หลังจากที่ทีมชาติสเปนไปไม่ถึงฝั่งฝันในฟุตบอลโลก 2022 โดยถูกโมร็อกโกเขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายจากการดวลจุดโทษ หลุยส์ เอนริเก้ ผู้จัดการทีมก็ได้ประกาศอำลาตำแหน่งทันที ซึ่งมองในมุมของแฟนบอล ลิเวอร์พูล แล้วนี่อาจจะเป็นสัญญาณที่ดีของ ติอาโก้ อัลคันทารา ก็เป็นได้
มิดฟิลด์ หงส์แดง ไม่ใช่แข้ง “บิ๊กเนม” เพียงคนเดียวที่ไม่มีชื่อเป็นหนึ่งใน 26 ขุนพลกระทิงดุชุดลุยกาตาร์ เพราะ ดาวิด เด เคอา ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทั้ง เซร์คิโอ รามอส กองหลังจอมเก๋าของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็ถูกหมางเมินจากอดีตกุนซือ บาร์เซโลนา ด้วยเช่นเดียวกัน
ทั้ง 3 คนถือว่าเป็นกำลังสำคัญที่พัฒนาทีมกระทิงดุให้ก้าวขึ้นมาเป็นทีมแนวหน้าของโลกฟุตบอลในยุคปัจจุบันและรักษาสถานภาพการเป็นยอดทีมเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยประสบการณ์และความสำเร็จอย่างมากมายในระดับสโมสร
อย่างไรก็ตาม ความล้มเหลวจากการตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายทำให้โปรเจ็คพลังหนุ่มของ เอนริเก้ ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกลับมาฟื้นฟูความเชื่อมั่นกันใหม่อีกครั้ง โดยทางสหพันธ์ฟุตบอลสเปนเดินหน้าเรื่องนี้อย่างรวดเร็วเพราะหลังจากที่นายใหญ่วัย 52 ปีลาออกเมื่อวันพฤหัสบดี พวกก็เขาทำการแต่งตั้ง หลุยส์ เดอ ลา ฟูเอนเต้ เข้ามารับไม้ต่อทันทีในวันถัดมา
คำถามคือ นี่จะเป็นข่าวดีสำหรับ ติอาโก้ อัลคันทารา ด้วยหรือไม่?
หากดูจากประวัติการทำงานของ ลา ฟูเอนเต้ เขาเข้ามารับตำหน่งสตาฟฟ์ของทีมชาติตั้งแต่ปี 2013 โดยทำหน้าที่โค้ชร่วมกับกลุ่มผู้เล่นอายุน้อยจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลผลิตที่ให้ เอนริเก้ เอามาใช้งานในฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วย
เจ้าหนู เปดรี และ กาบี 2 ดาวรุ่งจาก บาร์เซโลนา คือการผลักดันของเขาและกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแดนกลางเคียงข้างแข้งจอมเก๋าอย่าง เซร์คิโอ บุสเก็ต ที่กาตาร์ แม้จะล้มเหลวในครั้งนี้ แต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะกลายเป็นอนาคตสำหรับทีมกระทิงดุไปแล้ว
แน่นอนว่า พวกเขาคือนักเตะที่มีพรสวรรค์และสมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะมีชื่อในทีมชาติอย่างต่อเนื่องนับจากนี้ แต่หลายคนก็มองว่าอย่างน้อยที่สุดการมีแข้งเก๋าประสบการณ์อย่าง ติอาโก้ ด้วยน่าจะมีประโยชน์กับสเปนมากกว่า
กองกลาง หงส์แดง ลงเล่นในนามทีมชาติครั้งสุดท้ายหลังจบฤดูกาลที่แล้ว หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็กลายเป็นตัวเลือกรองลงมาจากบรรดาตัวสด ๆ อย่าง มาร์กอส ยอเรนเต้, ดานี โอลโม, โกเก้ และ คาร์ลอส โซเลอร์
สำหรับตัว เดอ ลา ฟูเอนเต้ นั้นทำงานร่วมกับทั้ง เปดรี และ กาบี รวมทั้งดาวรุ่งพรสวรรค์สูงอีกหลายคนในทีมเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อมานั่งพิจารณาถึงเหตุผลที่สหพันธ์ฟุตบอลสเปนเลือกเขาเข้ามาทำงานนี้ ก็อาจจะบอกได้ว่าพวกเขามุ่งเน้นไปที่การพัฒนานักเตะรุ่นต่อไปมากกว่า
อย่างไรก็ดี ติอาโก เพิ่งจะมีอายุแค่ 31 ปีเท่านั้น แถมผลงานของเขากับ ลิเวอร์พูล ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เจ้าตัวยังคงมีศักยภาพมากพอที่จะลงเล่นให้กับทีมชาติได้อีกอย่างน้อยก็ในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้
แฟนบอล ลิเวอร์พูล หลายคนเชื่อว่า หากมีมิดฟิลด์ของพวกเขาอยู่ในทีมของ เอนริเก้ บางทีผลลัพธ์ในเกมกับโมร็อกโกอาจจะแตกต่างจากที่เห็น แต่หากมองในอีกแง่การที่ไม่ถูกเรียกติดทีม ทำให้เจ้าตัวสามารถพักฟื้นร่างกายได้อย่างเต็มที่เพื่อเติมพลังก่อนจะลงสนามในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเพื่อช่วย ลิเวอร์พูล ทำอันดับไปเล่นใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้อีกครั้ง
แต่ในอีกมุมก็เชื่อเหลือเกินว่า เจ้าตัวยังคงมีไฟที่จะรับใช้ชาติอยู่เหมือนเดิม และการเปลี่ยนแปลงเฮดโค้ชของสเปนในครั้งนี้ ติอาโก้ เองก็คงแอบุล้นในการกลับไปมีชื่อในทีมเหมือนกัน
สิ่งที่น่าจับตามองต่อจากนี้คือ โปรแกรมต่อไปของสเปนที่จะเล่นในรอบคัดเลือก ยูโร 2024 โดยมีคิวพบกับนอร์เวย์และสก็อตแลนด์ ซึ่งก่อนจะถึงตอนนั้นหาก ติอาโก้ ยังคงทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องกับ ลิเวอร์พูล ก็น่าสนใจเหมือนกันว่า เดอ ลา ฟูเอนเต้ จะเรียกเขากลับคืนสู่ทีมหรือไม่?!