ในซีซันที่ผ่านมาถือได้เป็นหนึ่งในฤดูกาลที่มหัศจรรย์ของ ลิเวอร์พูล และบรรดาสาวกหงส์แดง เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะสามารถมีลุ้นแชมป์ทุกถ้วยทุกรายการได้จนนัดสุดท้าย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีการทุ่มทุนเสริมทัพอะไรใหญ่โตเหมือนบรรดาบิ๊กทีมอื่น ๆ
ซึ่งต้องบอกว่าด้วยฝีไม้ลายมือของ เยอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงานที่ทำให้ทีมยกระดับตัวเองได้ถึงขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ซีซันก่อนยังลุ้นไปเล่น ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก กันแทบรากเลือด
อย่างไรก็ตาม, การได้กลับมาเพียงแชมป์บอลถ้วย 2 รายการนั้นอาจจะยังไม่เพียงพอและถือเป็นปมในใจของ คล็อปป์ และทีมงาน เพราะตลอดเส้นทางทุกอย่างดูเหมือนจะเพอร์เฟ็คและเข้าทางพวกเขา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่ายังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะต้องเติมเต็ม ปรับปรุง และแก้ไข เพื่อรักษามาตรฐานในการลุ้น 4 แชมป์ รวมทั้งก้าวไปคว้าถ้วยระดับเมเจอร์ อย่าง พรีเมียร์ลีก และ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้
นี่คือ 4 สิ่งที่อยากให้ ลิเวอร์พูล ทำหากพวกเขายังต้องการเป็นทีมที่ลุ้น 4 แชมป์ในซีซันหน้า
เสริมความสดใหม่ของแนวรุก
จริงอยู่ที่เมื่อซีซันที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล มีแนวรุกที่สามารถทำประตูได้เป็นอันดับ 2 ของ พรีเมียร์ลีก โดยยิงไปทั้งหมด 94 ลูกน้อยกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำได้ 99 ประตู แต่นั่นคือข้อแตกต่างที่ทำให้พวกเขาพ่ายให้กับทีมของ เป๊ป เพียง 1 คะแนน
แม้ว่าจะได้ หลุยส์ ดิอาซ เข้ามาเสริมทัพในช่วงเดือนมกราคมและทำให้แผงกองหน้าดูดีมีชาติตระกูลมากขึ้น จนเป็นปัจจัยสำคัญในการพาทีมลุ้น 4 แชมป์ที่ผ่านมาก็ตาม แต่อย่าลืมว่าซัมเมอร์นี้ ซาดิโอ มาเน จะย้ายทีมอย่างแน่นอน ส่วน ดิว็อค โอริกี ก็ตกลงกับทาง เอซี มิลาน ได้แล้ว คนที่เหลืออยู่อย่าง ทาคุมิ มินามิโนะ, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน และ ฮาร์วีย์ เอลเลียต อาจไม่เพียงพอต่อการลุ้นถ้วยรางวัลในระยะยาว
สิ่งที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงานต้องทำคือพวกเขาต้องมองหาแนวรุกตัวใหม่อย่างน้อย 1 ราย โดยเลือกประเภทที่จบสกอร์ได้คมและมีส่วนร่วมกับเกม สามารถเล่นในสไตล์ของ ลิเวอร์พูล ได้ ซึ่งในตลาดตอนนี้ชื่อของ ดาร์วิน นูนเยซ ที่กำลังมาแรง รวมทั้ง จาร์ร็อด โบเวน ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เล่นริมเส้นได้และยิงประตูไดี นอกนั้นมีชื่อของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, แฮร์รี เคน และ ซน-เฮือง มิน 2 แนวรุก สเปอร์ส ที่เข้ามาอยู่ในลิสต์ ซึ่งแต่ละคนค่าตัวก็คงไม่ใช่ถูก ๆ
แต่ถ้ายังอยากจะลุ้นแชมป์กันยาว ๆ ก็ต้องหามาเสริมทัพให้ได้….
เพิ่มมิติใหม่ ๆ ในแดนกลาง
อย่างที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด ได้ให้สัมภาษณ์ไว้หลังจบเกมที่ ลิเวอร์พูล แพ้ให้กับ เรอัล มาดริด ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ทีมเก่าของตนต้องการแดนกลางตัวใหม่ซักคนที่สามารถยิงประตูได้ 10 ลูกขึ้นไปต่อฤดูกาล ซึ่งเมื่อหันไปมองตัวที่มีอยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถทำได้แบบนั้นเลย
เรื่องนี้แฟนบอลหลายคนก็มองตรงกันว่า คล็อปป์ น่าจะหาพวกที่ยิงแถวสองดี ๆ เข้ามาร่วมทีมบ้าง ลองหันไปดู แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี เควิน เดอ บรอยน์ หรือ อิลคาย กุนโดกัน ที่มีสถิติการยิงประตูที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนี่อาจจะเป็นตัวตัดสินแชมป์ที่ หงส์แดง ยังไม่มีก็เป็นได้
แต่ก็อย่าลืมว่าสไตล์การทำทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เน้นกองกลางที่มีความเข้าใจเกม ขยัน วิ่งสู้ฟัด มากกว่าพวกเขาถล่มประตูเป็นกอบเป็นกำ ดูได้จากการที่พวกเขาตกเป็นข่าวกับ ออเรเลียง ชูอาเมนี มิดฟิลด์ของ โมนาโก ที่เล่นเป็นตัวรับและมีสถิติการยิงประตูให้กับต้นสังกัดแค่ 3 ลูกในลีกเอิง ซึ่งมุมมองด้านแท็คติกของผู้จัดการทีมอาจไม่เหมือนกับที่แฟนบอลหวังเอาไว้
ล่าสุด, ดูเหมือน ลิเวอร์พูล ขอถอนตัวจากการทาบทาม ชูอาเมนี่ ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะดูทรงแล้ว ฝั่งของ เรอัล มาดริด น่าจะเป็นฝ่ายได้ตัวมิดฟิลด์สุดครบเครื่องรายนี้ไปมากกว่า ด้วยข้อเสนอที่ ‘ราชันชุดขาว’ ยอมทุ่ม เพราะต้องการปรับโฉมแดนกลางของทีมใหม่ แต่ ‘หงส์แดง’ ก็ยังเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ อิบราฮิม ซองกาเร มิดฟิลด์สูงชะลูดสัญชาติโกตดิวัวร์ กล้าเลี้ยง กล้าลุยของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น อยู่อีกหนึ่งราย
แต่ไม่ว่ายังไงก็เชื่อว่า กุนซือชาวเยอรมันก็ต้องเดินหน้าเสริมแดนกลางคนใหม่อีกซักคนอยู่ดี เพราะหลายคนที่อยู่ในทีมตอนนี้ก็เริ่มโรยราและมีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ติอาโก้ อัลคันทารา ซึ่งแน่นอนว่าแข้งเหล่านี้อาจไม่สามารถลงสนามได้ตลอดทั้งฤดูกาลแน่
หาแบ็คขวาคนใหม่เข้าทีม
ใจเย็นก่อนนะ…ไม่ใช่ว่าจะให้ขาย เทรนท์ อาร์โนลด์ หรือปรับให้เจ้าตัวมาเล่นตรงกลาง แต่ตลอดซีซันที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ไม่มีแบ็คขวาตัวสำรองจริง ๆ จัง ๆ ซักคน โดย คล็อปป์ มักใช้งาน โจ โกเมซ ลงเล่นในบางเกม ซึ่งก็สามารถช่วยประคับประคองทีมได้ แต่เกมรุกริมเส้นฝั่งขวาดูหายไปเยอะเช่นกัน ผิดกับตรงแบ็คซ้ายที่ตอนนี้ คอสตาส ซิมิคาส พร้อมก้าวขึ้นมาแย่งตำแหน่งของ แอนดรูว โรเบิร์ตสัน อย่างเต็มตัวแล้ว
โอกาสของแข้งดาวรุ่งอย่าง เนโก้ วิลเลียมส์ ที่ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับ ฟูแลม เมื่อซีซันที่ผ่านมานั้นก็ยังดูคลุมเครือ แม้ว่าเจ้าตัวจะเป็นตัวหลักให้กับ เจ้าสัวน้อย ในช่วงครึ่งซีซันหลัง แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนของ เทรนท์ เหมือนอย่างที่ ซิมิคาส ทำในฝั่งแบ็คซ้าย
ล่าสุดเห็นว่า หงส์แดง กำลังเป็นข่าวแบ็คขวาดาวรุ่งของ อเบอร์ดีน อย่าง คาลวิน แรมซีย์ ซึ่งเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมจากสมาคมผู้สื่อขาวสก็อตแลนด์มาแล้ว โดยค่าตัวอยู่ที่ราว ๆ 3-5 ล้านปอนด์ และมี ลีดส์ ยูไนเต็ด เป็นคู่แข่ง ซึ่งถ้า คล็อปป์ ต้องการให้ทีมยืนระยะได้จริง ๆ ต้องรีบหาตัวสำรองดี ๆ เข้ามาเสริมทัพและกดดัน เทรนท์ ให้ได้เหมือนที่ ซิมิคาส ทำกับ ร็อบโบ้ เป็นการด่วน
ให้โอกาสแข้งดาวรุ่งในรายการบอลถ้วยให้มากขึ้น
เมื่อต้นซีซันเราได้เห็น เยอร์เก้น คล็อปป์ ให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งอย่าง เคอร์ติส โจนส์ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียต อยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะรายของ โจนส์ นั้นได้ลงเล่นมากขึ้นกว่าเดิม และเริ่มมีบทบาทสำคัญในหลาย ๆ เกม แต่ระดับฝีเท้าก็ยังไม่เป็นที่น่าพึงพอใจนักเมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ และ ติอาโก้
อย่างไรก็ตาม, กองกลางดาวรุ่งรายนี้ก็ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก คล็อปป์ อยู่อย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่าเจ้าตัวก็ค่อย ๆ เรียนรู้และทำความเข้าใจในเกมได้มากขึ้น ต้องลุ้นกันว่าในฤดูกาลใหม่นี้จะสามารถยกระดับตัวเองได้มากน้อยขนาดไหนท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดกับพวกรุ่นพี่ ๆ
รายของ เอลเลียต นั้นโชคร้ายที่ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่นัดที่ 4 ของฤดูกาลทั้ง ๆ ที่ออกตัวได้ดูดีมีอนาคต ซึ่งกว่าจะกลับมาก็ปาเข้าไปหลังปีใหม่ แต่ก็ได้ลงเล่นในลีกไปเพียง 2 เกมเท่านั้น ซึ่งในซีซันใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นการพิสูจน์ตัวเองของ “เจ้าจุก” ว่าเขาจะมีทิศทางและอนาคตอย่างไรกับทีม และหากโชว์ฟอร์มดี จะทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ มีตัวเลือกในแนวรุกมากขึ้น และสามารถลุ้นแชมป์ได้แบบยาว ๆ ด้วย
นี่คือ 4 ข้อที่พวกเรา ‘อยาก’ ให้ ‘ลิเวอร์พูล’ ทำ เพื่อโอกาสในการลุ้น 4 แชมป์อีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะยังไง…พวกเราก็เชื่อใจ เยอร์เก้น คล็อปป์ อยู่แล้ว