ศึกพรีเมียร์ลีกคู่แรกของวันเสาร์ที่ 21 ส.ค., ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ ‘เดอะ คลาเร็ตส์’ เป็นเกมที่ 2 ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ 2021/22
ลิเวอร์พูล จัดกองกำลังรับทีมเยือนโดยไม่ได้เปลี่ยนนักเตะจากเกมที่บุกไปถล่ม นอริช ซิตี้ มากนัก มีแค่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ลงมาเล่นในตำแหน่งของ ฟาบินโญ่ และใช้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ลงแทน อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เท่านั้น
ก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น ได้มีการยืนไว้อาลัยให้กับ แอนดรูว์ เดไวน์ เหยื่อผู้เสียชีวิตรายที่ 97 จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร่ ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเกมนี้ยังเป็นเกมแรกที่แฟนบอลสามารถเข้าชมการแข่งขันที่สนามแอนฟิลด์ได้เต็มจำนวนที่นั่งด้วย
เหล่า เดอะ ค็อป ได้เฮสุดขีด เมื่อฝั่งเจ้าบ้านทำประตูแรกในนาทีที่ 17 จากการครอสบอลเข้าพื้นที่อันตรายของ คอสตาส ซิมิกาส แบ็กซ้ายที่ทำผลงานในเกมนี้ได้อย่างโดดเด่นและแตกต่างจากเกมแรกอย่างมากมาย โดยมี ดิโอโก้ โชต้า ขึ้นโหม่งเบิกสกอร์แรกให้ หงส์แดง เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน
ลิเวอร์พูลเกือบได้เฮอีกครั้ง เมื่อ ฮาร์วีย์ เอลเลียต ผ่านบอลแบบ คิลเลอร์ พาส เข้าพื้นที่สุดท้าย ไปให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งเข้าไปสังหารประตูได้แล้ว, แต่กรรมการจากห้อง VAR ตัดสินให้ประตูนี้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงครึ่งหลัง, ลิเวอร์พูลมาได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค วางบอลแนวลึกเปลี่ยนแกนไปฝั่งขวาให้กับ ฮาร์วีย์ เอลเลียต ผ่านบอลต่อให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และมี ซาดิโอ มาเน่ เป็นผู้จบสกอร์, จังหวะนี้เป็นการเล่นที่สวยงามและเด็ดขาดมาก เพราะทุกจังหวะเป็นการเล่นบอลจังหวะเดียวทั้งหมด แต่ได้ผลชะงัดจนลิเวอร์พูลทิ้งห่างออกไปเป็น 2-0
จบเกม ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเอาชนะเบิร์นลีย์ไปด้วยสกอร์ 2-0 คว้า 6 แต้มเต็มจาก 2 เกมการแข่งขัน และมีโปรแกรมเปิดรังแอนฟิลด์ในเกมบิ๊กแมตช์กับ เชลซี ในคืนวันเสาร์ที่ 28 ส.ค.นี้