ไฮไลท์ อตาลันต้า 0-1 ลิเวอร์พูล ยูโรป้า ลีก 2023/24 รอบ 8 ทีม นัด 2

ผลการแข่งขัน : อตาลันต้า 0-1 ลิเวอร์พูล (สกอร์รวม 2 นัด : อตาลันต้า 3-1 ลิเวอร์พูล )

ลิเวอร์พูล บุกไปเยือน แบร์กาโม่ เพื่อเจอกับ อตาลันต้า ในศึกยูโรป้า ลีก ประจำฤดูกาล 2023/24 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัด 2, เกมนี้ ลิเวอร์พูล สามารถบุกไปเฉือนชนะเจ้าบ้านมาได้ 1 ประตูจากจุดโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จบเกมการแข่งขันด้วยผล อตาลันต้า 0-1 ลิเวอร์พูล

แม้ หงส์แดง จะเป็นฝ่ายคว้าชัยในเกมนี้ได้ แต่ผลสกอร์รวมจากทั้ง 2 นัด ทำให้เส้นทางการลุ้นแชมป์ ยูโรป้า ลีก ของ ลิเวอร์พูล หยุดที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

เยอร์เก้น คล็อปป์ จัด “พ่อหมี” อลิสซอน เบ็คเกอร์ เฝ้าเสาตัวจริง แผงแนวรับเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ประสานงานกับคู่เซ็นเตอร์แบ็ค เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค & อิบราฮิมา โกนาเต้ แบ็คซ้ายได้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ลงเป็นตัวจริง

แผงห้องเครื่องในเกมนี้ คล็อปป์ พัก วาตารุ เอนโด แล้วให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เล่นเป็นมิดฟิลด์หมายเลข 6 ในขณะที่ โดมินิก โซบอสซ์ไล และ เคอร์ติส โจนส์ ได้ลงเป็นมิดฟิลด์ในเกมนี้

แผงแนวรุกดรอป ดาร์วิน นูนเญซ และให้ โคดี้ กัคโป ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง แนวรุกซ้าย-ขวา ใช้ หลุยส์ ดิอาซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่ได้แตกต่างกับเกมที่พ่ายให้กับ คริสตัล พาเลซ ในศึกพรีเมียร์ลีกมากนัก

ส่วนนักเตะที่มีชื่อเป็นตัวสำรองมีรายชื่อดังนี้ : อาเดรียน, ควีวิน เคลเลเฮอร์, โจ โกเมซ, วาตารุ เอนโด, ดาร์วิน นูนเญซ, ฮาร์วีย์ เอลเลียต, ดิโอโก้ โชต้า, คอสตาส ซิมิกาส, ไรอัน กราเฟ่นแบร์ก, บ็อบบี้ คลาร์ก, เจย์เดน แดนส์ และสุดท้าย จาเรลล์ ควอนซาห์

อย่างที่ทุกคนทราบกันดี เกมในเลกแรก ลิเวอร์พูล ปล่อยให้ อตาลันต้า บุกมาสอนบอลถึงถิ่นแอนฟิลด์แบบสู้ไม่ได้เลย แถมยังโดน อตาลันต้า พังไปถึง 3 ประตู ทำให้ฝั่งเจ้าบ้านเกมนี้ กุมความได้เปรียบไว้สุด ๆ

แต่เกมนี้ ฝั่ง ลิเวอร์พูล ดูจะตั้งสติและมีสมาธิตั้งแต่ช่วงต้นเกม, นาทีที่ 5 กรรมการเป่าให้ทีม หงส์แดง ได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ เทรนท์ พยายามจ่ายบอลจากฝั่งขวาเข้าใน แต่บอลไปโดนแขน มัทเตโอ รุจเจรี่ ในกรอบเขตโทษ แม้มีการเช็ค VAR แล้วก็ยังยืนยันคำตัดสินเดิม ซึ่ง ซาลาห์ ก็ยิงลูกจุดโทษให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำได้ในนาทีที่ 7 [ อตาลันต้า 0-1 ลิเวอร์พูล ]

ฝั่งเจ้าบ้าน อตาลันต้า ก็ไม่ได้ย่ามใจกับความได้เปรียบที่พวกเขามี ยังคงเล่นตามจังหวะของตัวเอง สร้างสรรค์จังหวะของตัวเองได้เหมาะสม และมีโอกาสง้างไกยิงเช่นกัน การจ่ายบอลแบบเท้าต่อเท้าก็ยังมีความแม่นยำเหมือนเกมแรกที่ แอนฟิลด์

ก่อนจบครึ่งแรก ซาลาห์ มีจังหวะเหน่ง ๆ ที่วิ่งเข้าไปดวลกับ มุสโซ่ นายทวารฝั่งเจ้าบ้าน แต่ “บังโม” ตัดสินใจยกบอลข้ามตัว แต่บอลหลุดออกนอกกรอบ ปล่อยโอกาสทิ้งห่าง 2 ประตูไปอย่างน่าเสียดาย

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 66, เยอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจถอด โมฮาเหม็ด ซาลาห์, หลุยส์ ดิอาซ และ โดมินิก โซบอสซ์ไล ออกจากสนาม และให้ ดาร์วิน นูนเญซ, ดิโอโก้ โชต้า และ ฮาร์วีย์ เอลเลียต ลงไปแทน ในอีก 5 นาทีต่อมา ถอด เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ออก และส่ง โจ โกเมซ ลงแทน

กองหน้าดาวรุ่งอย่าง เจย์เดน แดนส์ ก็มีโอกาสได้ลงไปสัมผัสบรรยากาศเกมยุโรปในนาทีที่ 80 โดยเปลี่ยนตัวกับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายเกม มีการทดเวลาบาดเจ็บไม่มากนัก เพียง 3 นาทีเท่านั้น

ท้ายที่สุดก็ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น, ลิเวอร์พูล มาไกลที่สุดในเวทียุโรป ฤดูกาลที่ 2023/24 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

รายชื่อนักเตะผู้ทำประตูในเกมนี้ :

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (จุดโทษ) นาทีที่ 7 [ 0-1 ]


ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top