ฟอเรสต์ vs ลิเวอร์พูล เกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 27 ประจำฤดูกาลที่ 2023-24 มีเรื่องดราม่าอีกครั้ง หลัง หงส์แดง บุกไปเอาชนะเจ้าถิ่น น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถึงสนาม ซิตี้ กราวด์ แบบหืดจับ ในนาทีสุดท้ายของครึ่งหลัง
ในเกมนี้, นักเตะ ลิเวอร์พูล ต้องเจอกับความอึดอัด กับเกมรับที่แข็งแกร่งของ ฟอเรสต์ แต่พวกเขายังสามารถเก็บ 3 คะแนนกลับออกมาได้ ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งนัดในความทรงจำพลพรรค หงส์แดง อย่างแท้จริง
1. ลิเวอร์พูล ยังต้องแก้ปัญหาไปทีละเกม
![ฟอเรสต์ vs ลิเวอร์พูล 2 ฟอเรสต์ vs ลิเวอร์พูล 2](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/03/ฟอเรสต์-vs-ลิเวอร์พูล-2.webp)
ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น, ลิเวอร์พูล ต้องขาดผู้เล่นตัวหลักหลายราย ที่ไม่พร้อมลงสนาม อาทิเช่น ดิโอโก โชต้า, เคอร์ติส โจนส์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, อลิสซอน เบ็คเกอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในขณะที่ ดาร์วิน นูเนซ, วาตารุ เอนโด และ โดมินิค โซบอสซ์ไล ก็มีรายชื่อเป็นตัวสำรอง
คล็อปป์ ต้องเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ตลอดใน 1-2 เดือนที่ผ่านมา แต่บอสใหญ่ชาวเยอรมัน ได้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า สามารถบริหารจัดการทีมได้อย่างยอดเยี่ยม และไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ชัยชนะนัดนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้รับสามแต้มสำคัญเท่านั้น แต่มันยังช่วยซื้อเวลาให้พวกเขา ได้รอบรรดาผู้เล่นตัวหลักกลับมาสู่ทีมอีกด้วย
สำหรับภาพรวมของ ลิเวอร์พูล ตอนนี้ คือการต้องมองไปทีละเกม และต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ในระหว่างที่กำลังรอผู้เล่นคนอื่น ๆ กลับมา ซึ่งเราอาจจะได้เห็น ซาลาห์ รวมถึง กราเฟนแบร์ก พร้อมเป็นตัวเลือกให้ทีมในเร็ว ๆ นี้
2. อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ นักเตะจอมอัจฉริยะ
![แม็ค อัลลิสเตอร์ แม็ค อัลลิสเตอร์](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/03/แม็ค-อัลลิสเตอร์.webp)
ในท้ายที่สุดก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลย ที่จังหวะแห่งชัยชนะนั้น มาจากการจ่ายบอลที่สวยงามของ แม็ค อัลลิสเตอร์ ซึ่งถือเป็นนักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้ โดยดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ ยืนปักหลักในแดนกลางได้อย่างน่าประทับใจ
แม็ค อัลลิสเตอร์ น่าจะมีเพิ่มอีก 2 แอสซิสต์ ในเกม ฟอเรสต์ vs ลิเวอร์พูล หาก โคดี้ กัคโป และ หลุยส์ ดิอาซ เฉียบขาดกว่านี้ จากจังหวะที่เขาผ่านบอลให้ และตลอดทั้งเกม มิดฟิลด์วัย 25 ปี ทำสถิติจ่ายบอลสำเร็จ 57 ครั้ง สร้างสรรค์โอกาสได้ถึง 6 ครั้ง สกัดบอล 5 ครั้ง และเอาชนะการดวล 11 ครั้ง
กองกลางแชมป์โลกย้ายจาก ไบรท์ตัน มาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวเพียง 35 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และตอนนี้ผลงานของเขา มันเกินคำว่าคุ้มค่าไปเรียบร้อยแล้ว
3. ความแข็งแกร่งของเกมรับ ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ
![ควีวิน เคลเลเฮอร์ ควีวิน เคลเลเฮอร์](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/03/ควีวิน-เคลเลเฮอร์.webp)
เจ้าบ้าน ฟอเรสต์ อาจมีช่วงเวลาที่อันตรายในบางช่วงของเกม แต่นั่นอาจเป็นเรื่องที่คาดหวังได้ เนื่องจากแผงมิดฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล มีเพียง แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่เป็นตัวจริง ขณะที่กองหลังอย่าง โจ โกเมซ ก็ถูกปรับมาเล่นเป็นห้องเครื่องเบอร์ 6 และมีดาวรุ่งอย่าง บ๊อบบี้ คลาร์ก ที่ลงประเดิมสนามในลีกเป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม, แผงแนวรับของ ลิเวอร์พูล ก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้ง ควีวีน เคลเลเฮอร์ นายทวารมือ 2 ที่โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟ ในจังหวะสำคัญได้หลายครั้ง ขณะที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ อิบราฮิมา โคนาเต้ ยังมาตรฐานสูงเช่นเคย
ฟาน ไดจ์ค ชนะการดวล 4/5 ครั้ง ส่วน โคนาเต้ ชนะการดวล 7/12 ครั้ง ซึ่งฟอร์มอันยอดเยี่ยมของทั้งคู่ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เก็บ 3 คะแนนในเกม ฟอเรสต์ vs ลิเวอร์พูล
4. ดาร์วิน นูนเญซ ปิดปากแฟนเจ้าบ้าน ในเกม ฟอเรสต์ vs ลิเวอร์พูล
![ดาร์วิน นูนเญซ ดาร์วิน นูนเญซ](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/03/ดาร์วิน-นูนเญซ.webp)
แฟนบอล ฟอเรสต์ พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อทำลายสมาธิของ นูนเญซ ด้วยการร้องเพลงแซวว่า “นิว แอนดี้ แคร์โรลล์” ในช่วงที่ ดาวยิงชาวอุรุกวัย ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง แต่อย่างที่ คล็อปป์ บอกหลังเกมจบว่า “ถ้าเป็นผม ผมจะไม่รองเพลงนั้น และจะไม่พยายามสร้างความรำคาญให้กับ ดาร์วิน”
เรามาถึงจุดที่แฟนบอลฝ่ายตรงข้าม ต้องยอมรับแล้วว่า นูนเญซ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ในฐานะหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก และการยิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในช่วงนาทีบาปของเกมนี้ ก็เป็นสิ่งที่ตอกย้ำ ถึงความยอดเยี่ยมของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
ก่อนหน้านี้ ดาร์วิน นูนเญซ เคยถูกมองว่า ใช้โอกาสเปลือง และไม่ได้สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับแนวรุก ลิเวอร์พูล มากนัก แต่ในตอนนี้ คงไม่มีใครคิดแบบนั้นอีกแล้ว
5. บ๊อบบี้ คลาร์ก และ โจ โกเมซ ควรได้รับคำชมในเกม ฟอเรสต์ vs ลิเวอร์พูล
![บ็อบบี้ คลาร์ก & โจ โกเมซ บ็อบบี้ คลาร์ก & โจ โกเมซ](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/03/บ็อบบี้-คลาร์ก-โจ-โกเมซ.webp)
คลาร์ก วัย 19 ปี ลงเป็นตัวจริงในเกม พรีเมียร์ลีก ครั้งแรก โดยเอาชนะการดวล 9 ครั้ง ตัดบอล 5 ครั้ง และทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้นักเตะ ฟอเรสต์ ผ่านแดนกลางไปได้ง่ายๆ ขณะที่ โกเมซ ชนะการดวล 5 ครั้งจากการดวล 10 ครั้ง ตัดบอล 7 ครั้ง และยังสร้างโอกาสได้ 2 ครั้งในตำแหน่งกองกลางที่ไม่คุ้นเคย
จุดอ่อนที่พวกเขาแสดงออกมาสำหรับ คลาร์ก คือ สภาพร่างกายที่ยังไม่แข็งแกร่งนัก ส่วน โกเมซ เป็นเรื่องของความเชื่องช้าจากการยืนตำแหน่งที่ไม่ถนัด แต่เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมด พวกเขาทั้งคู่สมควรได้รับคำชื่นชมอย่างมาก
คล็อปป์ และแฟนบอล ลิเวอร์พูล รู้ดีว่า ผลลัพธ์นี้คงเป็นไปไม่ได้หากไม่มี คลาร์ก และ โกเมซ อยู่ในสนาม