นับตั้งแต่ที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ สถาปนาตัวเองเป็นผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เขาคือหนึ่งในคนที่ยกระดับการเล่นของทีม หงส์แดง ให้เปลี่ยนจากทีมที่ “ดีแต่ป้อล่อไม่เป็น” ในยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ให้กลายมาเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลเพรสซิ่งหนัก และเน้นเกมบุกแบบไม่มีถอย จนประสบความสำเร็จและกลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วยุโรปในช่วง 3-4 ปีหลังมานี้
และเป็นที่มาของคำว่า “เฮฟวีเมทัลฟุตบอล”
หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญของสไตล์ฟุตบอลอันหนักหน่วงของนายใหญ่ชาวเยอรมันก็คือ การเติมเกมรุกตลอด 90 นาทีของฟูลแบ็คทั้ง 2 ข้าง ซึ่งรับหน้าที่โดย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์–อาร์โนลด์
นักเตะทั้ง 2 คนนี้เริ่มจับคู่กันมาตั้งแต่ปี 2017 และยกระดับฝีเท้าของตัวเองจนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในบรรดาฟูลแบ็คที่ดีที่สุดในยุโรป จากการพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก, ซูเปอร์คัพ, แชมป์สโมสรโลก และ พรีเมียร์ลีก พร้อมทั้งการทำสถิติมากมายในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม, หากนับเฉพาะในฤดูกาลนี้ ดูเหมือนว่า เทรนท์ อาร์โนลด์ จะเป็นที่พูดถึงมากกว่าคู่ขาอย่าง ร็อบโบ้ หลังจากที่เจ้าตัวสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซด้วยการทำไปแล้ว 15 แอสซิสต์จากการลงสนาม 25 นัดในทุกรายการ ซึ่ง 10 จาก 15 นั้นมาจากการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก
แม้ว่าในเกมล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ได้ 3-1 และแข้งสก็อตติชเป็นคนทำ 2 แอสซิสต์ได้ก็ตาม, แต่ภาพรวมในซีซันนี้ เทรนท์ ยังดูยอดเยี่ยมกว่าช่วงตัว
สถิติการทำไป 10 แอสซิสต์ใน พรีเมียร์ลีก ช่วงครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมาทำให้แข้งวัย 23 ปีกลายเป็นกองหลังคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำแอสซิสต์ได้ในระดับเลข 2 หลักใน 3 ฤดูกาล
สิ่งนี้ได้รับการยืนยันจาก รอย คีน อดีตกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาลของ ลิเวอร์พูล โดยเขาได้กล่าวถึงความยอดเยี่ยมของ เทรนท์ อาร์โนลด์ พร้อมทั้งเชื่อว่าการสไตล์เล่นของลูกหม้อ หงส์แดง รายนี้ช่วยยกระดับตำแหน่งฟูลแบ็คให้กลายเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในฟุตบอลสมัยใหม่ไปแล้ว
“ยอดเยี่ยมมาก ๆ ช่างผู้เล่นที่น่าทึ่ง มหัศจรรย์ สถิติที่ได้เห็นนั้นมันคือความยอดเยี่ยม จากผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมและการเป็นเด็กในท้องถิ่น พนันได้เลยว่าเขาไม่เชื่อหรอกว่ามันเป็นความโชคดี เมื่อดูจากการสร้างสรรค์โอกาสและการแอสซิสต์ มันเหลือเชื่อมาก”
“เขาดูเหมือนจะเป็นนักกีฬาที่ดี เป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งและยอดเยี่ยม เราเคยรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับนักเตะในแนวรุก แต่ตอนนี้เรารู้สึกทึ่งกับผู้เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็คกับเกมที่มันเปลี่ยนไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักเตะในตำแหน่งฟูลแบ็คกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญอย่างมากไปแล้ว”
“การทำแอสซิสต์และตำแหน่งการเล่นของเขา เขาไม่กลัวใคร และเขาก็เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ”
ดังที่ รอย คีน กล่าวเอาไว้ สถิติ 10 แอสซิสต์ ใน พรีเมียร์ลีก และ 15 แอสซิสต์ ในทุกรายการคงจะเพียงพอที่จะบ่งบอกถึงความยอดเยี่ยมของนักเตะที่ก้าวขึ้นมาจากทีมเยาวชนของ ลิเวอร์พูล รายนี้ได้เป็นอย่างดี
จะว่าไปตัวเลข 15 แอสซิสต์ในตอนนนี้ ถือว่าเทียบเท่ากับสถิติในซีซันที่ หงส์แดง ผงาดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นการได้แชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีของพวกเขา ในขณะที่สถิติการทำแอสซิสต์สูงสุดเกิดขึ้นในซีซัน 2018-2019 โดยทำไป 16 แอสซิสต์
นั่นหมายความว่า เทรนท์ อาร์โนลด์ กำลังยกระดับตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ และเขามีสิทธิที่จะทำลายสถิติการทำแอสซิสต์สูงสุดของตัวเอง รวมทั้งการฝันถึงความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล หลังจบฤดูกาลนี้ได้เช่นกัน