![ไฮไลท์ลิเวอร์พูล, ลิเวอร์พูล, Liverpool](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2022/03/คล็อปป์เฟอร์กี้.jpg)
หลังพา ลิเวอร์พูล ชูถ้วย คาราบาวคัพ แชมป์รายการแรกของฤดูกาลนี้อย่างยิ่งใหญ่ เยอร์เก้น คล็อปป์, ก็ถูกยกเปรียบเทียบกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทันที
แฟน ปีศาจแดง อาจขำกลิ้งพลางส่ายหน้า อย่าเอามาเทียบกับกุนซือระดับตำนานของยุโรปและของโลกเลย แค่จำนวนแชมป์ก็เทียบกันไม่ติดแล้ว จะเอาอะไรมาสู้
เป็นเรื่องจริงที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่อาจเทียบชั้นเรื่องความสำเร็จกับท่านเซอร์ได้ แชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัย, ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย, เอฟเอคัพ 5 สมัย และ ลีกคัพ 4 สมัย
แม้กระทั่งความสำเร็จในสมัยที่คุมทีม อาเบอร์ดีน ในลีกสก็อตแลนด์ก็ยังเหนือกว่าด้วยการเป็นแชมป์ลีก 3 สมัย, สก็อตติช คัพ 4 สมัย และ สก็อตติช ลีกคัพ 1 สมัย…นี่คือตัวเลขที่นายใหญ่เมืองเบียร์ยังไปไม่ถึง
![ไฮไลท์ลิเวอร์พูล, ลิเวอร์พูล, Liverpool](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2022/03/เฟอร์กี้-สมัยคุมอาเบอร์ดีน.jpg)
อย่างไรก็ตาม, มาร์ค ลอว์เรนสัน อดีตปราการหลัง ลิเวอร์พูล ไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น เขากำลังเปรียบเทียบวิธีการจัดการทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ หลังจากที่พาทีมได้แชมป์ คาราบาวคัพ ต่างหาก
ลอว์โร่ ซึ่งเคยคว้าแชมป์กับ หงส์แดง อย่างมากมาย พูดถึงการรับมือกับนักเตะตัวสำรองของกุนซือชาวเยอรมัน โดยเขากล่าวว่ามันช่างคล้ายกับที่ เซอร์ อเล็กซ์ เคยทำกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาก่อน
สังเกตได้ว่าตั้งแต่ คล็อปป์ เข้ามาคุมทีม มีน้อยมากที่พวกแข้งสำรองจะออกมาบ่นกับสื่อเรื่องการไม่ได้ลงสนาม หรือวิจารณ์การตัดสินใจของผู้จัดการทีม
อาจเป็นเพราะในช่วงแรกนักเตะที่นายใหญ่วัย 55 มีอยู่ในมือไม่ได้มากมายนัก ตัวสำรองก็ยังห่างชั้นกับตัวจริง เรื่องที่จะออกมาโวยวายเพราะไม่ได้ลงเล่นอาจจะไม่สมเหตุสมผล
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2022/03/คล็อปป์-ว๊าก-768x480.jpg)
แต่เมื่อมาถึงซีซันปัจจุบัน, คุณภาพของนักเตะตัวจริงกับข้างสนามแทบจะทดแทนกันได้ทุกตำแหน่ง ซึ่งมันส่งผลต่อผลงานอันยอดเยี่ยมของทีม และมีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ ได้สำเร็จ รวมทั้งการลุ้น 4 แชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ
การมีทีมขนาดใหญ่เช่นนี้ถือเป็นเรื่องดีในการลุ้นความสำเร็จ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ยากต่อการบริหารจัดการเพราะเกม 1 นัดมีตัวจริงได้เพียง 11 คนเท่านั้น…แต่ ลอว์โร่ บอกว่านายใหญ่ชาวเยอรมันสามารถจัดการได้
ตำนานกองหลัง หงส์แดง ยกตัวอย่างกรณีของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ขึ้นมา โดยบอกว่านายทวารดาวรุ่งรายนี้ได้รับการแจ้งว่าเขาจะได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ เมื่อเดือนก่อน การทำเช่นนี้หมายถึงการให้โอกาสนักเตะทุกคน
ถ้าเป็นทีมอื่นอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การมีนักเตะไม่ได้ลงสนามอาจจะทำให้มีข่าวลือไม่ดีออกมาจากห้องแต่งตัวอยู่เรื่อย ๆ แต่กับ ลิเวอร์พูล แล้วเราแทบไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย
การมีนักเตะที่ฝีเท้าใกล้เคียงกันทำให้ คล็อปป์ สามารถบริหารจัดการได้อย่างลงตัว นักเตะคนใดที่ไม่ได้ลงในเกมนี้ เขาก็จะบอกกับเจ้าตัวตรง ๆ ว่ายังไม่ถึงโอกาส แต่ในอีกเกมหรือ 2 เกมต่อมาเขาก็พร้อมส่งชื่อลูกทีมรายนั้นลงสนามเป็นตัวจริงอย่างไม่ลังเล
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2022/03/ลิเวอร์พูลฉลองแชมป์.jpg)
แน่นอนว่าในทีมขนาดใหญ่เช่นนี้ย่อมมีนักเตะที่ผิดหวัง แต่ผู้จัดการทีมเมืองเบียร์ก็พร้อมที่จะมอบโอกาสให้พวกเขาเหล่านั้นอยู่เสมอ ซึ่งทำให้ในฤดูความกาลนี้เราได้เห็น อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด–แชมเบอนร์เลน, ดิว็อค โอริกี, ทาคุมิ มินามิโนะ, เคอร์ติส โจนส์, อิบราฮิมา โคนาเต้, คอสตาส ซิมิคาส และ ควีวิน เคลเลเฮอร์ สลับหน้ากันลงสนามในทุก ๆ รายการ
อย่างเกมล่าสุด, ที่เปิดบ้านเอาชนะ นอริช ซิตี้ ในศึก เอฟเอคัพ รอบ 5 คล็อปป์ ก็ส่ง มินามิโนะ ที่อกหักจากการลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ ลงเป็น 11 ตัวจริงทันที และแข้งซามูไรก็ตอบแทนความไว้ใจด้วยการยิงคนเดียว 2 ประตูพาทีมเข้าสู่รอบควอเตอร์ไฟนอลเรียบร้อย
หลังจบเกมผู้จัดการทีมวัย 55 ปียอมรับว่า “ทาคิ” ผิดหวังที่ไม่ได้ลงเล่นในนัดชิง คาราบาวคัพ ซึ่งเขาก็ยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องนี้ แต่ก็เชื่อว่านักเตะพร้อมเสมอสำหรับโอกาสที่จะเข้ามา และยกยกย่องว่าเจ้าตัวมีส่วนสำคัญในการพาทีมไปเล่นที่ เวมบลีย์ ด้วย
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ลิเวอร์พูล ภายใต้การดูแลของ คล็อปป์ ทำให้ ลอว์เรนสัน มองว่าคล้ายกับที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยทำกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงท้ายอาชีพก่อนจะแขวนสูทเลิกคุมทีม
![](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2022/03/คล็อปป์.jpg)
ทีม ปีศาจแดง ในยุคท่านเซอร์ แม้ไม่ได้มีนักเตะซูเปอร์สตาร์มากมาย แต่เขาก็มีนักเตะ 11 ตัวจริงและตัวสำรองที่สามารถทดแทนกันได้ตลอดเวลา การทำทีมของยอดคนชาวสก็อตทำให้ผู้เล่นอย่าง นิคกี้ บัตต์, โอเล กุนนาร์ โซลชา, ฟิล เนวิลล์, อันแดร์สัน, จอน โอเช, เวส บราวน์ และใครต่อใครอีกหลายคนได้รับการจดจำในฐานะนักเตะที่มีส่วนช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จอย่างมากมาย และที่สำคัญนักเตะเหล่านี้ไม่เคยปริปากบ่นเรื่องโอกาสอันจำกัดภายในทีม
การจะบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นนี้ ผู้จัดการทีมต้องมีความเชื่อในลูกทีมทุกคน เช่นเดียวกับที่เราได้เห็นที่ คล็อปป์ มอบให้ เคลเลเฮอร์ และ มินามิโนะ ใน 2 เกมหลังสุด
และเชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ ลิเวอร์พูล ไปได้ไกลกว่าการคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ อย่างแน่นอน