เคอร์ติส โจนส์ กับการก้าวข้ามความเป็น “ดาวรุ่งตลอดกาล”

เคอร์ติส โจนส์ กลายเป็นนักเตะวัยรุ่นที่ถูกพูดถึงอีกระลอกแล้ว หลังจากมีชื่อเป็นผู้ทำประตูชัย ช่วยพาให้ ทีมชาติอังกฤษ เอาชนะ ทีมชาติสเปน ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 ในศึกยูโร U-21 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ย้อนไปในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่เพิ่งจบไป จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ เคอร์ติส โจนส์ กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากสำหรับ เดอะ ค็อป ในช่วงหลัง คือเกมที่เขาได้ลงสนามแทนที่ ติอาโก้ อัลคันทารา ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 0-0

สำหรับ ลิเวอร์พูล แล้ว เกมนั้นไม่ได้เป็นเกมที่ดีอะไรมากมายนัก ทุกคนเล่นกันได้ต่ำกว่ามาตรฐานกันเกือบทั้งทีม ซึ่งในเวลานั้นก็พอเข้าใจได้ว่าทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่

แต่เกมนั้น กลับกลายเป็นเกมที่มีความสำคัญกับ โจนส์ เป็นอย่างมาก ตรงที่เป็นการลงเล่นนัดที่ 3 ของเขาในซีซันที่ผ่านมา เพราะก่อนหน้านี้ เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บมาโดยตลอด

เคอร์ติส โจนส์

ซึ่งการได้ลงเล่นในเกมใหญ่กับ เชลซี ในครั้งนั้น กลับทำให้ โจนส์ มีความมั่นใจและเจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า เขาเชื่อว่าตนเองจะกลับมาโชว์ฟอร์มดีได้แน่นอน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแข้งวัย 22 ปีรายนี้กลายเป็น 11 ตัวจริงของ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่นั้นมา พร้อมกับการค่อย ๆ เร่งฟอร์มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะพีคสุดในเกมที่ชนะ เลสเตอร์  ไป 3-0 เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งนัดนั้น โจนส์ ทำคนเดียวไป 2 ประตู

แม้ว่าท้ายที่สุด หงส์แดง จะทำได้เพียงอันดับ 5 ของตาราง แต่ฟอร์มของ โจนส์ ได้รับการพูดถึงอย่างมาก แต่ก็ยังไม่มีใครเชื่อมั่นว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ในซีซันหน้า

มาถึงทัวร์นาเม้นท์ ยูโร U21 ดาวรุ่งของ ลิเวอร์พูล ก็ยังได้รับความไว้วางใจจาก ลี คาร์สลีย์ ให้ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริงเหมือนเดิม และลงเล่นครบ 90 นาทีถึง 4 จาก 5 เกมด้วยกัน

ตำแหน่งการยืนของ โจนส์ แตกต่างไปจากที่เล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ที่เขามักถูกจับไปยืนกลางซ้าย แต่กับทีมชาติอังกฤษ โจนส์ เล่นเหมือนหมายเลข 6 ที่คอยทำหน้าที่เชื่อมเกมตรงแดนกลาง

ตรงนั้นทำให้กองกลาง เดอะ เร้ดส์ ใช้ศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ทั้งการอ่านเกม การผ่านบอล และขับเคลื่อนเกม จนสามารถพาทีม สิงโตน้อย เข้าสู่นัดชิงชนะเลิศชนิดที่ไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว

แล้วก็เหมือนฟ้าลิขิต เมื่อคนมันจะดัง จะอะไรก็ฉุดไม่อยู่ ในเกมรอบชิงชนะเลิศก็เป็น โจนส์ นี่แหละ ที่ทำประตูชัยให้ อังกฤษ เอาชนะ สเปน 1-0 คว้าแชมป์ไปครอง

เคอร์ติส โจนส์ ตอนซ้อมก่อนลงสนาม

แน่นอนว่า สิ่งนี้ย่อมเป็นผลดีต่อตัวนักเตะอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะจะทำให้ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณ และเชื่อว่าเจ้าหนูวัย 22 ปีผู้นี้จะพร้อมกลับมาแย่งชิงตำแหน่งในแดนกลางกับพี่ ๆ ที่ แอนฟิลด์ ในช่วงพรีซีซันแน่นอน

การเข้ามาของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โดมินิค โซบอสซ์ไล ทำให้หลายคนมองข้าม โจนส์ ไป แม้ว่าช่วงท้ายซีซันก่อน เขาจะเป็นกุญแจสำคัญในแดนกลางของทีมก็ตาม

เรื่องประสบการณ์และคลาสบอล โจนส์ ในตอนนี้อาจจะยังสู้ 2 แข้งใหม่ไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้ดาวรุ่งรายนี้พร้อมแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงคือ ความเชื่อมั่นและความคุ้นเคยกับแท็คติกของ เยอร์เก้น คล็อปป์

จะเห็นว่าช่วงหลัง โจนส์ ปรับรูปแบบการเล่นส่วนตัวได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ครองบอลนาน ไม่ม้วน ไม่คิดนาน และกล้าพาบอลขึ้นไปข้างหน้า แถมยังมีการสอดเข้าทำประตูเองได้อีกด้วย ซึ่งพัฒนาการเหล่านี้ คือความเข้าใจเกมและเข้าใจบทบาทของตัวเองในการเล่นภายใต้แท็คติกของ คล็อปป์

โจนส์ เอลเลียต

โจนส์ อาจจะไม่ได้เป็นนักเตะที่มีเทคนิคหรือมีฝีเท้าที่หวือหวามาก ๆ แต่เขาคือผู้เล่นที่สม่ำเสมอที่สุดคนหนึ่งในช่วงท้ายซีซัน และนี่ต่างหากที่เป็นสิ่งที่นายใหญ่ หงส์แดง ต้องการ

ดังนั้น ในระหว่างที่แข้งใหม่กำลังอยู่ในช่วงปรับตัว กองกลางวัย 22 ปีจึงต้องใช้จุดแข็งนี้คว้าโอกาสสำคัญเอาไว้ในอ้อมอกของตนเองให้ได้ เพื่อการการันตีตัวจริง

ไม่แน่เหมือนกันว่า ซีซันหน้าอาจเป็นซีซันแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของ เคอร์ติส โจนส์ หลังจากที่เจ้าตัวถูกปรามาสว่าเป็น “ดาวรุ่งตลอดกาล” มาหลายปีก็ได้

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top