ในขณะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กำลังทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมพร้อมกับขึ้นนำดาวซัลโวของ พรีเมียร์ลีก ด้วยการยิง 14 ประตูจากการลงเล่น 16 นัด และเตรียมทำสถิติมีส่วนร่วมในการทำประตู 15 นัดติดต่อกันใน พรีเมียร์ลีก ทาบเจ้าของสถิติเดิมอย่าง เจมี วาร์ดี้ ในเกมที่จะเจอกับ นิวคาสเซิล คืนนี้
อีกด้านหนึ่งของสนามอย่าง ซาดิโอ มาเน ก็กำลังสร้างสถิติใหม่อยู่เช่นกัน หากแต่เป็นเรื่องที่เจ้าตัวไม่ค่อยอยากจะจดจำซักเท่าไหร่…
นับตั้งแต่ที่ยิง 1 จ่าย 1 ในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซนอล ไป 4-0 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ดาวยิงเซเนกัลมีส่วนร่วมทั้งยิงและแอสซิสต์ในเกมเดียวนับตั้งแต่เกมที่เอาชนะ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ได้ 3-1 เมื่อเดือนมกราคม และทำให้เจ้าตัวยิงไปทั้งหมด 9 ประตูพร้อมทำ 1 แอสซิสต์รวมทุกรายการในฤดูกาลนี้
จากนั้นอีก 6 เกมต่อมาทั้งใน พรีเมียร์ลีก และ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก, ซาดิโอ มาเน ก็ยังไม่สามารถทำประตูหรือทำแอสซิสต์ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว!
ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ดาวยิงวัย 29 ปีทำสถิติอันเลวร้ายเช่นนี้เอาไว้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อซีซัน 2018-0219 ที่ทำสถิติเอาไว้ 7 นัดติดต่อกัน!
ในซีซันดังกล่าวหลังจากที่ยิง 3 ประตูจาก 4 เกมแรก แต่จากนั้นอีก 7 เกมที่พบกับ สเปอร์ส, เปแอชเช, เซาแธมป์ตัน, เชลซี (เจอ 2 นัดรวม ลีกคัพ) นาโปลี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, มาเน ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการผลิตสกอร์ให้ทีมได้เลย
ซึ่งจะไปต่อว่าด่าทออย่างเดียวก็คงใช่ที่ เพราะเมื่อดูตามโปรแกรมแล้วก็ต้องให้ความยุติธรรมกับเจ้าตัวหน่อย เนื่องจากแต่ละทีมที่ต้องเจอนั้นถือว่าสุดหินสุดโหดมิใช่น้อยเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม, ในคืนนี้เจ้าตัวก็ยังมีโอกาสที่จะปลดล็อคให้ตัวเองกลับมาฟอร์มเปรี้ยงปร้างได้เหมือนกัน…ในการเจอกับ นิวคาสเซิล
ทัพ สาลิกาดง ของกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว ทำผลงานไม่ค่อยดีนักและยังหนีออกจากพื้นที่โซนตกชั้นไม่ได้จากการลงเล่นไป 16 นัดเก็บได้เพียง 10 คะแนน แถมเป็นทีมที่มีสถิติการเสียประตูมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ถึง 34 ลูก หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ยเสียไป 2.1 ลูกต่อนัด
ซึ่งโอกาสที่จะโดนเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ไล่ถล่มนั้น ก็มีความเป็นไปได้สูงอยู่เหมือนกัน
แต่สำหรับ มาเน แล้วนั้น, เดอะ แม็กพายส์ ไม่ใช่ “โบกี้ทีม” ของเขา เพราะจากสถิติที่ผ่านมาเจ้าตัวยิงได้เพียง 4 ประตูโดยไม่สามารถทำแอสซิสต์ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เรียกว่าไม่ถูกโฉลกกันก็ว่าได้
อย่างไรก็ดี, ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเอาเสียเลย เมื่อพิจารณาจากฟอร์มการเล่นในช่วง 6 นัดหลังสุดที่แม้ว่าปีกเซเนกัลจะไร้ซึ่งประตูและการจ่ายให้เพื่อนร่วมทีม แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้เล่นแย่อย่างที่คิด
6 เกมหลังสุด มาเน มีโอกาสยิงถึง 15 ครั้งโดยเฉลี่ยแล้วนัดละ 2.5 ครั้ง โดยมีลูกที่น่าจะเป็นประตู (Expected Goals) อยู่ที่ 1.64 ครั้ง รวมทั้งสถิติความน่าจะเป็นในการทำแอสซิสต์ (Expected Assists) อยู่ที่ 0.32 ครั้ง ซึ่งเมื่อดูภาพรวมนั่นหมายความว่าเขามีโอกาสที่จะยิงประตูได้ในเร็ว ๆ นี้
หากแต่สิ่งที่เป็นปัญหาของปีกวัย 29 ปีที่เราได้เห็นกันมาตลอดนั้นก็คือ การใช้โอกาสที่ค่อนข้างสิ้นเปลือง โดยเกมที่เอาชนะ อาร์เซนอล ซึ่งเป็นเกมล่าสุดที่เจ้าตัวยิงประตูได้นั้นก็ใช้โอกาสไปทั้งหมดถึง 5 ครั้ง ซึ่งนี่ก็เป็นประเด็นที่น่าคิดเช่นกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้, ถ้าหาก ซาดิโอ มาเน ไม่ต้องการทำสถิติอันเลวร้ายเป็นรอบที่ 2…
เขาก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อมีส่วนร่วมในการทำสกอร์และช่วยให้ ลิเวอร์พูล เก็บ 3 แต้มในคืนนี้ให้ได้!