าตัวประเดิมสนามให้กับทีมในเกมที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก พรีเมียร์ลีก วันที่ 16 มกราคมทันที…อะไรมันจะประจวบเหมาะขนาดนั้นครับเนี่ยยย!!
สำหรับรายละเอียดทั่วไปมีการเปิดเผยว่า ช่วงเวลา 6 เดือนในถิ่น วิลลา ปาร์ค ทีม สิงห์ผยอง จะรับผิดชอบค่าเหนื่อยของ คูตี้ 65% ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 125,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ส่วนอีก 35% จะเป็นส่วนของ บาร์เซโลนา พร้อมด้วยออปชันซื้อขาดราว ๆ 40 ล้านยูโรหรือประมาณ 33 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม เจอร์ราร์ด ยังมีการบ้านชิ้นสำคัญอีกอย่างคือเขาจะใช้งาน คูตินโญ อย่างไรต่อไป
เมื่อย้อนกลับไปดูสถิติการลงสนามของแข้งแซมบ้าที่ผ่านมา นับเฉพาะที่ลงเล่นให้กับทีม หงส์แดง ซึ่งเล่นในระบบ 4-3-3 จะพบว่าตำแหน่งที่เจ้าตัวถูกใช้งานมากที่สุดคือ ตัวรุกริมเส้นด้านซ้าย (Left wing) ในขณะที่รองลงมาคือมิดฟิลด์ตัวรุก (Attacking midfield)
สถิติจากเว็บไซต์ transfermarkt.com บ่งบอกอย่างชัดเจนว่า คูตี้ ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ไปทั้งหมด 201 เกมในทุกรายการยิงได้ 54 ประตูและทำไป 45 แอสซิสต์ โดยเล่นในตำหน่งปีกซ้ายมากที่สุดคือ 106 นัดยิงได้ 37 ประตูทำได้ 28 แอสซิสต์
ฤดูกาลที่เขาทำผลงานได้ดีที่สุดในตำแหน่งนี้คือในซีซัน 2016-2017 ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ โดยลงสนามในทุกรายการไป 29 นัด ยิงได้ 14 ประตูและทำได้ 10 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก 27 นัด ยิงได้ 12 ประตูและทำไป 8 แอสซิสต์
และด้วยผลงานอันร้อนแรงเช่นนี้จึงไม่แปลกที่ไปเข้าตา บาร์เซโลนา ซึ่งตอนนั้นยังถือเป็นทีมเจ้าบุญทุ่มและยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่สุดทีมหนึ่งของโลกฟุตบอล
ในขณะที่เมื่อย้ายมาสู่ถิ่น คัมป์ นู ในยุคของ เอร์เนสโต บัลเบร์เด้ อดีตแข้ง หงส์แดง ก็ยังได้ลงเล่นในตำแหน่งตัวรุกริมเส้นด้านซ้ายอย่างต่อเนื่อง โดยลงสนามไปทั้งหมด 68 นัดยิงได้ 17 ประตูและทำไป 7 แอสซิสต์
หากแต่การไปยืนด้านซ้ายของเขานั้นคือการเล่นในระบบ 4-4-2 ไม่ใช่ 4-3-3 เหมือนกับที่เล่นให้ ลิเวอร์พูล ซึ่งแม้ว่าจะทำผลงานเอาตัวรอดได้ในช่วงแรก แต่จากนั้นก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะมีปัญหากับแท็คติกนี้พอสมควร
อีกทั้งต้องไปแย่งตำแหน่งกับกองกลางระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง อิวาน ราคิติช, เซอร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรียส อิเนียสต้า และ อุสมาน เดมเบเล จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องหากไม่งัดฟอร์มเทพจริง ๆ
แม้ว่าช่วงหนึ่ง บัลเบเด้ จะเปลี่ยนมาใช้ระบบ 4-3-3 แล้วก็ตามแต่สไตล์การเล่นของ คูตินโญ ก็ยังไปทับตำแหน่งกับ ลีโอเนล เมสซี ที่มักดึงตัวเองลงมาเล่นในแดนกลางอยู่บ่อย ๆ หรือหากจะถ่างออกไปเป็นปีกซ้ายอย่างเต็มตัว ก็ต้องเจอกับ จอร์ดี้ อัลบา ที่เล่นวิงแบ็คซ้ายอยู่แล้ว
การกลับมายัง พรีเมียร์ลีก ครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการเรียกพลังและความเชื่อมั่นของตัวเองให้กลับมาอีกครั้ง เพราะนี่คือลีกที่ทำให้เขาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในโลกฟุตบอล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้กลับมาร่วมงานกับอดีตกัปตันของเขาอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด ซึ่งทั้งคู่เคยมีโอกาสลงเล่นร่วมกันในช่วงปี 2013-2015 ก่อนที่นายใหญ่ วิลลา จะย้ายไปเล่นใน เมเจอร์ลีก ซ็อกเกอร์ กับ แอลเอ กาแลคซี และแขวนสตั๊ดในปี 2017
ดังนั้นอดีตกัปตัน หงส์แดง จึงน่าจะเป็นคนที่รู้ดีถึงศักยภาพของแข้งรุ่นน้องรายนี้และรู้ว่าเขาจะสามารถใช้งานอย่างไร รวมทั้งอาจจะมีวิธีเรียกความมั่นใจของเจ้าตัวให้กลับคืนมาหลังจากที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าในถิ่น คัมป์นู ด้วย
จากนี้เป็นต้นไป เชื่อเหลือเกินว่าแม้ คูตินโญ จะเคยสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับ เดอะค็อป มาก่อน แต่ก็น่าจะมีหลาย ๆ คนที่พร้อมจะเอาใจช่วยเจ้าตัวอยู่ห่าง ๆ และอยากเห็นเขากลับมาเป็นคนเดิมเหมือนตอนที่เคยสร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่ แอนฟิลด์ เคียงข้าง สตีเวน เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีมของพวกเขา
คงไม่มีคำกล่าวใดที่จะเหมาะไปกว่าคำว่า ยินดีต้อนรับสู่ พรีเมียร์ลีก นะ… คูตินโญ!