ถ้าหาก ‘ลิเวอร์พูล’ อยากจะกลับเข้าสู่ ‘เส้นทางลุ้นแชมป์’

Liverpool, Anfield, Jurgen Klopp, Arsenal, Manchester City, West Ham, Mikel Arteta, Pep Gaurdiola, Mohamed Salah, ลิเวอร์พูล, แอนฟิลด์, เยอร์เก้น คล็อปป์, อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เวสต์แฮม, มิเกล อาร์เตต้า, เป็ป กวาดิโอล่า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ลิเวอร์พูล มีคิวจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในค่ำคืนนี้ หลังจากทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังฟอร์มร้อนแรงมาได้, ซึ่งในตอนแรก คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

อันที่จริงแล้ว ในโลกของฟุตบอลเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นบ่อย ๆ ทีมที่ฟอร์มกระท่อนกระแท่นกลับสามารถเอาชนะทีมที่กำลังเข้าฝักได้ ทั้ง ๆ ที่แทบจะมองหาโอกาสไม่เจอ แต่มันก็เกิดขึ้นเสมอ

หากแต่ฟุตบอลลีกมันวัดกัน 38 นัด ผลการแข่งขันเพียงเกมเดียวไม่ได้ตัดสินอนาคตของทีมใดทีมหนึ่งได้ เพราะแม้ว่าจะเอาชนะทีมเต็งแต่ถ้านัดต่อมาเก็บ 3 คะแนนไม่ได้ ก็แทบจะไม่มีความหมายอะไร

ลิเวอร์พูล ก่อนช่วงที่ คล็อปป์ จะเข้ามาคุมทีม พวกเขาก็เป็นเช่นนั้น เล่นบอลสวยงาม แต่ไร้ซึ่งความสม่ำเสมอ ทำให้ผลงานไม่เป็นที่ประทับใจ และไร้ซึ่งความสำเร็จแบบต่อเนื่อง

พอนายใหญ่ชาวเยอรมันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม หงส์แดง สิ่งที่เขาทำ คือการสร้างเกมรุกและแบบแผนการเล่นใหม่ให้กับทีม รวมทั้งใส่ความคงเส้นคงวาเข้าไป

Liverpool, Anfield, Jurgen Klopp, Arsenal, Manchester City, West Ham, Mikel Arteta, Pep Gaurdiola, Mohamed Salah, ลิเวอร์พูล, แอนฟิลด์, เยอร์เก้น คล็อปป์, อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เวสต์แฮม, มิเกล อาร์เตต้า, เป็ป กวาดิโอล่า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

นั่นจึงทำให้ ลิเวอร์พูล ของ คล็อปป์ นับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา กลายเป็นทีมที่แพ้ยาก ยิงคู่แข่งได้ตลอด และมาเพอร์เฟ็คสุด ๆ ในช่วงปี 2019-2020 ที่ได้แชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก และ พรีเมียร์ลีก รวมทั้งเมื่อซีซันที่แล้วที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วย

มาปีนี้ เดอะเร้ดส์ ถูกยกให้เป็นทีมเต็ง 2 ที่จะลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่พวกเขากลับออกสตาร์ทได้อย่างน่าผิดหวัง ซึ่งเป็นเพราะความลุ่ม ๆ ดอน ๆ นี่แหละ, ซึ่งมันทำให้ตอนนี้แทบจะหลุดวงโคจรไปแล้ว

กลายเป็น อาร์เซนอล ที่ก้าวขึ้นมาเป็นคู่ขับเคี่ยวกับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และฟอร์มก็ยังร้อนแรงอย่างต่อเนื่องด้วยการชนะ 9 จาก 10 เกม มี 27 คะแนนนำห่างอันดับ 2 อย่าง เดอะสกายบลูส์ ที่ไปสะดุดกับ ลิเวอร์พูล ในเกมล่าสุดอยู่ 4 คะแนน

อย่างไรก็ตาม, กูรูและกูรู้หลายคนยังเชื่อว่า เดอะกันเนอร์ส คงไม่สามารถยืนระยะและซัดกันหมัดต่อหมัดกับ แมนฯ ซิตี้ เหมือนที่ลูกทีมของ คล็อปป์ ทำได้เมื่อปีที่แล้ว เพราะขนาดทีม ประสบการณ์อันน้อยนิด และความสม่ำเสมอที่ยังต้องรอการพิสูจน์

แต่การจะบอกว่าทีม ปืนโต พร้อมจะเป็นแชมป์แล้ว ในความเห็นของเขาคือมันจะยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ นั่นเป็นเพราะเขายังไม่เชื่อว่า มิเกล อาร์เตต้า จะพาทีมรักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมแบบนี้ได้ตลอดใน 28 เกมที่เหลือ

ลิเวอร์พูล เองก็เช่นเดียวกัน การโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมในเกมที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าพวกเขาพร้อมที่จะกลับมาสู่เส้นทางในการลุ้นแชมป์หรือท็อปโฟร์อีกครั้ง

ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ทำให้ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ น่าเกรงขามและเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วยุโรป ไม่ใช่เรื่องของสไตล์การเล่นเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขายังเป็นทีมที่เหนียวแน่น แพ้ยาก และคงเส้นคงวามากที่สุดทีมหนึ่งด้วย

Liverpool, Anfield, Jurgen Klopp, Arsenal, Manchester City, West Ham, Mikel Arteta, Pep Gaurdiola, Mohamed Salah, ลิเวอร์พูล, แอนฟิลด์, เยอร์เก้น คล็อปป์, อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เวสต์แฮม, มิเกล อาร์เตต้า, เป็ป กวาดิโอล่า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

แต่กับฤดูกาลนี้ พวกเขาสูญเสียคุณสมบัตินี้ไป มีเกมที่ชนะถล่มทลาย แต่นัดต่อมากลับไม่สามารถรักษาโมเมนตั้มเอาไว้ได้ และฟอร์มขึ้น ๆ ลง ๆ มาตลอด

คล็อปป์ พยายามในการแก้ไขสิ่งเหล่านี้ ดูได้จากเกมที่เจอ แมนฯ ซิตี้ โดยเฉพาะปัญหาการเสียประตูง่าย ๆ และถูกนำไปก่อน ซึ่งน่าจะโล่งใจได้เปลาะหนึ่ง

การเจอกับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ถ้าคุณไม่สามารถทำผลงานระดับท็อปฟอร์มได้จริง ๆ ก็ยากที่จะรับมือได้ นายใหญ่เมืองเบียร์จึงวางแผนอย่างรัดกุม เขาใช้มิดฟิลด์ 3 คนช่วยไล่ทำลายแดนกลางของ แมนฯ ซิตี้ และเป็นตัวช่วยในเกมรับ โดยที่แผงกองหลังไม่ดันขึ้นสูงหรือเล่นแบบ High-Line ซึ่งมักทำให้เกิดช่องว่างในการโจมตี รวมทั้งการให้ลูกทีมสวิชบอลเร็วจากรับเป็นรุกด้วยบอลไดเร็กไปที่ริมเส้น ซึ่งทำให้นำไปสู่ประตูชัย

แผนนี้ใช้ได้ผลกับ แมนฯ ซิตี้ แต่เมื่อถามต่อไปอีกว่า ถ้าเจอกับ เวสต์แฮม ที่คนละระดับกัน พวกเขาจะเล่นยังไง?

ขุนค้อน ไม่ใช่ทีมเล่นเกมรุกจ๋า และเมื่อพวกเขาเจอกับ ลิเวอร์พูล คราใด มันไม่ใช่งานง่ายเลยซักนิด เพราะลูกทีมของ คล็อปป์ ต้องเจอเกมรับลึกและจังหวะโต้กลับที่อันตราย ซึ่งมักทำให้ถูกขึ้นนำอยู่บ่อย ๆ

การเจอกับทีมแบบนี้ เผลอ ๆ อาจจะเป็นงานที่ยากกว่าการเล่นกับทีมระดับหัวตารางด้วยกัน และทีมแบบนี้แหละที่มีมากกว่าครึ่งในลีก และพร้อมที่จะเป็นตัวตัดแต้มตลอดเวลา

Liverpool, Anfield, Jurgen Klopp, Arsenal, Manchester City, West Ham, Mikel Arteta, Pep Gaurdiola, Mohamed Salah, ลิเวอร์พูล, แอนฟิลด์, เยอร์เก้น คล็อปป์, อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เวสต์แฮม, มิเกล อาร์เตต้า, เป็ป กวาดิโอล่า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

เกมนัดนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ที่ ลิเวอร์พูล จะต้องเจอและผ่านมันไปให้ได้ เพราะถ้าคำถามคือ การที่ทีมมีความต้องการจะกลับไปสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ คำตอบเดียวก็คือ ต้องเก็บ 3 คะแนนต่อเนื่องกับทีมระดับนี้ให้ได้ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นแค่การวนลูปกลับไปที่เดิม

3 แต้มจาก แมนฯ ซิตี้ ที่ได้มาอาจจะไม่มีค่าอะไรเลยก็ได้ถ้าผลงานในนัดต่อ ๆ ไปยังไร้ซึ่งความสม่ำเสมอ

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top