ชัยชนะที่มีความหมายสำหรับ ‘ลิเวอร์พูล’

Darwin Nunez, Jurgen Klopp, liverpool, Premier League, UEFA Champions League, Ufabet, Ufaclub.live, พรีเมียร์ลีก, ยูฟา แชมเปียนส์ลีก, ลิเวอร์พูล, หงส์แดง, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

หลังจบเกมที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เบ ไลป์ซิก ไปได้ 5-0 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลายคนมุ่งประเด็นไปที่การถล่มประตูของ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าคนใหม่ที่ย้ายมาจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัว 85 ล้านปอนด์ (รวมแอดออน) ซึ่งยิงคนเดียวไปถึง 4 ประตูหลังจากที่ปืนฝืดมา 2 นัดติดต่อกัน

ดาวยิงวัย 23 ปีถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง ในขณะที่ หงส์แดง นำอยู่ 1-0 จากการยิงของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งสตาร์อุรุกวัยก็ใช้เวลาไม่นานในการทำประตูแรกได้จากลูกจุดโทษ และจากนั้นก็เป็นรายการ One man show ยิงรวดเดียวเพิ่มอีก 3 ประตู

อย่างไรก็ตาม, สาระสำคัญของชัยชนะที่เกิดขึ้นนั้นคงไม่ใช่แค่การระเบิดฟอร์มของดาวยิงราคาแพงคนนี้ หากแต่ในมุมมองของ ดีทมาร์ ฮามันน์ อดีตกองกลางจอมคลาสสิคของ ลิเวอร์พูล ชุดแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก 2005 เชื่อว่ามันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการกลับมาไล่ล่าแชมป์เหมือนที่พวกเขาเคยทำมาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

ย้อนกลับไปในช่วงเดือนสุดท้ายก่อนปิดซีซัน หงส์แดง คือทีมเดียวในยุโรปที่มีลุ้นถ้วยทุกใบ พวกเขาเป็นแชมป์ คาราบาวคัพ และ เอฟเอคัพ มาก่อนหน้านั้น เหลือเกม 2 นัดสุดท้ายในการตัดสินแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งหากทำสำเร็จจะถือเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ

หากแต่พวกเขาไปไม่ถึงฝั่งฝันโดยพลาดท่าชวดแชมป์ใหญ่ทั้ง 2 รายการ แม้จะได้เป็นดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วย แต่หลายคนก็มองว่านี่คือความล้มเหลวเมื่อดูจากฟอร์มการเล่นอันแข็งแกร่งและโดดเด่น

นั่นคือสิ่งที่ทำให้ ฮามันน์ รู้สึกกังวลเมื่อเข้าสู่ช่วงพรี-ซีซัน เขากลัวว่าลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะออกอาการหมดไฟหรือถึงทางตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจบเกมที่พ่าย เรอัล มาดริด ไป 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปอย่างสุดเจ็บปวดทั้ง ๆ ที่เล่นดีกว่าตลอดทั้งเกม

ผมรู้สึกว่ามันจะมีผลทางด้านจิตวิทยา มันยากที่จะดึงพวกนักเตะให้กลับมาฮึดสู้กันอีกครั้ง เพราะในสัปดาห์สุดท้ายของฤดูกาลคุณมีโอกาสที่จะคว้า 4 แชมป์ ซึ่งมันจะเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งมาก แต่โชคร้ายที่พวกเขาทำไม่ได้”

ความพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก นั้นเป็นเรื่องเจ็บปวด เพราะจริง ๆ แล้วผมไม่อยากจะบอกกว่า เรอัล มาดริด ก็ต้องการแชมป์เหมือนกัน แต่ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ แม้ว่ารูปเกมจะดีกว่า แต่สุดท้ายคุณก็ต้องรอจนกระทั่งฤดูกาลใหม่เริ่มต้น

Darwin Nunez, Jurgen Klopp, liverpool, Premier League, UEFA Champions League, Ufabet, Ufaclub.live, พรีเมียร์ลีก, ยูฟา แชมเปียนส์ลีก, ลิเวอร์พูล, หงส์แดง, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

อย่างไรก็ดี, เกมที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เบ ไลป์ซิก ได้ในนัดล่าสุดนั้นก็ทำให้ ฮามันน์ เปลี่ยนความคิดไป จากการได้เห็นฟอร์มของนักเตะ สภาพจิตใจ และผลการแข่งขัน ซึ่งเขามองว่าทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กลังกลับมาอยู่ในจุดที่พร้อมจะลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวอีกครั้ง

ผมค่อนข้างประหลาดใจพอสมควร ผมต้องพูดแบบนั้น พวกเขาออกสตาร์ทกันได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะ ไลป์ซิก มีเกม ชาริตี้ชิลด์ หรือ ซูเปอร์คัพ (เกมที่เอาแชมป์ บุนเดสลีกา มาเตะกับแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล เพื่อหาผู้ชนะเหมือน คอมมูนิตี้ชิลด์) รออยู่ในสัปดาห์หน้า และพวกเขาก็มีเวลาเตรียมตัวนานกว่าด้วย ซึ่งการที่ ลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะมาได้ถึง 5-0 นั้นมันเป็นการบอกอะไรบางอย่างกับเรา

นอกจากข้อกังวลเรื่องสภาพจิตใจแล้ว การเสีย ซาดิโอ มาเน ไปให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยราคา 40 ล้านปอนด์นั้นก็มีส่วนที่ทำให้หลายคนมองว่า ลิเวอร์พูล อาจจะไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม แต่ ฮามันน์ มองเรื่องนี้ว่าการได้ ดาร์วิน นูนเญซ เข้ามาร่วมทีมก็ถือเป็นการเสริมทัพที่น่าสนใจไม่น้อย และการยิงได้ถึง 4 ประตูนั้นทำให้เขามองเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีของแผงแนวรุกยุคใหม่ของ เยอร์เก้น คล้อปป์ อีกด้วย

พวกเขาได้ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมเข้ามาร่วมทีม แต่มันน่าสนใจว่า นูนเญซ นั้นจะเล่นเข้ากับระบบได้มากขนาดไหน เพราะเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาก็มาจาก 3 ประสานที่ยอดเยี่ยมในแดนหน้าอย่าง ซาลาห์, มาเน และ ฟีร์มีโน พวกเขาช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน ซึ่งมันจะต่างจากรณีของ นูนเญซ

เห็นได้ชัดว่าทั้ง 3 คนต้องการยิงประตู ต้องการเป็นจุดสนใจ แต่พวกเขาละทิ้งความต้องการนั้นเพื่อเล่นเป็นทีม ซึ่งมันจะไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป กรณีของ นูนเญซ นั้นเราต้องรอดูว่าทีมจะเปลี่ยนไปขนาดไหน แต่ถ้าให้ผมพูดในตอนนี้ เขาค่อนข้างดูดีทีเดียว

Darwin Nunez, Jurgen Klopp, liverpool, Premier League, UEFA Champions League, Ufabet, Ufaclub.live, พรีเมียร์ลีก, ยูฟา แชมเปียนส์ลีก, ลิเวอร์พูล, หงส์แดง, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

สิ่งที่ ฮามันน์ ต้องการสื่อก็คือ ลิเวอร์พูล กำลังเข้ารูปเข้ารอยขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่ได้ร่วมซ้อมกันอย่างเต็มที่ และการเข้าฝักของดาวยิงอุรุกวัยก็ถือเป็นนิมิตหมายอันดีของทีมก่อนที่จะเปิดฤดูกาลใหม่

เหลืออีกไม่ถึงสัปดาห์บทพิสูจน์สำคัญของ หงส์แดง กำลังจะมาถึงในการดวลกับแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึก คอมมูนิตี้ชิลด์ และเมื่อถึงเวลานั้นเราก็จะพอมองเห็นภาพราง ๆ ว่าพวกเขาพร้อมขนาดไหนกับการกลับมาลุ้นแชมป์อีกครั้ง

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top