Arsenal – Liverpool กับ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ฟอร์มหลุด บุกพ่าย อาร์เซนอล

Arsenal – Liverpool ศึกพรีเมียร์ลีกเกมที่ 23 ในฤดูกาลที่ 2023-24, ซึ่งในเกมนี้ ฝั่งทัพนักเตะ ลิเวอร์พูล ฟอร์มหลุดกันไปแบบดื้อ ๆ จบลงที่การบุกไปพ่ายให้กับ อาร์เซนอล ในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไปด้วยสกอร์ 3-1

นักเตะ หงส์แดง ได้ลงเล่นเกมเยือนเป็นนัดแรก หลังการประกาศอำลาทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ แต่ผิดคาดที่นักเตะ กลับเล่นผิดฟอร์มแทบทุกคน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผิดพลาด แทบจะตลอดทั้งเกม และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าพูดถึงของเกมนี้

1. การสร้างสรรค์เกมรุกที่ไม่ลื่นไหล ในเกม Arsenal – Liverpool

ดีแคลน ไรซ์

ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น, ทั้ง 2 ทีม มีความมุ่งมั่นในการเก็บ 3 แต้มกันอย่างเต็มที่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เจ้าบ้าน อาร์เซนอล รู้ดีว่า ทีมของตัวเองมีแต้มตามหลังจ่าฝูงถึง 8 แต้ม ถ้าหากจบเกมนี้ไปด้วยความพ่ายแพ้ ในขณะที่ ลิเวอร์พูล เองก็ต้องการทำแต้มทิ้งห่างออกไปให้มากที่สุด

ภาพรวมตลอดทั้ง 90 นาทีของ ลิเวอร์พูล เห็นได้ชัดเจนว่า พวกเขาไม่สามารถเจาะแนวรับเจ้าบ้านได้เลย ซ้ำยังได้ประตูจากความผิดพลาดของ กาเบรียล มากัลเญส ปราการหลังชาวบราซิลของ อาร์เซนอล ที่ทำเข้าประตูตัวเอง ก่อนหมดครึ่งแรก

3 แนวรุกของ ลิเวอร์พูล อย่าง โคดี กัคโป, หลุยส์ ดิอาซ และ ดิโอโก โชต้า บวกกับมิดฟิลด์ตัวทำเกมอีก 2 รายอย่าง เคอร์ติส โจนส์ และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ไม่ได้ประสานงานร่วมกันมากนัก สร้างความกดดันให้กับแนวรับ อาร์เซนอล ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

2. ความผิดพลาดส่วนบุคคลที่เกิดขึ้น ในเกม Arsenal – Liverpool

อลิสซอน เบ็คเกอร์

เจ้าบ้าน อาร์เซนอล ออกสตาร์ทเกมได้อย่างเฉียบขาด จากการยิงประตูขึ้นนำของ บูกาโย ซาก้า ปีกดาวรุ่ง ในนาทีที่ 14 ซึ่งมันไม่ใช่การเริ่มต้นที่คาดหวังเอาไว้ สำหรับ ลิเวอร์พูล เลย และมันเป็นจุดแรกที่ทำให้ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เล่นกันได้อย่างผิดฟอร์มสุด ๆ

การเสียประตูที่ 2 เป็นสิ่งที่เราไม่ได้เห็นบ่อยนัก หลังจากการสื่อสารที่ผิดพลาดของ 2 นักเตะในแนวรับที่ไว้ใจได้มากที่สุดในทีม อย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารทีมชาติบราซิล และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังกัปตันทีมชาวดัตช์

ส่วนประตูที่ 3 อลิสซอน ก็โดนวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากปิดเสาแรกไม่ดี และโดน เลอันโด ทรอสซาร์ด หัวหอกตัวสำรอง อาร์เซนอล ซัดประตูปิดกล่อง ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

3. อิบราฮิมา โกนาเต้ ไม่ควรโดนใบแดง

อิบราฮิมา โกนาเต้

หากมีช่วงเวลาหนึ่งที่ทำให้ คล็อปป์ และแฟนบอล ลิเวอร์พูล รู้สึกหงุดหงิดอย่างแท้จริง ในระหว่างเกม Arsenal – Liverpool ก็คงเป็นการตัดสินใจของ โกนาเต้ ที่ทำให้เจ้าตัวใบแดงในช่วงท้ายเกม จากการทำฟาวล์ใส่ ไค ฮาแวร์ตส์ จอมทัพ อาร์เซนอล บริเวณกลางสนาม

ในจังหวะดังกล่าว, ฮาแวร์ตส์ ยังอยู่ไกลจากกรอบเขตโทษของ ลิเวอร์พูล แต่การเข้าปะทะของ โกนาเต้ ทำให้เขาโดนใบเหลืองที่ 2 แบบไม่สมควรจะเสีย และ คล็อปป์ ก็ไม่มีทางเลือกให้แก้เกมอีกแล้ว ในช่วงเวลาที่ทีมเหลือนักเตะ 10 คน

กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส จะต้องนั่งดูเพื่อนเล่น 1 เกม ซึ่งเป็นเกมที่ ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านพบกับ เบิร์นลีย์ ในสัปดาห์หน้า และอาจเป็นห้วงเวลาที่เจ้าตัว จะได้ทบทวนการตัดสินใจของตัวเองอย่างหนัก

เช็คสถิติและบทวิเคราะห์หลังเกม อาร์เซนอล 3-1 ลิเวอร์พูล

4. โคดี กัคโป สร้างผลกระทบกับเกมไม่ได้

โคดี้ กัคโป

หลายคนตั้งข้อสงสัย เมื่อ คล็อปป์ เปิดเผยในการสัมภาษณ์ ก่อนเกม Arsenal – Liverpool ว่า การเลือก กัคโป ลงสนามเป็น 11 คนแรกก่อน ดาร์วิน นูนเญซ ดาวยิงชาวอุรุกวัย นั้น ถือเป็นการตัดสินใจเชิงแท็กติก และกองหน้าสารพัดประโยชน์ชาวดัตช์ ก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ตลอด 58 นาทีในสนาม

กัคโป มีโอกาสสับไกยิงเพียงครั้งเดียว และ จ่ายบอลสำเร็จ 6 ครั้ง จากทั้งหมด 11 ครั้ง โดยในภาพรวม ก็แทบจะหายไปจากเกม ซึ่งไม่น่าแปลกใจ หาก คล็อปป์ จะคิดถึงการตัดสินใจของตัวเองหากส่ง นูนเญซ ลงเล่นก่อน แม้จะไม่ฟิตเต็มที่ก็ตาม

ในเกมหน้า หากไม่มีอะไรผิดพลาด นูนเญซ มีโอกาสกลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแน่นอน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็น่าจะพร้อมลงเล่นแล้ว ส่วน กัคโป อาจต้องกลับไปเป็นตัวสำรองอีกครั้ง

5. ขุมกำลังเชิงลึกที่ดีขึ้น แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในเกมนี้ได้

Arsenal - Liverpool ติอาโก้

ก่อนเกมเริ่มขึ้น ลิเวอร์พูล พบข่าวร้าย เนื่องจาก 2 นักเตะอย่าง คอเนอร์ แบรดลีย์ และ โดมินิค โซบอสซ์ไล ไม่พร้อมลงสนาม ส่วน นูนเญซ ก็ไม่ฟิตเต็มร้อย แต่พวกเขายังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อ ติอาโก อัลคันทารา กองกลางชาวสเปน ที่หายไปนานกว่า 10 เดือน กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม, ขุมกำลังที่มีอยู่ กลับไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ ที่น่าผิดหวังในเกมนี้ได้เลย นูนเญซ ลงมาในนาทีที่ 58 แต่ก็แทบจะไม่มีส่วนร่วมกับเกม ในขณะที่ ติอาโก ลงมาในช่วง 5 นาทีสุดท้าย และก็ยังจับจังหวะเกมไม่ได้ แถมยังส่งบอลพลาด

ในเกมต่อไป ลิเวอร์พูล จะได้ ซาลาห์, วาตารุ เอ็นโด และ คอสตาส ซิมิกาส กลับมาเข้าทีม และพร้อมเป็นทางเลือกของ คล็อปป์ บวกกับขุมกำลังเดิมที่มีอยู่ จะทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดทีมได้หลากหลายมากขึ้น และพาทีม หงส์แดง กลับสู่การเดินหน้าคว้าชัยชนะให้ได้อีกครั้ง


ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top