หลังจากที่ ลิเวอร์พูล ต้องเสีย ติอาโก้ อัลคันทารา ไปจากอาการบาดเจ็บในเกมที่พบกับ ฟูแลม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พลันข่าวการซื้อผู้เล่นกองกลางคนใหม่ก็เรียงหน้าออกมาอย่างไม่ขาดสายและมีนักเตะหลายรายที่โดนจับเชื่อมโยงในการย้ายกับถิ่น แอนฟิลด์ ในช่วงก่อนปิดตลาด
หนึ่งในนั้นมีชื่อของ มาเธอุส นูเนส กองกลางจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งไม่ใช่เพิ่งจะมีข่าว แต่เจ้าตัวถูกยกให้เป็นหนึ่งในเป้าหมายของ หงส์แดง ตั้งแต่เดือนสองเดือนก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ในช่วงดังกล่าวกระแสความต้องการผู้เล่นแดนกลางยังไม่รุนแรงเท่าเวลานี้
อันที่จริง เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาไม่ได้มีแค่ชื่อของ นูเนส เท่านั้นที่มีข่าว ในรายของ มาเซโล โบรโซวิช แข้งของ อินเตอร์ มิลาน ก็ถูกจับขึ้นมาเป็นประเด็นเหมือนกัน แต่ ฟาบริซิโอ โรมาโน ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะนี่คือนักเตะที่ “แตะต้องไม่ได้” ของทีมงูใหญ่ 1
อย่างไรก็ตาม นักข่าวเชื้อสายอิตาเลียนก็แอบให้ความหวังกับทาง เดอะค็อป ว่า ถ้าเป็นมิดฟิลด์ของ สปอร์ติ้ง แล้วล่ะก็ ไม่แน่เหมือนกัน อยู่ที่ว่า ลิเวอร์พูล จะยอมจ่ายค่าตัวมากน้อยขนาดไหน
ว่าแต่ มาเธอุส นูเนส เป็นใครและทำไมจึงเป็นกลายมาเป็นเป้าหมายที่กำลังถูกพูดถึงในเวลานี้
แข้งวัย 23 ปีเกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 1998 ที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เป็นลูกครึ่งที่คุณพ่อเป็นโปรตุกีสและคุณแม่เป็นบราซิลเลียน ก่อนจะย้ายมายังโปรตุเกสตอนอายุ 12 ปีโดยมาอยู่ที่เมืองเอริเอซา ในกรุงลิสบอน และเริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมในท้องถิ่นอย่าง เอริเซเรนซ์ พร้อมกับช่วยครอบครัวทำร้านเบเกอรีเป็นระยะเวลาสั้น ๆ
นูเนส ได้มีโอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของ ลิสบอน ฟุตบอล แอสโซซิเอชัน ซึ่งเป็นทีมท้องถิ่นที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยเมื่อซีซัน 2015-2016 และเคยไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสร ออเรนทัล ก่อนได้เซ็นสัญญากับ เอสโตริล ทีมระดับ ลีกาโปร หรือดิวิชัน 2 ของลีกแดนฝอยทองเมื่อปี 2018
กองกลางจอมเทคนิคเปิดตัวนัดแรกในเกมที่เสมอกับ วาร์ซิม ไป 2-2 แต่ก็ต้องพบกับโชคร้ายได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก ซึ่งในปีนั้นเขาต้องวนเวียนไปมาระหว่างทีมชุดใหญ่และทีมสำรองแทบจะทั้งฤดูกาลและได้ลงเล่นไปทั้งหมดแค่ 8 นัดในทุกรายการ
สร้างชื่อเสียงกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน
แม้จะได้ลงเล่นไม่มากนักกับ เอสโตริล แต่ นูเนส ก็ถือเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองในเวลานั้นและฝีเท้าก็ไปเตะตาแมวมองของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ตอนที่ทั้ง 2 ทีมพบกันในศึก โปรตุกีส ลีกคัพ ซึ่งทำให้ ลิสบอน ยอมจ่ายเงินจำนวน 5 แสนยูโรเพื่อกระชากแข้งรายนี้มาร่วมทีมในเดือนมกราคม 2019 พร้อมด้วยมีเงื่อนไขในการฉีกสัญญาสูงถึง 45 ล้านยูโร
ในช่วงแรกสตาร์ลูกครึ่งบราซิลเลียน-โปรตุกีสยังต้องลงเล่นในทีมชุด U23 ไปก่อน แต่จากนั้นไม่นานเขาก็ได้รับโอกาสประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2020 โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองครึ่งหลัง ในเกมที่เสมอกับ วิคตอเรีย กิมาไรซ์ ไป 2-2 และได้รับการขยายสัญญาออกไปอีก 1 ปีในเดือนตุลาคมโดยมีค่าฉีกสัญญาเพิ่มขึ้นจาก 45 ล้านยูโรเป็น 60 ล้านยูโร
จากนั้น นูเนส ก็ได้รับโอกาสในการลงเล่นมากขึ้น แม้จะยังไม่ใช่ผู้เล่นตัวหลักแต่ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในทีมอยู่บ่อย ๆ และเจ้าตัวก็สามารถยิงประตูแรกให้กับตัวเองได้ในเดือนมกราคม 2021 ในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะ บราก้า ไป 2-0 จากนั้นประตูที่ 2 ก็เกิดขึ้นในเกม ดาร์บี้ เดอ ลิสบอน หรือดาร์บี้แม็ตช์แห่งเมืองลิสบอนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ในปีเดียวกัน ซึ่งเป็นการพบกับ เบนฟิก้า โดยเขาสามารถยิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 1-0 พร้อมกับคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแม็ตช์มาครองได้ด้วย
แล้วโอกาสของ นูเนส ก็มาถึงเมื่อ เจา มาริโอ กองกลางตัวหลักหมดสัญญายืมตัวต้องกลับไป อินเตอร์ มิลาน หลังจบฤดูกาล 2020-2021 ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงของ สปอร์ติ้ง ในฤดูกาล 2021-2022 และประเดิม ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก นัดแรกเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมพร้อมกับทำแอสซิสต์ได้ในเกมที่ถล่ม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไป 5-1 และคว้ารางวัลมิดฟิลด์ยอดเยี่ยมของ พรีเมรา ลีกา ประจำเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนจากการพาทีมชนะรวด 6 นัด
เกมที่ทำให้ นูเนส กลายเป็นที่จับตามองไปทั่วยุโรปก็คือนัดที่พ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 5-0 ในศึก ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกแรกเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยหลังจบเกม เป๊ป กวาร์ดิโอลา ถึงกับออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “เขาคือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก” เลยทีเดียว
สไตล์การเล่นที่เข้ากันได้กับ ลิเวอร์พูล
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ นูเนส ตกเป็นข่าวกับ ลิเวอร์พูล รวมทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตลาดซื้อขายซัมเมอร์มาจากสไตล์การเล่นเต็มไปด้วยเทคนิคและวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอลซึ่งเป็นคุณสมบัติที่กองกลางระดับเทพต้องมี
ระบบการเล่นของ สปอร์ติ้ง นั้นใช้ 3-4-3 ยืนพื้น โดยแข้งทีมชาติโปรตุเกสรับหน้าที่เป็น “มิดฟิลด์หมายเลข 8” ในการพาบอลไปข้างหน้าเพื่อสนับสนุนเกมรุกด้วยความเร็วและความแข็งแกร่ง รวมทั้งยังมีการผ่านบอลทั้งสั้นและยาวที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ สลับกับการจ่ายบอลทะลุทะลวงแนวรับเพื่อสร้างโอกาสให้กับกองหน้า และวิสัยทัศน์ในการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยมซึ่งช่วยในการเล่นเกมรับได้อีกด้วย
สไตล์การเล่นของ นูเนส นั้นคล้ายกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ซึ่งเอื้ออำนวยกับแท็คติกของ ลิเวอร์พูล เป็นอย่างยิ่งท่ามกลางสถานการณ์ที่นักเตะกองกลางได้รับบาดเจ็บกันหลายคนแบบนี้ แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ เยอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงานว่าจะยอมทุ่มเงินเพื่อเสริมทัพก่อนจะปิดตลาดหรือไม่ หรือจะรอเซ็น จู้ด เบลลิงแฮม ซัมเมอร์หน้าทีเดียวตามแผนที่วางเอาไว้
ด้วยฝีเท้าระดับ นูเนส อดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่า เขาคงจะอยู่กับ สปอร์ติ้ง อีกไม่นานอย่างแน่นอน…