กลับขึ้นเป็น จ่าฝูง ก่อนเกมแดงเดือด
ศึกพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 31 ประจำฤดูกาลที่ 2023-24, เจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทัพของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงทำผลงานที่ แอนฟิลด์ ได้ตามความคาดหวังของแฟนบอลอีกครั้ง หลังจากทุบเอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไป 3-1 แบบที่ปล่อยให้แฟนบอลรู้สึกหวาดเสียวนิด ๆ แต่ก็สามารถเก็บ 3 แต้ม และทวงตำแหน่ง จ่าฝูง กลับคืนมาได้อีกครั้ง
เกมนี้ ทัพนักเตะของ ลิเวอร์พูล ต้องออกแรงเยอะพอสมควร กว่าจะบดเก็บ 3 คะแนนจากผู้มาเยือนได้ ซึ่งเป็นการเรียกความมั่นใจก่อนที่ทีม หงส์แดง จะต้องบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพื่อทำศึก “แดงเดือด” ในคืนวันอาทิตย์นี้
และนี่คือ 5 ประเด็นหลังเกมที่น่าสนใจมาก ๆ ในแมตช์ที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านอัด เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ได้ตามที่คาดหวัง และกลับขึ้นไปเป็นทีมหัวสุดของตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ในตอนนี้
1. อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ผลงานร้อนแรงต่อเนื่อง
![อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/04/Alexis-Mac-Allister-1024x538.webp)
เมื่อ วาตารุ เอ็นโด ได้รับบาดเจ็บ หรือไม่พร้อมลงสนาม, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ จะกลายเป็นตัวแทนอันดับ 1 ของทีม ที่ต้องประจำการในบทบาทห้องเครื่องหมายเลข 6 หน้าแผงแบ็คโฟร์ เหมือนกับช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งแน่นอนว่า แฟนบอลหลายคนไม่อยากให้เขาลงเล่นในตำแหน่งนี้เท่าไหร่ หลังจากที่เขาสามารถระเบิดฟอร์มอันสุดยอดได้ ในตำแหน่งจอมทัพเบอร์ 10
อย่างไรก็ตาม มันเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กับโจทย์ข้อใหญ่ที่ เอนโด ไม่พร้อมลงสนาม และถึงแม้ ‘แม็คก้า’ จะต้องลงไปเล่นต่ำกว่าเดิม แต่อิทธิพลของตัวเขาที่มีต่อทีมก็ยังมหาศาลเช่นเดิม แถมเจ้าตัวยังได้ยิงไกล ซัดประตูสุดสวยช่วยให้ทีมขึ้นนำ 2-1 อีกด้วย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นคีย์แมนในแผงมิดฟิลด์ที่ ลิเวอร์พูล ขาดไปไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงท้ายซีซันที่การขับเคี่ยวเพื่อแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก กำลังมีความเข้มข้นระดับ 15 กะโหลก
2. ตำแหน่ง จ่าฝูง กับผลต่างประตูได้-เสีย
![จ่าฝูง จ่าฝูง](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/04/Premier-League-Table-1024x538.webp)
แน่นอนว่าหลังจบเกมนี้ไปแล้ว, ลิเวอร์พูล คงรู้สึกพอใจกับ 3 แต้มที่ได้ไป แต่เมื่อพวกเขาต้องเจอกับทีมท้ายตาราง บางทีลูกทีมของ คล็อปป์ อาจต้องมองไปที่ลูกได้-เสียด้วย เพราะมันอาจจะเป็นจุดสำคัญที่จะช่วยตัดสินการเป็นแชมป์ ในกรณีที่ทีมอันดับ 1 และ 2 มีแต้มเท่ากัน
น่าเสียดายที่ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเก็บคลีนชีตในเกมนี้ได้ และยิงประตูเอาชนะ เชฟฟิลด์ ได้ด้วยผลต่างที่ไม่มากนัก แต่เหนือสิ่งอื่นใด เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็เคยกำชับลูกทีมของตนเองไว้แล้วว่า การเก็บ 3 แต้มในการแข่งขันแต่ละเกมให้ได้ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดอันดับแรก และ 3 แต้มที่ได้จากเกมนี้ ก็ทำให้พวกเขาทวงตำแหน่งจ่าฝูงกลับคืนมาได้อีกครั้ง
ปัจจุบัน, ผลต่างประตูได้-เสียของม้า 3 ตัวที่กำลังเบียดแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกกันอยู่ มีสถิติดังนี้ ลิเวอร์พูล +42 ขณะที่ อาร์เซนอล +48 และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ +38
3. เคอร์ติส โจนส์ กลับมาได้ทันเวลาพอดี
![เคอร์ติส โจนส์ เคอร์ติส โจนส์](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/04/Curtis-Jones-1024x538.webp)
ก่อนหน้านี้, เคอร์ติส โจนส์ ต้องเจอกับเรื่องโชคร้าย จากการที่เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บนานกว่า 2 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่เขากำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และการลงมาเป็นตัวสำรองในเกมนี้ ดาวเตะวัย 23 ปี ก็สร้างประโยชน์ให้กับทีมได้มากมาย และเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมเลยก็ว่าได้
กองกลางชาวอังกฤษเคลื่อนที่ไปทั่วสนาม เพื่อรับบอลไปสร้างสรรค์เกม เล่นกับเพื่อนร่วมทีมด้วยความเรียบง่าย ทำให้เกมมีความไหลลื่นมากขึ้น จนนำความแน่นอนกลับมาสู่ทีมได้อีกครั้ง ซึ่งทำให้ ลิเวอร์พูล มีจังหวะการเล่นที่นิ่งมากขึ้น และหาทางเจาะเพื่อยิงประตูทีมเยือนได้สำเร็จ
ในเวลาเพียง 20 นาทีที่ โจนส์ ลงสนาม, เขาจ่ายบอลไปถึง 31 ครั้ง น้อยกว่าคนที่ถูกเปลี่ยนออกอย่าง ไรอัน กราเฟนแบร์ก เพียงแค่ 2 ครั้ง และผ่านบอลสำเร็จถึง 94 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว
4. ผลงานของ ควิวิน เคลเลเฮอร์ ยังคงยอดเยี่ยม
![ควีวิน เคลเลเฮอร์ ควีวิน เคลเลเฮอร์](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/04/Caoimhin-Kelleher-1024x538.webp)
เกมนี้เป็นเกมที่ 24 ของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ที่ลงเฝ้าเสาให้กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ ซึ่งหมายความว่าในตอนนี้ เขาลงเฝ้าเสาให้กับทีม หงส์แดง เท่ากับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารมือหนึ่งชาวบราซิลไปเรียบร้อยแล้ว และเจ้าตัวควรได้รับการชื่นชมที่ช่วยพาทีมมาอยู่ในจุดนี้ได้
ในขณะเดียวกัน สถิติระบุไว้ว่า นี่เป็นเพียงครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของทีม “หงส์แดง” ที่ผู้รักษาประตู 2 คนในทีม ได้ลงเฝ้าเสาในจำนวนเกมที่มากพอ ๆ กัน ถ้านับสถิติดังกล่าวครั้งแรก พวกเราต้องย้อนกลับไปในซีซัน 1988/89 ที่ บรูซ กรอบเบลาร์ ได้ลงเฝ้าเสาไป 28 เกม ส่วน ไมค์ ฮูเปอร์ ลงสนามไป 25 เกม
ในเกมนี้ เคลเลเฮอร์ โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟให้เห็นอยู่หลายครั้ง และทำให้แนวรับมีความอุ่นใจตลอดทั้ง 90 นาที และสุดท้ายก็ช่วยพาทีมเก็บ 3 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ
5. ขึ้น จ่าฝูง ก่อนเกม “แดงเดือด”
![เคอร์ติส โจนส์ แดงเดือด](https://redzonelfc.com/wp-content/uploads/2024/04/แดงเดือด-1024x538.webp)
ความสนใจของทุกคนในตอนนี้ คงพุ่งเป้าไปที่เกมบิ๊กแมตช์ แดงดือด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์นี้ ความพ่ายแพ้ต่อ “ปีศาจแดง” ในศึก เอฟเอ คัพ ยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลอย่างแน่นอน และเกม แดงเดือด ที่จะถึงนี้ เป็นเกมที่ ลิเวอร์พูล ต้องชนะเพียงสถานเดียวเท่านั้น
ยังมีแรงกดดันที่กำลังถาโถมใส่ เอริค เทน ฮาก กุนซือคนปัจจุบันของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างต่อเนื่อง, หลังจากที่พาทีมบุกไปพ่ายให้กับ เชลซี 4-3 ในเกมล่าสุด และแน่นอนว่า ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องคว้าชัยชนะในเกมนี้ให้ได้ เพื่อรักษาความได้เปรียบในการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถูกเปลี่ยนตัวออกจากเกมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หลังจากเจ้าตัวได้ใช้เวลาในสนามไป 60 นาที ซึ่งพวกเรามองว่า น่าจะเป็นแผนที่ ลิเวอร์พูล วางเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่ เคอร์ติส โจนส์ ก็กลับมาลงเล่นเป็นตัวสำรองได้ ส่วน วาตารุ เอนโด ก็น่าจะกลับมาประจำการเป็นมิดฟิลด์หมายเลข 6 ได้
นอกเหนือจากนี้ ประตูปิดท้ายจาก โคดี้ กัคโป ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับแนวรุกได้มากขึ้น ก่อนที่ จ่าฝูง อย่าง ลิเวอร์พูล จะต้องออกไปสู้ศึก แดงเดือด คืนวันอาทิตย์นี้