เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังชาวดัตช์วัย 30 ปี ตัดสินใจสะบัดน้ำหมึกเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรลิเวอร์พูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสัญญาฉบับใหม่นี้จะทำให้ ฟาน ไดจ์ค อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ไปจนถึงปี 2025
ฟาน ไดจ์ค ย้ายมาจากสโมสรเซาธ์แฮมป์ตันมายังสโมสรลิเวอร์พูลในปี 2018 กลายเป็นนักเตะกองหลังที่มีค่าตัวที่แพงที่สุดในโลกในตอนนั้น (ก่อนที่ แม็กไกวร์ จะย้ายมาซบ ยูไนเต็ด), เซ็นเตอร์แบ็คชาวดัตช์ผู้นี้ใช้เวลาปรับตัวไม่นานนัก ก็กลายเป็นหัวใจในเกมรับของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ทันที
กัปตีนทีมชาติเนเธอร์แลนด์รายนี้ลงสนามในเครื่องแบบหงส์แดงมาแล้วทั้งหมด 130 นัด ทำประตูไปได้ทั้งหมด 13 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ และเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ลิเวอร์พูลกวาดความสำเร็จมาได้มากมาย
ไม่เพียงเท่านั้น, ฟาน ไดจ์ค ยังได้รับการโหวตให้ได้รับรางวัล PFA Player of the Year ในฤดูกาลที่ 2018/19 และยังได้รับการโหวตให้เข้าชิงรางวัลเกียรติยศสูงสุดอย่าง บัลลงดอร์ ในปี 2019 แต่เจ้าตัวก็ได้คะแนนโหวตเป็นอันดับที่ 2 รองจากลิโอเนล เมสซี่ ที่เป็นฝ่ายคว้า บัลลงดอร์ ไปในปีนั้น
ในฤดูกาลที่ 2020/2021 ฟาน ไดจ์ค ต้องปิดเทอมยาวหลังจากโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด เข้าเสียบในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ เพราะเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า จนต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักฟื้นไปทั้งฤดูกาล
ล่าสุด, เจ้าตัวสามารถกลับมาลงสนามในเกมกระชับมิตรพร้อมกับ โจ โกเมซ ได้แล้ว โดย ฟาน ไดจ์ค ได้อธิบายความรู้สึกหลังจากต่อสัญญาฉบับใหม่กับลิเวอร์พูลว่า
“สุดยอดมาก!! ผมรู้สึกภาคภูมิใจมาก ทั้งภรรยาและลูก ๆ ของผมก็รู้สึกภูมิใจในตัวผมเช่นกัน”
“ทุกสิ่งที่พวกเราได้ทุ่มเทลงแรงกายแรงใจไปนั้น ส่งผลให้พวกเรามีการเดินทางในบทต่อ ๆ ไป, ผมพร้อมที่จะเดินไปพร้อมกับสโมสรลิเวอร์พูล มันน่าตื่นเต้นมากและผมภูมิใจมากจริง ๆ”
“ทุกอย่างกำลังไปได้ดี, แม้ว่าจะเกิดเรื่องโชคร้ายกับตัวผมในฤดูกาลที่แล้ว แต่ในตอนนี้ผมมีความสุขมาก ๆ และผมจะขอใช้เวลาอีก 4 ปีกับแฟนบอลทุกคน