ศึกพรีเมียร์ลีกบิ๊กแมตช์ประจำคืนวันเสาร์ที่ 28 ส.ค. 64, ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี
ทั้ง 2 ทีมต่างก็ทำได้ผลงานได้ดีเหมือนกันใน 2 เกมที่ผ่านมาก่อนเกมนี้, ด้วยการทำสถิติยิงประตูไป 5 ประตู เก็บคลีนชีทได้ทั้ง 2 นัด และคว้า 6 แต้มเต็ม
ในเกมนี้, เชลซี เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนจากลูกเปิดมุมโดย รีซ เจมส์ และได้ ไค ฮาร์แวตซ์ กระโดดขึ้นโหม่งพาทีมเยือนขึ้นนำไปอย่างสุดสวยในนาทีที่ 22
และก็เกิดจังหวะสุดเดือดขึ้นในนาทีที่ 45+5, เมื่อ ลิเวอร์พูล ชุลมุนอยู่ในกรอบเขตโทษของ เชลซี เพื่อหวังยิงประตูตีเสมอ, แต่ด้าน รีซ เจมส์ ถูกตัดสินทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ กรรมการมองว่าเป็นการทำแฮนด์บอลที่มีผลต่อการทำประตูอย่างชัดเจน จึงตัดสินให้เป็นจุดโทษ พร้อมทั้งให้ใบแดงกับ รีซ เจมส์
ฝั่งเจ้าบ้านได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นผู้สังหารจุดโทษ และ ซาลาห์ ก็ไม่ทำให้เหล่า เดอะ ค็อป ผิดหวัง ซัดบอลด้วยเท้าซ้ายเป็นประตูตีเสมอให้กับ ลิเวอร์พูล
แต่ก่อนที่จะเกิดจังหวะเดือดในช่วงท้ายครึ่งแรกนั้น, บอสใหญ่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจเปลี่ยนเอา โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่สตาร์ทเป็นตัวจริงออกจากสนาม และมอบหมายให้ ดิโอโก้ โชต้า ลงสนามแทนในนาทีที่ 42
โดย เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ออกมาให้เหตุผลว่า การตัดสินใจเปลี่ยนเอา ฟีร์มิโน่ อออกจากสนาม เป็นเพราะแข้งบราซิลรายนี้มีอาการบาดเจ็บ
“ผมเองก็ไม่รู้ว่า บ็อบบี้ นั้นมีอาการบาดเจ็บมากน้อยขนาดไหน, แต่ถ้าถามผมว่า ผมซีเรียสกับเรื่องนี้หรือเปล่า ผมก็ตอบตามตรงว่า ผมซีเรียสมาก”
“บ็อบบี้ รู้สึกว่าตนเองมีอาการผิดปกติบริเวณแฮมสตริง, เขาเดินมาบอกกับพวกเรา เพื่อให้พวกเราเตรียมตัวเตรียมเปลี่ยนตัวเขาออกจากสนาม”
“โดยปกติแล้ว บ็อบบี้ จะไม่เคยเอ่ยปากเรื่องอะไรเลย ถ้าหากว่าเขาไม่รู้สึกว่าตนเองมีความผิดปกติจริง ๆ”
“มันอาจจะไม่ได้ซีเรียสอย่างที่พวกเราคิดก็ได้นะ, แต่คุณก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่จะได้เข้ารับาการสแกนอาการบาดเจ็บ”
ในส่วนของผลการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงแค่เสมอกับ เชลซี เท่านั้น,ส่วน ฟีร์มิโน่ จะเข้ารับการสแกนเพื่อประเมินอาการบาดเจ็บในวันนี้