แม้ว่าจนถึงตอนนี้ข่าวการย้ายมาเป็นนักเตะใหม่ ลิเวอร์พูล ของ ดาร์วิน นูเญซ อาจจะยังไม่มีอะไรชัดเจนอย่างเป็นทางการ แต่ก็เชื่อว่า 90-99 เปอร์เซ็นต์คงไม่มีอะไรผิดพลาด และน่าจะมีการจรดปากกาเซ็นสัญญาพร้อมเปิดตัวกันในสัปดาห์หน้าแบบจัดเต็มให้เดอะค็อปได้ชื่นใจกัน
ภารกิจในการไล่ล่าแนวรุกคนใหม่กำลังจะได้ข้อสรุปและจะทำให้ หงส์แดง เป็นทีมที่มีแดนหน้าสุดอันตรายทีมหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก เพื่อต่อกรกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าที่กำลังเปิดตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ และ จูเลียน อัลวาเรซ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
แต่ถามว่าแค่นี้มันเพียงพอที่จะล้มบัลลังก์ทีมอันดับหนึ่งของเกาะอังกฤษได้จริงหรือ?
กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ อดีตกองหน้าสิงโตคำรามที่ตอนนี้รับหน้าที่กูรูของ ทอล์คสปอร์ต ยืนยันว่าแม้ ลิเวอร์พูล จะสร้างสถิติสโมสรด้วยทุ่มเงิน 100 ล้านยูโรหรือประมาณ 85 ล้านปอนด์เพื่อคว้าหนึ่งในกองหน้าดาวรุ่งที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในขณะนี้มาร่วมทีม แต่ก็ยังไม่น่าจะทำให้ทีมของ เป็ป กวาร์ดิโอลา สั่นสะเทือนได้
สำหรับดีลดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยนั้น ”แก็บบี้” เชื่อว่ามันดีอยู่แล้ว เยอร์เก้น คล็อปป์ จะได้ประโยชน์จากนักเตะคนนี้มากมาย แม้มีแฟนบอลบางทีมแอบหยิกแกมหยอกว่าทรงดูคล้าย ๆ แอนดี้ คาร์โรล ก็ตาม แต่ถ้าผ่านการคัดสรรจากทีมงานของ ลิเวอร์พูล ยุคนี้แล้วก็ยากที่จะพลาดได้ง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม, การได้กองหน้าตัวใหม่เข้ามาประชันกับ แมนฯ ซิตี้ ที่เตรียมเปิดตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ นั้นอาจจะสู้กันได้ในเกมรุก แต่ในภาพรวม หงส์แดง ยังต้องการทีเด็ดมากกว่านี้ ซึ่ง อักบอนลาฮอร์ ชี้ว่า จู้ด เบลลิงแฮม คือคนที่จะมาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับทีม
“นูเญซ เป็นผู้เล่นระดับท็อปอยู่แล้ว เขาจะเข้ามาช่วยยกระดับทีมได้ แต่ ลิเวอร์พูล ยังคงต้องการมิดฟิลด์เพิ่มเติม”
“ติอาโก้ มีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่เรื่อย ๆ ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็อายุเข้าสู่วัย 30 ปีแล้ว เมื่อดูจาก 2 ตัวหลักนี้ พลกวเขาต้องการกองกลางเพิ่มเติมอย่างน้อย 2 ราย และ 1 ในนั้นผมขอเสนอชื่อของ จู้ด เบลลิงแฮม เพราะนี่คือนักเตะที่จะสามารถเข้ากับทีมได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
อันที่จริงช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ก็มีข่าวกับ “หนูจู้ด” อยู่เหมือนกัน หลังจากที่เจ้าตัวย้ายไปร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อซัมเมอร์ 2020 และสร้างชื่อให้กับตัวเองได้ในวัยเพียง 18 ปี กลายเป็นนักเตะตัวหลักของค่ายเสือเหลืองและมีชื่อในทีมชาติอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เป็นที่เรียบร้อย
อักบอนลาฮอร์ ยืนยันว่าหากได้ นูเญซ มาร่วมทีม ลิเวอร์พูล ไม่จำเป็นต้องเสริมเกมรุกเพิ่ม ตำแหน่งมิดฟิลด์ต่างหากที่สำคัญซึ่ง เบลลิงแฮม นี่แหละ จะตอบโจทย์ตรงนี้ได้
“ในเกมรับและรุกของ ลิเวอร์พูล นั้นพวกเขามีนักเตะมากพอแล้ว พวกเขาต้องการแค่กองกลางอีก 2 คนบวกกับ นูเญซ เพื่อกลับมาลุ้นแชมป์อีกในฤดูกาลหน้า”
“ถ้าไม่เชื่อก็ลองมองไปที่แผงมิดฟิลด์ของ แมนฯ ซิตี้ ดูสิ ซึ่งผมคิดว่า ลิเวอร์พูล ต้องการกองกลางเพิ่มอย่างน้อย 1 คน”
“ถึงเวลาที่ หงส์แดง ต้องลุกขึ้นสู้ มาเน กำลังจะย้ายทีมในขณะที่ นูเญซ จะเข้ามาเสริมทัพ แต่การที่มี หลุยส์ ดิอาซ, โชต้า และ โม ซาลาห์ นั้นยังไม่พอที่จะไปต่อกรกับ ซิตี้ ได้หรอก”
ถ้ามองไปที่แผงกองกลางของ ลิเวอร์พูล ในเวลานี้ ติอาโก, ฟาบินโญ และ เฮนเดอร์สัน คือตัวจริง ส่วนพวก เคอร์ติส โจนส์, นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์ คือตัวที่คอยหมุนเวียน อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน น่าจะถึงเวลาต้องย้ายทีม ซึ่งการได้ เบลลิงแฮม เข้ามาอีกคนจะช่วยยกระดับแดนกลางได้มากขึ้น เพราะด้วยคุณสมบัติที่ต่างจากห้องเครื่องรายอื่น การเล่นได้ทั้งเกมรุกและเกมรับ วางบอลได้แม่นยำ และหาจังหวะจบสกอร์จากนอกกรอบได้ดี นี่คือสิ่งที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ กำลังต้องการ
ทั้งนี้ทั้งนั้นแม้จะอยากได้แข้ง ดอร์ทมุนด์ มากขนาดไหน แต่เมื่อดูจากเงินที่ทุ่มไปยัง นูเญซ ถึง 85 ล้านปอนด์แล้ว คำถามที่ตามมาคือ ลิเวอร์พูล จะมีเงินเหลือพอที่จะซื้อ เบลลิงแฮม หรือไม่
ค่าตัวของ จู้ด ที่ถูกตั้งเอาไว้เมื่อเดือนมกราคมคือ 90 ล้านปอนด์ แต่จากรายงานเมื่อเดือนมีนาคมราคาของนักเตะรายนี้พุ่งไปถึง 150 ล้านปอนด์แล้ว คิดเล่น ๆ ว่าถ้า หงส์แดง ได้ตัวมาร่วมทีมจริง ๆ เมื่อรวมกับดีล นูเญซ จะทำให้พวกเขาต้องทุ่มเงินไม่ต่ำกว่า 230 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
นี่เป็นเพียงการคาดการณ์คร่าว ๆ เพราะเอาจริง ๆ เมื่อเข้าสู่ตลาดซื้อขายค่าตัวอาจจะไม่บ้าคลั่งขนาดนี้ อยู่ที่การเจรจราของทั้งสองฝ่าย ดูอย่างกรณี เจดอน ซานโช กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยถูกตั้งค่าตัวเอาไว้สูงถึงเกือบ 100 ล้านปอนด์แต่ท้ายที่สุดก็สามารถตกลงกันได้ในราคา 73 ล้าน
อย่างไรก็ตาม, ทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับแผนงานของ เยอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงาน พวกเขาต้องการ เบลลิงแฮม จริง แต่ก็อาจจะมีตัวแทนที่ราคาสมเหตุสมผลกว่าอยู่ในลิสต์ก็ได้ ซึ่งต้องรอดูกันต่อไป
เชื่อว่าไม่ว่าจะยังไง ลิเวอร์พูล ก็คงมองหามิดฟิลด์ตัวใหม่เพิ่มแน่นอน แค่ลุ้นว่าจะใช่คนที่แฟนบอลอยากได้หรือเปล่า…เท่านั้นเอง