สัญญาฉบับใหม่ของ ‘ซาลาห์’ กับ ‘ลิเวอร์พูล’

Jurgen Klopp, Liverpool, Mohamed Salah, Premier League, UEFA Champions League, Ufabet, Ufaclub.live, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, พรีเมียร์ลีก, ยูฟา แชมเปียนส์ลีก, ลิเวอร์พูล, สมัครยูฟ่าคลับ, หงส์แดง

เชื่อว่าแฟนบอล ลิเวอร์พูล ส่วนใหญ่ต้องรู้สึกยินดีที่สโมสรสามารถบรรลุข้อตกลงสัญญาฉบับใหม่กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าอันดับหนึ่งของทีมได้เป็นที่เรียบร้อย โดยเจ้าตัวรับเงินค่าเหนื่อยสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ พร้อมด้วยสัญญา 3 ปี ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เขาสมควรจะได้รับมานานแล้ว

การจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วงถือได้ว่าดีต่อทุกฝ่าย เพราะทีมจะได้เดินหน้าต่อไปและมองเห็นอนาคตข้างหน้าว่าจะเป็นเช่นไร ในขณะที่ตัวนักเตะเองก็จะได้มีสมาธิกับการทำผลงานอย่างเต็มที่ซักทีหลังจากที่เรื่องนี้คาราคาซังเป็นแรมปี

อย่างไรก็ตาม, ก็มีคำถามตามมาว่า เมื่อต่อสัญญาใหม่ให้กับ ซาลาห์ แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเจ้าตัวจะยังคงยิงประตูระเบิดเถิดเทิงให้ทีมได้เหมือนเดิม

ย้อนกลับไปดูสถิติของกองหน้าวัย 30 ปี นับตั้งแต่ย้ายมาจาก โรมา เมื่อซัมเมอร์ปี 2017 หรือเมื่อ 5 ปีก่อน เฉพาะใน พรีเมียร์ลีก เขาสามารถยิงได้เกิน 20 ประตูถึง 4 จาก 5 ฤดูกาล และคว้าดาวซัลโวได้ 3 ครั้งในซีซัน 2017-2018, 2018-2019 และล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา นอกจากนี้ ซาลาห์ ยังสามารถทำลายสถิติมากมายของ ลิเวอร์พูล อาทิ

ยิงประตูมากที่สุดใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก แซงหน้า สตีเวน เจอร์ราร์ด

เป็นนักเตะจากทวีปแอฟริกาที่ยิงประตูได้มากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติเดิมของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา

เป็นนักเตะคนแรกของ หงส์แดง ที่ยิงประตูได้ 10 เกมติดต่อกันในทุกรายการ

เป็นนักเตะคนที่ 3 ที่สามารถยิงประตูนอกบ้านได้ถึง 50 ลูกในยุค พรีเมียร์ลีก ต่อจาก ไมเคิล โอเวน และ สตีเวน เจอร์ราร์ด

เป็นนักเตะคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์สโมสรที่ยิงได้ 30 ประตูถึง 3 ซีซัน โดยสถิติสูงสุดยังเป็นของ โรเจอร์ ฮันส์ และ เอียน รัช ทำได้ 5 ซีซัน เท่ากัน และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ทำได้ 3 ซีซัน

นี่เป็นเพียงสถิติคร่าว ๆ ของ ซาลาห์ เท่านั้น จริง ๆ แล้วยังมีสถิติยิบย่อยอีกมากมายที่เจ้าตัวทำได้สำเร็จตลอด 5 ปีที่ค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์

ทีนี้ย้อนกลับมาที่คำถามที่ว่า เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาจะยังคงยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำเช่นที่ผ่านมา ยิ่งเมื่อดูจากฟอร์มการเล่นหลังกลับมาจาก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ ดูเหมือนว่าสตาร์ทีมชาติอียิปต์จะยิงประตูได้น้อยลงกว่าเดิมมาก

นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ซาลาห์ ลงเล่นในทุกรายการไปทั้งหมด 25 นัด ยิงได้เพียง 8 ประตู แบ่งเป็นใน พรีเมียร์ลีก 15 นัด 7 ประตู อีก 1 ประตูมาจาก UCL รอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกแรกที่ชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-0 ที่ จูเซ็ปเป้ เมียสซ่า แต่หลังจากนั้นอีก 6 เกมยิงไม่ได้เลย รวมทั้งนัดชิงชนะเลิศบอลถ้วยอย่าง คาราบาวคัพ และ เอฟเอคัพ ด้วย

ตอนนั้นเรามองว่า ดาวเตะจากแดนปิรามิดอาจจะกังวลเรื่องสัญญาฉบับใหม่ อีกทั้งคงล้าจากการกรำศึกหนักอย่างยาวนาน ซึ่งก็พอจะทำให้คิดแบบนั้นได้

หนแรกคือเมื่อปี 2018 ตอนที่พวกเขาตกลงต่อสัญญาใหม่กับ เมซุต เออซิล เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเยอรมนีซึ่งขณะนั้นมีอายุ 29 ปี โดยรับค่าเหนื่อยในสัญญาใหม่ระดับ 350,000 ปอนด์พร้อมด้วยสัญญา 3 ปี

ตอนนั้น เออซิล ถือเป็นนักเตะกระดูกสันหลังของ อาร์แซน เวนเกอร์ ก็ว่าได้ เขาคือความหวังของ เดอะกันเนอร์ส ที่จะพาทีมกลับไปเล่น ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก อีกครั้ง

หากแต่หลังจากได้สัญญาใหม่ กราฟชีวิตการค้าแข้งของจอมทัพอินทรีเหล็กก็มีอันสาละวันเตี้ยลงเรื่อย ๆ เจ้าตัวมีปัญหาการเมืองนอกสนามจนเป็นที่มาของการอำลาทีมชาติ อีกทั้งยังทำให้ อาร์เซนอล โดนแบนจากรัฐบาลจีนกรณีที่ไปให้ความเห็นเรื่องชาวอุยกูร์

Jurgen Klopp, Liverpool, Mohamed Salah, Premier League, UEFA Champions League, Ufabet, Ufaclub.live, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, พรีเมียร์ลีก, ยูฟา แชมเปียนส์ลีก, ลิเวอร์พูล, สมัครยูฟ่าคลับ, หงส์แดง

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงแค่ไม่ถึง 1 ปีหลังการต่อสัญญา ซึ่งมันส่งผลต่อแรงจูงใจในการเล่นฟุตบอลของเขาด้วย สุดท้ายแล้วทำให้ เออซิล กลายเป็นนักเตะส่วนเกินในยุคของ อูไน เอเมรี และ มิเกล อาร์เตต้า จนทำให้เขาถูกตัดชื่ออกจากทีมและอยู่จนครบสัญญาก่อนจะย้ายไปเล่นในตุรกีกับ เฟเนร์บาเช เมื่อปีที่แล้ว

อีกหนึ่งกรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ คือ เคสของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าทีมชาติกาบอง ซึ่งได้รับสัญญาฉบับใหม่เมื่อปี 2020 ในขณะที่อายุ 29 ปี โดยสัญญามีระยะเวลา 3 ปีพร้อมรับค่าเหนื่อยเท่ากันเป๊ะที่ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

หลังจากได้สัญญาใหม่ก็ดูเหมือนว่า โอบา จะไม่ใช่คนเดิม เพราะก่อนหน้านี้เขาคือนักเตะที่ลุ้นรางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก แต่พอต่อสัญญาปุ๊บ กลายเป็นว่าทำประตูได้น้อยลง ฟอร์มโดยรวมย่ำแย่ แถมมีปัญหานอกสนาม จนทำให้ มิเกล อาร์เตต้า ต้องตัดสินใจยกเลิกสัญญาก่อนกำหนดถึง 18 เดือนเพื่อให้นักเตะสามารถย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว และก็เป็น บาร์เซโลนา ที่รับไปดูแลต่อเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

Jurgen Klopp, Liverpool, Mohamed Salah, Premier League, UEFA Champions League, Ufabet, Ufaclub.live, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, พรีเมียร์ลีก, ยูฟา แชมเปียนส์ลีก, ลิเวอร์พูล, สมัครยูฟ่าคลับ, หงส์แดง

นี่คือตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับการต่อสัญญานักเตะในวัยใกล้ 30 ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ และมันทำให้แฟนบอลหลายคนมีคำถามกับกรณีของ ซาลาห์ ด้วย

อย่างไรก็ตาม, คล็อปป์ ได้เคยออกมาพูดถึงเรื่องนี้ไว้ก่อนหน้าที่จะมีการต่อสัญญาใหม่ โดยเขาเชื่อว่า ซาลาห์ นั้นแตกต่างออกไป เขามีความรับผิดชอบ มีความเป็นมืออาชีพสูง และเชื่อว่าจะสามารถรักษาระดับฟอร์มการเล่นแบบนี้เอาไว้ได้อีกหลายปีเหมือนกับ ลีโอเนล เมสซี

ผมไม่เคยถาม โม ว่าเขาต้องการเล่นฟุตบอลไปอีกนานเท่าไหร่ แต่เขามีทุกอย่างที่คุณต้องการ เขามีรูปร่างที่คล้ายกับ ลีโอเนล เมสซี ทั้งเรื่องความสูงและน้ำหนักตัว และนักเตะเหล่านี้จำเป็นต้องมีโชคในเรื่องของอาการบาดเจ็บด้วย

Jurgen Klopp, Liverpool, Mohamed Salah, Premier League, UEFA Champions League, Ufabet, Ufaclub.live, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, พรีเมียร์ลีก, ยูฟา แชมเปียนส์ลีก, ลิเวอร์พูล, สมัครยูฟ่าคลับ, หงส์แดง

พวกเขาอาจจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงเรื่องอาการบาดเจ็บได้ แต่ก็สามารถกลับมาได้เสมอโดยไม่มีอาการใด ๆ เพิ่มเติม นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก คุณต้องอาศัยโชคมาก ๆ แต่ โม นั้นมีทุกอย่างที่คุณต้องการและผมก็แน่ใจว่าเขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งของเกมอยู่เสมอตราบใดที่สามารถลงเล่นได้

ดาร์เรน เบนท์ อดีตกองหน้าชื่อดังก็เป็นอีกคนที่มั่นใจว่า ซาลาห์ จะยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้ และเชื่อว่าจะสามารถยิงได้อย่างต่ำ 20 ประตูในฤดูกาลหน้า

ไม่มีทาง (ที่เขาจะฟอร์มตก) ผมคิดว่าตอนนี้เขากลายเป็นนักเตะชั้นนำไปแล้ว ซีซันหน้าเขาจะยิงได้ไม่ต่ำกว่า 20 ลูก…คอยดู

Jurgen Klopp, Liverpool, Mohamed Salah, Premier League, UEFA Champions League, Ufabet, Ufaclub.live, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, พรีเมียร์ลีก, ยูฟา แชมเปียนส์ลีก, ลิเวอร์พูล, สมัครยูฟ่าคลับ, หงส์แดง

เขาได้รางวัลโกลเด้นบู้ทมาแล้วกี่ครั้งนะ? 3 ครั้งใช่มั้ย? เขายังทำลายสถิติต่าง ๆ ใน พรีเมียร์ลีก ได้เกือบทุกฤดูกาล และจะยังคงทำแบบนั้นต่อไป ซึ่งผมว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ และแฟนบอล ลิเวอร์พูล จะต้องรู้สึกเป็นปลื้มกับเรื่องพวกนี้แน่

ไม่มีใครรู้ได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เราสามารถมั่นใจได้อย่างหนึ่งว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงานต้องประเมินกันมาเป็นอย่างดีแล้วในระดับหนึ่งก่อนจะตัดสินใจทุ่มเงินก้อนโตกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

และมีเพียง “เวลา” เท่านั้นที่จะบอกเราได้ว่า นี่คือสัญญาที่คุ้มค่าหรือล้มเหลวของ ลิเวอร์พูล

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top