สิ่งที่ ‘คล็อปป์’ พอทำได้ ก่อนถึงศึกฟุตบอลโลก

Premier League, Liverpool, Jurgen Klopp, Joe Gomez, Darwin Nunez, Fabinho, Curtis Jones, Mohamed Salah, Leeds, Summerville, Rodrigo, LIVLEE, Anfield, YNWA, พรีเมียร์ลีก, ลิเวอร์พูล, หงส์แดง, แอนฟิลด์, ซาลาห์, สมัครยูฟ่า, ดูบอลสด, ดูบอลออนไลน์, แทงบอล, แทงบอลออนไลน์, ยูฟ่า, Ufaclub.live

ความพ่ายแพ้ต่อ ลีดส์ ยูไนเต็ด คาบ้านของ ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นว่าปัญหาที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ กำลังเผชิญอยู่นั้น มันหนักหนาสาหัสเกินกว่าจะสามารถแก้ไขได้เพียงชัยชนะเพียงไม่กี่เกม

หงส์แดง ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ซีซันนี้ไปแล้ว 12 นัด แบ่งเป็นชนะ 4 เสมอ 4 และแพ้ 4 มีเพียง 16 คะแนน ซึ่งเท่ากับคะแนนเมื่อซีซัน 2010-2011 นอกจากนั้นยังเป็นคะแนนที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ซีซัน 2014-2015 ซึ่งเป็นซีซันแรกของ คล็อปป์ และนับเป็นสถิติที่แย่ที่สุดของเขาในการคุมทีมแบบเต็มฤดูกาลในถิ่น แอนฟิลด์

ก่อนเกมคงไม่มีใครเชื่อว่า ลิเวอร์พูล จะกล้าเปิดบ้านให้ ลีดส์ มาเชือดแบบนี้ เพราะดูจากฟอร์มที่ผ่านมา แม้เจ้าบ้านจะไม่คงเส้นคงวาซักเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีกว่าทีมเยือนที่ไม่ชนะใครมาแล้ว 8 เกมและร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 19 ของตาราง สุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นอย่างมาก

แถมเมื่อ 8 เดือนก่อนที่ แอนฟิลด์ ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังเคยถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด อย่างบ้าคลั่ง ด้วยสกอร์ 6-0 ซึ่งเกมนั้น แม้แต่ โจเอล มาติป ยังสามารถโชว์ลีลาดุจดั่ง ลีโอเนล เมสซี พาบอลเข้าไปยิงได้แบบสบายเท้า

หากแต่ในนัดนี้ เจสซี มาร์ช วางแผนมาอย่างดีและไม่ได้เกรงกลัวเจ้าบ้าน เพราะตลอดทั้งเกมทีมเยือนไม่ได้มาอุดเพียงอย่างเดียว มีการเปิดเกมโต้แบบให้หวาดเสียวและได้น้ำได้เนื้อกว่าหลายครั้งอีกด้วย

กลับกลายเป็น ลิเวอร์พูล เอง ที่เล่นกันไม่ดีนัก แม้ คล็อปป์ จะยังใช้ระบบเดิมคือ 4-3-1-2 ที่เอาชนะ อาแจ็กซ์ มาได้ แต่ต่างกันตรงที่เกมนี้ฟอร์มการเล่นในทุกตำแหน่งกลับไม่เป็นใจ กองหลังมีความผิดพลาดส่วนตัวจนทำให้ทีมโดนขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกมอีกครั้ง นับเป็นนัดที่ 8 จากการลงเล่น 12 เกมใน พรีเมียร์ลีก ซีซันนี้ มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก เซาแธมป์ตัน ที่โดนไป 9 นัดแค่ทีมเดียว

ในแดนกลางก็ไม่ได้มีพลังในการขับเคลื่อนเกมเหมือนเดิม คล็อปป์ เปลี่ยนผู้เล่นในแผงมิดฟิลด์ไปเพียงคนเดียว โดยส่ง ติอาโก้ อัลคันทารา ลงสนามแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เพิ่งเล่นในเกมกลางสัปดาห์มา ส่วน ฟาบินโญ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียต ก็ได้ลงเล่นต่อเนื่อง แต่เมื่อโดนทีมพลังหนุ่มของ ลีดส์ เข้าบดบี้อย่างหนักก็ ทำให้พวกเขาไม่สามารถครองบอลหรือทำเกมไปสู่แดนหน้าได้ถนัด

แดนหน้าก็ใช้โอกาสเปลือง โดยเฉพาะ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ยิงได้ติดต่อกันมา 4 เกมที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่แม็ตช์นี้เขากลับทำไม่ได้ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสงาม ๆ หลายครั้ง

Premier League, Liverpool, Jurgen Klopp, Joe Gomez, Darwin Nunez, Fabinho, Curtis Jones, Mohamed Salah, Leeds, Summerville, Rodrigo, LIVLEE, Anfield, YNWA, พรีเมียร์ลีก, ลิเวอร์พูล, หงส์แดง, แอนฟิลด์, ซาลาห์, สมัครยูฟ่า, ดูบอลสด, ดูบอลออนไลน์, แทงบอล, แทงบอลออนไลน์, ยูฟ่า, Ufaclub.live

เกมนี้เหมือนภาพสะท้อนกลับของนัดที่ถล่ม อาแจ็กซ์ เมื่อกลางสัปดาห์ แม็ตช์ดังกล่าวในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ลิเวอร์พูล เล่นไม่ดีเท่าไหร่ จวนเจียนจะเสียประตูอยู่หลายครั้ง หากแต่เจ้าบ้านโชคไม่ดีที่ยิงไปชนเสาและยิงทิ้งยิงขว้างหลายลูก ซึ่งพอไม่เสียประตูทัพ หงส์แดง ก็ตั้งเกมได้และกลับมาสร้างความอันตรายให้คู่แข่งจนเก็บสามแต้มไปได้

แต่ในเกมล่าสุดทุกอย่างกลับกัน พวกเขาก่อความผิดพลาดกันเองตั้งแต่ยังไม่ถึง 5 นาทีแรก จากนั้นก็ต้องไล่ตีเสมอ และด้วยรูปเกมที่กระท่อนกระแท่นบวกกับความไม่เด็ดขาดในแดนหน้า สุดท้ายก็โดนลงโทษในช่วงท้ายจนพ่ายคาบ้าน

คำถามถูกโยนกลับไปที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ อีกครั้ง เขาทำได้ดีที่สุดแค่นี้จริงหรือ ทีมมีศักยภาพที่พร้อมจะกลับมาลุ้นท็อปโฟร์กับทีมอื่น ๆ ได้จริงหรือ และต่อจากนี้จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร

ก็ต้องบอกว่าหากมองในภาพรวมพวกเขาก็ยังพอมีหวังอยู่บ้าง เพราะเมื่อมองไปที่ตัวผู้เล่น ณ เวลานี้แม้ดูเหมือนว่าแทบจะไม่มีตัวเลือกอื่นในมือเลย นักเตะที่มีศักยภาพดีพอจะลงสนามหมุนเวียนกันได้ก็มีไม่ถึง 15 คน แต่หากได้ตัวที่บาดเจ็บกลับมาพร้อมหน้า พวกเขาก็น่าจะกลับมาแข็งแกร่งเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงมาตรฐานเดิม

Premier League, Liverpool, Jurgen Klopp, Joe Gomez, Darwin Nunez, Fabinho, Curtis Jones, Mohamed Salah, Leeds, Summerville, Rodrigo, LIVLEE, Anfield, YNWA, พรีเมียร์ลีก, ลิเวอร์พูล, หงส์แดง, แอนฟิลด์, ซาลาห์, สมัครยูฟ่า, ดูบอลสด, ดูบอลออนไลน์, แทงบอล, แทงบอลออนไลน์, ยูฟ่า, Ufaclub.live

คล็อปป์ เองก็เชื่อเช่นนั้น เพราะก่อนเกมจะเริ่มขึ้นเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ลิเวอร์พูล อาจจะกลับมาแกร่งขึ้นเมื่อจบฟุตบอลโลก เนื่องจากทีมจะได้นักเตะที่บาดเจ็บกลับมาเกือบหมดและจะได้ซ้อมร่วมกันประมาณ 6 สัปดาห์ที่ดูไบ รวมทั้งหากพวกที่ไปเตะบอลโลกไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ก็ถือว่าแทบจะมีนักเตะสมบูรณ์เกือบจะเต็ม 100

หากแต่ในมุมของแฟนบอล แค่นั้นมันอาจจะยังไม่พอ เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นอีกครั้งที่แดนกลางโดนความสดของคู่แข่งไล่บดบี้จนไปไม่เป็น มีเพียง ติอาโก้ ที่พอประคองทีมได้ ในขณะที่ ฟาบินโญ, เอลเลียต และ เฮนเดอร์สัน ต้องการตัวช่วยมากกว่านี้

นอกจากการรอให้ผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บกลับมาพร้อมหน้า เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็ต้องเสริมทัพในแดนกลางเพิ่มอย่างน้อยอีก 1-2 รายเพื่อลุ้นท็อปโฟร์ด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่คือสิ่งที่เราพูดถึงกันมาตลอด และก็จะต้องพูดกันต่อไปจนกว่าตลาดเดือนมกราคมจะเปิดทำการ

ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ มองในแง่ดีทำให้ หงส์แดง สามารถกลับมาโฟกัสกับ 2 เกมที่เหลือใน พรีเมียร์ลีก กับ สเปอร์ส และ เซาแธมป์ตัน ได้อย่างเต็มที่ เพราะพวกเขาผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ใน UCL ไปแล้ว เกมกับ นาโปลี ในคืนวันพุธไม่มีผลอะไรเป็นเพียงแค่การแย่งกันเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มเท่านั้น ส่วนนัดที่เจอกับ ดาร์บี้ ใน คาราบาวคัพ วันที่ 10 พฤศจิกายนนั้นก็สามารถพักตัวหลักเพื่อรอบู๊เกมสุดท้ายกับ นักบุญแดนใต้ ได้

ช่วงเวลาที่เหลือ สิ่งที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ทำได้ดีที่สุดคือคงต้องประคองทีมไม่ให้เละเทะไปกว่านี้ แล้วค่อยไปลุ้นกันใหม่ในตลาดหน้าหนาว

ส่วนแฟนบอลก็คงต้องนั่งทำใจยอมรับสภาพกันไปก่อน และทำตัวให้ชินกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนที่ฟุตบอลโลกจะมาถึง…

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top