หลังเสร็จสิ้นการเก็บตัวและลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องที่ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นับจากนี้เหลืออีกเพียง 11 วันที่ ลิเวอร์พูล จะเดินหน้าเข้าสู่ตลาดซื้อขายเดือนมกราคมเพื่อทำการสะสางปัญหาของทีมต่อไป
หลายคนรู้ดีว่า เดือนแรกของทุกปีคือตลาดซื้อขายหน้าหนาวที่หลาย ๆ ทีมกำลังจ้องเสริมทัพตามเป็นมัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี หงส์แดง ที่ตกเป็นข่าวกับนักเตะมากมายตั้งแต่ปิดตลาดซัมเมอร์ และด้วยผลงานที่ไม่ค่อยน่าประทับใจนัก นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่พวกเขารอคอย
อย่างไรก็ตาม ภารกิจเดือนมกราคมนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องการเสริมทัพเท่านั้น แต่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังต้องลงมือดำเนินการและแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อทำให้ทีมกลับมาแข็งแกร่งและมีสมาธิในการแย่งชิงท็อปโฟร์ รวมทั้งมีลุ้นแชมป์ในฟุตบอลถ้วยที่เหลือด้วย
ถ่ายเทแข้งที่ไม่ได้ใช้งาน
นอกจากการเสริมทัพแล้ว การผ่องถ่ายผู้เล่นสำรองก็เป็นเรื่องสำคัญที่ คล็อปป์ ต้องสะสาง โดยรายแรกที่คาดว่าจะต้องเก็บของออกจากทีมก็คือ แนท ฟิลลิปส์ ที่น่าจะพอทำเงินให้กับสโมสรได้บ้าง เพราะโอกาสในการลงสนามในช่วงที่เหลือในครึ่งฤดูกาลหลังดูเหมือนจะไร้วี่แววหลังจากที่พวกเซ็นเตอร์แบ็คตัวจริงทยอยกลับมาจากอาการบาดเจ็บ
ทีมระดับกลางตารางและพวกหนีตกชั้นน่าจะเหมาะกับ “น้องแนท” ที่สุด เมื่อพูดถึงการได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งราคาที่สามารถจ่ายได้ ลิเวอร์พูล อาจจะได้เงินซัก 10-15 ล้านปอนด์จากดีลนี้ ซึ่งก็พอจะช่วยให้พวกเขามีทุนในการเสริมทัพต่อไป
ส่วนนักเตะคนอื่น ๆ ในทีมอาจจะยังได้อยู่ต่อ เพราะปัญหาสำคัญตอนนี้คือในแดนหน้าและแดนกลางมีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บมากเกินไป เผลอ ๆ แข้งดาวรุ่งอาจจะถูกดันขึ้นมาช่วยงานชั่วคราวอีก 2-3 รายด้วยก็เป็นได้
จัดการเรื่องสัญญาของนักเตะ
หลังจบฤดูกาลนี้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน, นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน จะหมดสัญญากับทีม และน่าจะชัดเจนแล้วว่า รายแรกจะได้ไปต่อ จากข่าวเรื่องการเตรียมเจรจาต่อสัญญาใหม่ ในขณะที่ 2 รายหลังคงเป็น 6 เดือนสุดท้ายของพวกเขาที่ แอนฟิลด์
ผลงานของ บ็อบบี้ ในฤดูกาลนี้พิสูจน์ได้ว่า เขายังคงมีคุณค่ากับทีม และเสียงเรียกร้องของแฟนบอลให้มอบสัญญาฉบับใหม่ก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับอาการบาดเจ็บของ หลุยส์ ดิอาซ และ ดิโอโก้ โชต้า ยิ่งทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ทีมขาดไม่ได้ในเวลานี้
ส่วน เกอิต้า และ ดิอ็อกซ์ นั้นแม้รายแรก ลิเวอร์พูล อยากจะผูกมัดต่อไป แต่ความกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บและความไม่แน่นอนในทีมชุดใหญ่ ทำให้เขาตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองได้ไม่ยาก ส่วนรายหลังนั้นเต็มที่คือการช่วยทีมในอีก 6 เดือนที่เหลือและเตรียมตัวอำลาทีมหลังจบฤดูกาล
ในขณะเดียวกัน ติอาโก้ อัลคันทารา มิดฟิลด์คนสำคัญก็เหลือสัญญาอีก 18 เดือน โดยทาง ลิเวอร์พูล ก็พร้อมที่จะพูดคุยเรื่องอนาคตของเจ้าตัวแล้วด้วย ซึ่งไม่ต้องสงสัยว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ อยากจะให้แข้งวัย 31 ปีอยู่กับทีมต่อไปมากขนาดไหน เพราะนอกจากประสบการณ์และฝีเท้าแล้ว เจ้าตัวยังสามารถช่วยพัฒนาดาวรุ่งที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญได้อีกด้วย
เซ็นสัญญากับกองกลางคนใหม่
นี่คือภารกิจที่สำคัญที่สุดในเดือนมกราคมที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องทำให้สัมฤทธิ์ผลอย่างจริงจัง พวกเขามีข่าวกับนักเตะหลายรายและแฟนบอลก็ต้องการเห็นใครสักคนตบเท้าเดินเข้าสู่ แอนฟิลด์ พร้อมชูเสื้อและลงสนามช่วยทีมในช่วงที่เหลือของฤดูกาล และมันต้องเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
จู๊ด เบลลิงแฮม และ เอนโซ เฟร์นานเดซ อาจจะเป็นดีลที่เป็นไปได้ยากในเดือนหน้า เพราะเหตุผลเรื่องค่าตัวที่แพงมหาศาล และไม่มีใครการันตีได้ว่า บอร์ดบริหารของ ลิเวอร์พูล จะพร้อมจ่ายเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นในช่วงกลางฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ในการดึง โซฟืยาน อัมราบัต แข้งวัย 26 ปีที่โชว์ฟอร์มได้ดีใน ฟุตบอลโลก และราคาค่าตัวก็ไม่ได้แพงมากเกินไป การจ่ายในระดับ 30-40 ล้านยูโรนั้น คงไม่เป็นปัญหาและเป็นเรื่องที่ คล็อปป์ ต้องรีบจัดการ เพราะหากเชื่องช้าเกินไป ทีมยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ที่กำลังจ้องตาเป็นมันก็พร้อมเข้ามาปาดหน้าได้ตลอดเวลา
และทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคือ 3 ภารกิจสำคัญที่พวกเรามองว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องรีบปิดจ็อบและรีบสะสางให้จบให้ได้ในเดือนมกราคมนี้…