Europa League กับ 5 ประเด็น หงส์แดง บุกเฉือน อตาลันต้า แต่ไม่ดีพอ

Europa League 2023/24

Europa League ประจำฤดูกาลที่ 2023/24 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลก 2, ลิเวอร์พูล ต้องบุกไปเยือน อตาลันต้า ถึงถิ่น เกวิสส์ สเตเดี้ยม ประเทศอิตาลี ซึ่งผลการแข่งขันในนัดแรกที่ หงส์แดง โดน อตาลันต้า บุกมาสอนบอลคาถิ่น แอนฟิลด์ ด้วยผลต่างประตูถึง 3 ประตู ยิ่งทำให้เกมนี้กลายเป็นงานสุดหินของ เยอร์เก้น คล็อปป์

แม้เกมนี้ หงส์แดง จะเป็นฝ่ายบุกมาเอาชนะ อตาลันต้า ถึงถิ่นได้ด้วยสกอร์ 0-1 แต่ก็ต้องตกรอบไป ด้วยสกอร์รวม 3-1 เป็นการส่งท้าย คล็อปป์ ในฟุตบอลยุโรปที่ไม่สวยงามเท่าไหร่นัก ฟอร์มนักเตะในภาพรวมก็ยังปัญหาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง และนี่คือ 5 ประเด็นที่ควรถูกพูดถึงในเกมนี้

1. เทรนท์ ได้ลงเป็นตัวจริงในเกม Europa League รอบ 8 ทีมนัดที่ 2

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

แทบไม่มีเรื่องดีเลย หลังจาก ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบในรายการนี้ แต่อย่างน้อยการกลับมาเป็นตัวจริงของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็เป็นสิ่งที่ทีมขาดหายไป ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ มีการถกเถียงเกิดขึ้นว่า คอเนอร์ แบรดลีย์ ควรจะยึดตัวจริงในตำแหน่งแบ็คขวาถาวรไปเลยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้แสดงให้หลายคนเห็นว่า เขายังคงเป็นแบ็คขวาอันดับ 1 ในทีมของ คล็อปป์ เช่นเดิม, ดาวเตะวัย 25 ปี สร้างสรรค์เกมจากแนวลึกได้อย่างยอดเยี่ยม และมีการจ่ายบอลข้ามไลน์ให้แนวรุกสวย ๆ อยู่หลายครั้ง ทำให้จังหวะการเข้าทำของ หงส์แดง ดูดีขึ้นกว่า 2 นัดที่ผ่านมา

เมื่อต้นสัปดาห์ เจ้าของเสื้อหมายเลข 66 ได้ออกมาพูดถึงความตื่นเต้น ที่จะได้ทำงานร่วมกับผู้จัดการทีมคนใหม่ในอนาคต และแน่นอนว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น่าจะเป็นหนึ่งในคีย์แมนของทีมยุคใหม่อย่างแน่นอน และด้วยคำพูดของเจ้าตัวที่ออกมาแบบนี้ การเจรจาต่อสัญญาฉบับใหม่ น่าจะมีความเป็นไปได้สูงมากแล้ว

 

2. ซาลาห์ ปล่อยโอกาสทองหลุดลอย

ซาลาห์

หลังจาก ซาลาห์ ซัดจุดโทษขึ้นนำในนาทีที่ 7 เชื่อได้ว่า สาวก “เดอะ ค็อป” หลายคน กลับมามีความหวังลึก ๆ ในใจว่า ทีมจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็สร้างปาฏิหาริย์ไม่สำเร็จ และแน่นอนว่า โอกาสทองที่ ดาวเตะวัย 31 ปี ทำหลุดลอยไปนั้น เป็นจังหวะที่น่าเสียดายอย่างมาก

ในช่วงท้ายของครึ่งแรก ซุเปอร์สตาร์ชาวอิยิปต์ หลุดเดี่ยวไปจากการจ่ายบอลของ โคดี กัคโป แต่ ซาลาห์ ไม่เฉียบขาดพอที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล หนีห่างเจ้าบ้านเป็น 2 ประตู ซึ่งมันเป็นจังหวะสำคัญของเกม ที่จะสามารถสร้างความกดดันให้กับเจ้าบ้าน อตาล้นต้า ได้แน่นอนในครึ่งหลัง

ขณะเดียวกัน หลังจากที่เจ้าตัวหายจากอาการบาดเจ็บกลับมา ก็ดูเหมือนว่า ทั้งสภาพร่างกาย ความมั่นใจ และฟอร์มของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะยังไม่ใช่คนเดิมที่พวกเรารู้จัก

3. ปัญหาเดิม ๆ ในเกม Europa League รอบ 8 ทีม นัดที่ 2  

Europa League

 ในเวลานี้ การเล่นเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ดูเหมือนจะถูกคู่ต่อสู้จับทางได้แล้ว โดยฝ่ายตรงข้ามมักจะปล่อยให้ทีมของ คล็อปป์ ได้ครองบอล เพราะรู้ดีว่า จังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาด จากนั้น จะหาจังหวะสวนกลับเร็ว เพื่อเล่นงานแนวรับของทีม หงส์แดง

 กัคโป, ซาลาห์ และ หลุยส์ ดิอาซ ที่ออกสตาร์ทเป็น 3 ประสานในวันนี้ ขาดความเด็ดขาด และประสานงานกันได้ไม่ดีนัก ส่วนตัวสำรองอย่าง เจย์เดน แดนน์ส, ดิโอโก โชต้า และ ดาร์วิน นูนเญซ ไม่ได้สร้างผลกระทบกับเกมเลย

คล็อปป์ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ลิเวอร์พูล มีปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน และบางทีการเปลี่ยนแปลงระบบ นักเตะ หรือแนวทางการเล่นอาจช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้

4. ฟุตบอลยุโรปเกมสุดท้ายของ คล็อปป์ กับ ลิเวอร์พูล

เยอร์เก้น คล็อปป์

ชัยชนะ 1-0 ครั้งนี้ ซึ่งให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนชัยชนะ และยังถือเป็นเกมยุโรปนัดสุดท้ายของ คล็อปป์ ในฐานะเทรนเนอร์ของ ลิเวอร์พูล โดยตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เขาพาทีมเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยุโรปถึง 4 ครั้ง และประสบความสำเร็จด้วยการพาทีม หงส์แดง คว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ 1 สมัย

เกมชิงดำที่ บาเซิล, เคียฟ, มาดริด และ ปารีส สร้างความทรงจำที่ดีมากมายกับแฟนบอล ลิเวอร์พูล และเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่ปีสุดท้ายของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กับ “หงส์แดง” เจ้าตัวไม่ได้ไปยืนคุมทีมที่สนาม ดับลิน อารีนา ประเทศไอร์แลนด์

5. ความสำเร็จที่ต้องขึ้นอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ลิเวอร์พูล ตกรอบ เอฟเอ คัพ และ ยูโรป้า ลีก ไปเรียบร้อยแล้ว, เหลือเพียง พรีเมียร์ลีก รายการเดียวที่ยังคงจะพอได้ลุ้นอยู่ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับไปขึ้นอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดโค้ชชาวสเปน ที่พาทีมขึ้้นนำเป็นจ่าฝูง และเหลือการแข่งขันเพียง 6 เกม เท่านั้น

แน่นอนว่า เรายังคงต้องการเห็นความสมบูรณ์แบบของ ลิเวอร์พูล ในเกมที่เหลือกับ ฟูแล่ม, เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม, ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์, แอสตัน วิลล่า และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เพื่อเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด ก่อนจะไปลุ้นผลของ แมนฯซิตี้ และอีกทีมอย่าง อาร์เซนอล

ไม่ว่าในซีซันนี้ ผลจะจบลงอย่างไรก็ตาม แต่สำหรับ ลิเวอร์พูล เวอร์ชั่น 2.0 ก็เดินทางมาได้ไกลเหนือความคาดหมายแล้ว และอย่างน้อยเราก็มีแชมป์ คาราบาว คัพ 1 รายการ เพื่อส่งท้ายให้กับ คล็อปป์ ก่อนจะรอต้อนรับกุนซือคนใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า


ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top