5 เซ็นเตอร์แบ็คฝั่งซ้าย ที่ ลิเวอร์พูล ควรคว้าตัวมาร่วมทีม

ลิเวอร์พูล สโมสรดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชชาวเยอรมัน ทำการสร้างแผงมิดฟิลด์โฉมใหม่เรียบร้อยแล้วหลังจากคว้าตัว อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ และ โดมินิค โซบอซส์ไล มาจาก ไบรท์ตัน และ แอร์เบ ไลปซิก ตามลำดับ และอาจจะมีกองกลางตัวรับเพิ่มมาอีกรายด้วย

อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงขุมกำลังของ ลิเวอร์พูล ยังคงไม่จบลง เนื่องจากในซีซันที่ผ่านมา แผงแนวรับก็เป็นปัญหาชัดเจนเช่นกัน โดยผู้เล่นคีย์แมนอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ ก็เริ่มอายุมากแล้ว ขณะที่ โจ โกเมซ, โจเอล มาติป และ อิบราฮิมา โกนาเต้ มักมีอาการบาดเจ็บรบกวนเป็นประจำ

 นับตั้งแต่ คล็อปป์ เปลี่ยนไปใช้ระบบ 3-4-3 และดัน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไปเล่นในแผงกองกลางนั้น แนวรับ ลิเวอร์พูล ต้องเจอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่ง เซ็นเตอร์แบ็คฝั่งซ้าย ที่ “หงส์แดง” ยังขาดคนไว้ใจได้เข้ามาเติมเต็ม

เมื่อมองภาพรวมในตลาดนักเตะรอบนี้แล้ว 5 รายชื่อต่อไปนี้ เป็นปราการหลังที่เหมาะสมสำหรับ ลิเวอร์พูล สโมสรดัง แห่งศึก พรีเมียร์ลีก มากที่สุด

ลิเวอร์พูล สโมสรดัง

1. จาร์ราด แบรนธ์เวท (เอฟเวอร์ตัน)

แบรนธ์เวท อาจจะกลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ย้ายข้ามฟากจาก เอฟเวอร์ตัน มาเล่นกับ ลิเวอร์พูล โดยตรงนับตั้งแต่ยุคของ อาเบล ซาเวียร์ ฟูลแช็คชาวโปรตุเกส เมื่อสองทศวรรษที่แล้ว ซึ่งความสามารถเจ้าตัวที่สามารถเล่นได้ทั้งกองหลังฝั่งซ้าย และแบ็คซ้าย ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ในฤดูกาลที่ผ่านมา ดาวเตะวัย 21 ปี ย้ายไปเล่นกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในศึกเอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ ด้วยสัญญายืมตัว และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการลงเล่นไปรวมทุกรายการมากถึง 36 เกม ซัดไป 4 ประตู

แบรนธ์เวท เป็นกองหลังอายุน้อยอนาคตไกล ซึ่งเจ้าตัวอาจยังไม่มีประสบกาณ์มากพอที่จะยึดตัวจริงในทีม ลิเวอร์พูล ชุดนี้ได้ แต่การได้ทำงานกับ คล็อปป์ และเรียนรู้จาก ฟาน ไดจค์ นั้น เชื่อได้ว่า เขาอาจก้าวขึ้นมาเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟระดับท็อปไปได้ไม่ยาก

2. มาร์ค เกฮี (คริสตัล พาเลซ)

แม้จะเป็นกองหลังที่ถนัดเท้าขวา แต่ส่วนใหญ่แล้ว เกฮี จะรับบทบาทปราการหลังฝั่งซ้ายเป็นหลักในแผงแบ็คโฟร์ของ พาเลซ และในบางเกมยังสามารถขยับมาช่วยยืนในตำแหน่งฟูลแบ็คได้อีกด้วย ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่น่าจับตามอง

ในวัย 23 ปี เกฮี มีประสบการณ์ในศึก พรีเมียร์ลีก อย่างโชกโชน โดยลงสนามไปแล้วมากกว่า 70 เกม นอกจากนี้ เจ้าตัวยังถูก แกเร็ธ เซาธ์เกตต์ กุนซือทีมชาติอังกฤษเรียกตัวตัวไปรับใช้พลพรรค “สิงโตคำราม”มาแล้ว 4 เกม

นอกจากนี้ เกฮี ยังเพิ่มโควตานักเตะท้องถิ่นให้กับ ลิเวอร์พูล อีกด้วย แต่ปัญหาเดียวก็คือ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือ พาเลซ ประกาศไว้ว่า แนวรับชาวอังกฤษรายนี้มีค่าตัว 50 ล้านปอนด์

ลิเวอร์พูล สโมสรดัง

3. กอนซาโล อินาซิโอ (สปอร์ติง ลิสบอน)

อินาซิโอ เป็นอีกหนึ่งกองหลังดาวรุ่งที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในยุคนี้ และก็ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าตัวจะอยู่ในความสนใจของ ลิเวอร์พูล รวมถึงบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปมาตลอด แต่จนถึง ณ ตอนนี้ ก็ยังไม่มีทีมใดยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการให้กับ สปอร์ติง พิจารณา

ลิเวอร์พูล เคยทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมในโปรตุเกสหลังคว้าตัว หลุยส์ ดิอาซ ไปจาก เอฟซี ปอร์โต้ และ ดาร์วิน นูนเญซ จาก เบนฟิกา ดังนั้น เซ็นเตอร์แบ็คเลือด “ฝอยทอง” วัย 21 ปี ก็มีโอกาสโยกมาคุมแนวรับใน แอนฟิลด์ เช่นกัน

คล็อปป์ มีเวลาอีกมากที่จะปั้น อินาซิโอ ขึ้นมาสานงานต่อจาก ฟาน ไดจค์ และยืนปักหลักเป็นคู่หูของ โกนาเต้ ในอนาคต

4. อเลสซานโดร บาสโตนี (อินเตอร์ มิลาน)

ปราการหลังทีมชาติอิตาลี กลายเป็นอีกคนที่ตกเป็นข่าวพัวพันกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และแน่นอนว่า จากการที่เจ้าตัวเป็นคีย์ในเกมรับของ อินเตอร์ มาตลอดหลายปี นั้น คงไม่ใช่นักเตะที่ราคาถูกอย่างแน่นอน

ในภาพรวม ดาวเตะ “อัซซูรี่” วัย 24 ปี ดูจะเหมาะกับแท็คติก ลิเวอร์พูล อย่างมาก เนื่องจาก บาสโตนี เคยเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คฝั่งซ้ายในรับระบบแนวรับ 3 คน และก็มีประสบการณ์มากมายในลีกชั้นนำของยุโรป

บาสโตนี มีราคาสูงแน่นอน แต่เขาจะสามารถเข้ามาเป็นตัวหลักของ ลิเวอร์พูล ได้ทันที โดยไม่ต้องรอเวลาเหมือนกับตัวเลือกอื่น

ลิเวอร์พูล สโมสรดัง

5. ลีวาย คอลวิล (เชลซี)

คอลวิล อาจเป็นการทำธุรกิจที่ยากที่สุดของ ลิเวอร์พูล แต่เขาก็เป็นตัวเลือกที่ที่สุดเช่นกัน โดยกองหลังวัย 20 ปี อยู่ในความสนใจของ คล็อปป์ มาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาแล้ว และแมวมอง “หงส์แดง” ก็ไปติดตามฟอร์มมาตลอดใสช่วงที่เล่นกับ ไบรท์ตัน ด้วยสัญญายืมตัว

เชลซี ถือไพ่เหนือกว่า ลิเวอร์พูล พอสมควร เนื่องจาก คอลวิล ยังเหลือสัญญาถึงปี 2025 ซึ่งทำให้พวกเขาไม่ต้องรีบร้อนที่จะขายผู้เล่นออกไป แม้ตัวนักเตะจะอยากย้ายสโมรเพื่อหาโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในปีหน้าก็ตาม

ดาวเตะวัย 20 ปี เป็นคำตอบในการแก้ไขปัญหาระยะยาวของ ลิเวอร์พูล เขามีประสบการณ์ใน พรีเมียร์ลีก มาแล้ว และแสดงให้เห็นว่า รับมือกับกองหน้าชั้นนำได้สบายๆ รวมถึงยังเพิ่มโควตา “Homegrown” ให้ทีมอีกด้วย

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top