‘หงส์แดง’ ถล่มยับ!! คว้า 6 แต้มเต็มจาก 2 นัดเวทียุโรป

ไฮไลท์ลิเวอร์พูล, ลิเวอร์พูล, Liverpool

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกนัดที่ 2, ลิเวอร์พูล จ่าฝูงของกรุ๊ป บี บุกมาพบ ปอร์โต้ ที่เปรยก่อนเกมว่าจะขอเก็บ 3 แต้มในเกมนี้จากลิเวอร์พูลให้จงได้

เริ่มเกมมายังไม่ถึง 15 นาที ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น, แต่ เซอร์จิโอ คอนไซเซา ก็ตัดสินใจเปลี่ยนเอาตัวเด็ดอย่าง โอตาวิโอ ออกเพราะนักเตะมีอาการบาดเจ็บ และส่ง ฟาบิโอ วิเอร่า ลงมาแทน

ไม่กี่นาทีต่อมา, เคอร์ติส โจนส์ บุกจากฝั่งซ้ายลากบอลผ่านคู่แข่งแล้วปั่นด้วยขวา บอลติดเซฟ ดิโอโก้ คอสต้า และมี ไซดู มาแต่งบอลที่หน้าประตูตัวเอง แต่ดันทำพลาดให้ ซาลาห์ ฉกบอลไปซ้ำอีกดอกแบบนิ่ม ๆ, ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 0-1 ในนาทีที่ 18

ลิเวอร์พูลขึ้นนำได้ก็ขึงเกมเพื่อบุกต่อในทันที ฝั่งของปอร์โต้เองยังคงหยุดการป่วนเกมรับของลิเวอร์พูลไม่ได้, แต่ฝั่งของลิเวอร์พูลก็ยังไม่สามารถเพิ่มประตูที่ 2 ได้เช่นกัน เจ้าบ้านยังตั้งป้อมต้านจังหวะสุดท้ายได้อยู่

ลิเวอร์พูลได้โอกาสยิงลูกฟรีคิกไปหนึ่งดอกในนาทีที่ 42, โดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นผู้ส่องให้แฟนหงส์ได้ลุ้น แต่ คอสต้า ก็บินปัดลูกบอลออกไปได้,แต่ไม่นานนัก ลิเวอร์พูลได้จังหวะบุก โดยมี ฟาบินโญ่ วางบอลยาวไปฝั่งขวาให้ มิลเนอร์ ครอสบอลต่อไปให้ ซาดิโอ มาเน่ เอาเท้าซ้ายแปะลูกบอลเข้าประตูไปนิ่ม ๆ ในนาทีที่ 45, ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายนำ 0-2 ก่อนจบครึ่งแรก

เริ่มครึ่งหลังมาได้ 5 นาที, ทีมเรา ลิเวอร์พูล เกือบได้จะเฮถึง 2 ครั้งจากจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน วิ่งเติมเข้ามายิงด้วยเท้าซ้ายแต่ติดเซฟของ คอสต้า และจังหวะที่ โชต้า จะเข้าไปทำประตู ซึ่ง คอสต้า ก็เป็นคนช่วยทีมเจ้าบ้านไว้อีกแล้ว

นาทีที่ 59, เคอร์ติส โจนส์ แย่งบอลจากแดนกลางมาได้พร้อมบุกสวนกลับ และจ่ายบอลเข้ากรอบเขตโทษให้กับ ซาลาห์ ที่ยืนว่าง ๆ, ซาลาห์ คลึงบอลก่อน 1 จังหวะและซัดด้วยเท้าซ้ายเข้าประตูอย่างสวยงาม, ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างไปเป็น 0-3

ทิ้งห่างเจ้าบ้านไป 3 ประตูแล้ว,  คล็อปป์ จึงตัดสินใจใช้โควต้าเปลี่ยนนักเตะถึง 3 คน โดยให้ ซาลาห์, มาเน่ และ มิลเนอร์ ออกมาพัก และส่ง มินามิโนะ, ฟีร์มิโน่, โจ โกเมซ ลงสนามในนาทีที่ 65 และใน 6 นาทีต่อมา คล็อปป์ตัดสินใจถอด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ออกจากสนามและให้ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงมาแทน

เจ้าบ้านมาตีไข่แตกเอาได้ในนาทีที่ 75 จากลูกโหม่งของ ตาเรมี่ ที่วิ่งเบียด ฟาน ไดจ์ค สอดขึ้นมากระโดดโหม่งใส่ อลิสซง ระยะเผาขน

ไม่ถึง 2 นาที, ฟีร์มิโน่ ก็มาเพิ่มประตูที่ 4 ให้กับทีมเราจากจังหวะที่เจ้าตัวสวนกลับและล็อกหลบแนวรับของเจ้าบ้านได้ จังหวะนั้น คอสต้า วิ่งออกมาจากประตูหวังสกัดบอล, ฟีร์มิโน่ เล็งแล้วยิงทันที โดยที่ คอสต้า วิ่งกลับไปคว้าลูกบอลไม่ทัน กรรมการเช็คแล้วว่าบอลผ่านโกลไลน์ไปเต็มใบแล้ว ตัดสินให้เป็นประตูที่ 4 ของทีมเยือน

ฟีร์มิโน่ มาได้อีกประตูจากจังหวะที่ลิเวอร์พูลได้ลูกฟรีคิกโดยมี โรเบิร์ตสัน เปิดบอลเข้ามาแต่แนวรับของเจ้าบ้านโหม่งสกัดได้ บอลกระเด็นมาเข้าทางเท้าให้ โจนส์ ได้ซ้ำอีกครั้ง บอลพุ่งไปโดนตัวแนวรับเจ้าบ้านก่อนที่ ฟีร์มิโน่ จะเก็บบอลเข้าไปยิงประตูที่ 2 ของตัวเองได้อย่างคูลคูล

นาทีที่ 87 คล็อปป์ตัดสินใจใช้โควต้าเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายด้วยการถอด โชต้า ออกและส่ง ดิว็อค โอริกี้ ลงไปแทน

ทดเวลา 3 นาที กรรมการเป่าจบเกมส์, ลิเวอร์พูล บุกมาถล่ม ปอร์โต้ คารัง พร้อมเก็บอีก 3 แต้ม มีทั้งหมด 6 แต้มจาก 2 เกม รั้งจ่าฝูงแห่ง ‘กรุ๊ป ออฟ เดธ’ ต่อไป

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top