เป็นที่รู้กันดีว่าหนึ่งในอาวุธสำคัญในเกมรุกของ ลิเวอร์พูล คือการเติมเกมรุกของฟูลแบ็คทั้งสองข้าง โดยเฉพาะทางฝั่งขวาที่มี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ประจำการนั้นนอกจากการแลบขึ้นมาช่วยเกมริมเส้นแล้ว “ลูกครอส” หรือการเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษก็ถือเป็นทีเด็ดที่ช่วยให้ทีมได้ประตูมานักต่อนักเช่นกัน
สิ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพของเรื่องนี้ก็คือสถิติการทำแอสซิสต์ของแบ็คขวาวัย 23 ปีที่ตอนนี้ทะลุไป 17 ครั้งในทุกรายการ โดย 11 จาก 17 ครั้งมาจากการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก
จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากังวลหลังจากที่มีข่าวออกมาในช่วงพักเบรกทีมชาติว่า เทรนท์ ได้รับบาดเจ็บต้องพักหลายสัปดาห์ เพราะนั่นหมายความว่าทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะขาดทีเด็ดสำคัญในเกมรุกฝั่งขวาไปด้วย
อย่างไรก็ดี, นายใหญ่ชาวเยอรมันก็ไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาเกินจะแก้ไข ก่อนเกมที่จะพบกับ วัตฟอร์ด เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ในทำนองที่ว่าเขามีตัวเลือกในตำแหน่งแบ็คขวาอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น โจ โกเมซ ที่ถูกส่งลงในตำแหน่งนี้อยู่บ่อยครั้ง เจมส์ มิลเนอร์ แข้งจอมเก๋าสารพัดประโยชน์ และ คอเนอร์ แบรดลีย์ ดาวรุ่งที่เริ่มได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่บ้างแล้ว
สุดท้าย คล็อปป์ ก็เลือกใช้ โกเมซ ลงเล่นในตำแหน่งดังกล่าวในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะ แตนอาละวาด ไปได้ 2-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
หลายคนอาจมองว่าเกมนี้ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมาก เพราะ วัตฟอร์ด เป็นทีมที่ไม่ได้มีศักยภาพอะไรที่จะมาสู้กับเจ้าบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มการเล่น อันดับบนตาราง และตัวนักเตะ แต่สิ่งที่ทำให้อยากพูดถึงคือฟอร์มการเล่นของ โกเมซ ในเกมนี้
รู้กันโดยทั่วไปว่าดาวเตะวัย 24 ปีไม่ใช่ตัวเลือกแรกในตำแหน่งใด ๆ ในแผงกองหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงเซ็นเตอร์แบ็คที่มี 3 ด่านสำคัญอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์, โจเอล มาติป และ อิบราฮิมา โคนาเต้ ขวางทางอยู่ ในขณะที่ด้านแบ็คขวาเขาก็เป็นแค่อะไหล่ของ เทรนท์ อาโนลด์ เท่านั้น
นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ โกเมซ มีสถิติการลงสนามในฤดูกาลนี้ไม่มากนัก ซึ่งถ้ารวมเกมนัดคืนวันเสาร์เข้าไปด้วยจะทำให้เขาลงเล่นไปทั้งหมด 16 นัดในทุกรายการ และเมื่อนับแค่ พรีเมียร์ลีก เจ้าตัวก็ได้ลงไป 6 นัดและเป็นการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแค่ 2 เกมเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ข่าวเรื่องการย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์ของเจ้าตัวจึงมีออกมาเป็นระยะ โดยล่าสุดก่อนเกมกับ วัตฟอร์ด ก็เห็นว่ามี แอสตัน วิลลา ของ สตีเวน เจอร์ราร์ด เป็นตัวเต็งที่จะคว้าไปร่วมทีมหลังจบฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม, ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป เรื่องย้ายทีมก็ต้องไปว่ากันช่วงซัมเมอร์ แต่เมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่ก็ต้องทำให้สุดความสามารถ ดังเช่นในเกมกับ เจ้าแตน เมื่อคืนวันเสาร์
เด็กหงส์ หลายคนมองว่าการลงสนามแทนที่ เทรนท์ อาร์โนลด์ ของกองหลังวัย 24 ปีนั้นก็น่าจะเหมือนเกมอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น คือแพ็คเกมรับให้แน่น ไม่ต้องหวังเรื่องเติมเกมรุกหรือผ่านบอลสวย ๆ ขอแค่จบด้วยชัยชนะหรือคลีนชีตก็น่าจะเป็นที่พอใจ
หากแต่ฟอร์มของ โกเมซ เมื่อวันเสาร์นั้นทำเอาเซอร์ไพรส์ใครหลายคนได้ไม่น้อย มีการเน้นเติมเกมรุก และมีลูกครอสสวย ๆ ให้เห็นจนทำให้ ดิโอโก้ โชต้า โหม่งทำประตูขึ้นนำในช่วงกลางครึ่งแรก ซึ่งกลายเป็นแอสซิสต์แรกของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ไปเรียบร้อย แถมต้นครึ่งหลังยังเกือบจะทำเพิ่มอีกหนึ่งแอสซิสต์ให้กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ด้วยซ้ำ
แม้ว่าจะมีจังหวะโดนคู่แข่งเจาะอยู่ 2-3 หน แต่ก็โชคดีที่ทีมเยือนไม่คมพอทำให้รอดตัวไปได้
ในภาพรวมแม็ตช์นี้ถือว่า โกเมซ ทำหน้าที่ได้เยี่ยม หลังจบเกม ลิเวอร์พูลเอ็คโค ให้คะแนนความสามารถไป 7 คะแนน, ส่วน This is Anfield ให้เยอะกว่ากองหลังคนอื่น ๆ ที่ 8 คะแนนเช่นเดียวกับ Whoscored ที่ให้ 7.7 มากที่สุดในแผงหลังเหมือนกัน
และเมื่อพูดถึงลูกครอสสุดสวยในประตูแรก ดิโอโก้ โชต้า ซึ่งเป็นคนโหม่งตุงตาข่ายก็ได้พูดถึงจังหวะนี้ว่า “บอกตามตรง ก่อนเริ่มเกมผมได้คุยกับ โจ ว่าเขาจะทำแอสซิสต์ได้”
“ตอนที่เจอกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ผมก็ได้บอลจากลูกครอสของเขาอยู่ 2-3 ครั้งแต่มันก็ไม่ได้จังหวะกัน แต่วันนี้ผมมั่นใจว่าเขาจะทำได้ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ”
ทางด้านของ เยอร์เก้น คล็อปป์ หลังจากที่ได้เห็นฟอร์มของ โกเมซ เขาก็ได้ออกมาชื่นชมแข้งสำรองรายนี้และยืนยันว่าเจ้าตัวมีส่วนสำคัญต่อทีมในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลกับสถานการณ์ที่ ลิเวอร์พูล กำลังมีลุ้นแชมป์ทุกรายการ
“ไม่ใช่แค่วันนี้นะ เรายังมีทีเด็ดอยู่ข้างสนามอีกเพียบ แม้ว่าเราจะต้องหมุนเวียนนักเตะและหลายคนก็ไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง แต่พวกเขาก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง และ โจอี้ เองก็เห็นได้ชัดว่าเขาก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังเหมือนกัน”
“เขายังมีส่วนกับประตูที่สองด้วย เรื่องเกมรับไม่ต้องพูดถึง เกมรุกอาจจะมีดีและไม่ดีบ้าง เพราะเขาต้องเจอกับคู่แข่งที่มาตั้งรับลึกซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาตำแหน่งที่เหมาะสมได้”
“เขาเป็นนักเตะที่เล่นกับบอลได้ดีและแน่นอนว่าเขาก็จะได้ลงเล่นอีกเยอะ ซีซันนี้อาจจะเป็นอะไรที่ยากสำหรับเขา แต่ใครจะรู้ว่าอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ เขาพร้อมแล้วที่จะคว้าโอกาสที่เข้ามา”
เชื่อว่าในช่วงที่ เทรนท์ ยังไม่สมบูรณ์ ฟอร์มของ โกเมซ จะสามารถช่วยให้ ลิเวอร์พูล รักษาโมเมนตั้มในการลุ้นแชมป์ที่เหลืออยู่ได้
ยิ่งสถานการณ์ในแต่ละถ้วยเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ การมีนักเตะที่สามารถทดแทนกันได้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทีมที่ต้องการประสบความสำเร็จอย่าง ลิเวอร์พูล