แม้ว่าสาวก หงส์แดง กำลังอยู่ในช่วงลุ้นให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตกลงต่อสัญญาใหม่กับ ลิเวอร์พูล เสียทีหลังจากที่ยืดเยื้อกันมานานแสนนาน ในอีกมุมหนึ่ง เยอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงานก็คงต้องมี “แผนบี” เอาไว้รองรับเผื่อว่าสถานการณ์ฉุกเฉินจะเกิดขึ้น
ไอ้ฉุกเฉินที่ว่านั้นคือ พวกเขาอาจจะต้องจำใจขายดาวยิงทีมชาติอียิปต์ออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์หากสัญญาไม่ลงตัว ซึ่งในโลกฟุตบอลอะไรมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ
ความจริงเรื่องนี้มีการวางแผนกันมาระยะหนึ่งแล้ว เห็นได้จากข่าวที่ออกมาจากค่าย แอนฟิลด์ ที่พัวพันกับนักเตะหลายรายในตลาดซื้อขาย
มองแล้วมันก็ไม่ใช่แค่การหาตัวแทนของ ซาลาห์ เท่านั้น, แต่กับ ลิเวอร์พูล แล้ว การพยายามตามหาตัวตายตัวแทนในแผงกองหน้า 3 คนคือสิ่งที่ เดอะค็อป รับรู้กันมาพักใหญ่ ๆ เพียงแต่ว่าด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของทีมในตอนนี้ ทำให้เรื่องดังกล่าวไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก
ดิโอโก้ โชต้า คือหนึ่งในนักเตะที่ถูกดึงเข้ามาเพื่อสานต่อความสำเร็จในแดนหน้า และเจ้าตัวก็ทำหน้าที่ได้อย่างน่าประทับใจ แต่สำหรับการลุ้นแชมป์ในระยะยาว แค่นั้นมันอาจจะไม่เพียงพอ
ชื่อของตัวรุกหลายรายถูกเชื่อมโยงกับ หงส์แดง อย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในชื่อที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้น จาร์รอด โบเวน ปีกของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
แข้งวัย 25 ปีก้าวขึ้นมาอย่างโดดเด่นตั้งแต่ซีซันที่แล้ว เป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยยกระดับให้ ขุนค้อน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าอันดับ 6 เหนือ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ( อันดับ 7) และ อาร์เซนอล (อันดับ 8) พร้อมกับได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอล ยูฟา ยูโรป้าลีก โดยอัตโนมัติ
ในฤดูกาลนี้เจ้าตัวก็ยังคงความร้อนแรงต่อเนื่อง มีส่วนสำคัญในการช่วยพา เวสต์แฮม รั้งอันดับ 5 ของตารางจาก 20 นัด อยู่เหนือ ทั้ง สเปอร์ส และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อีกต่างหาก
และถ้าจำกันได้ก็ โบเวน นี่แหละที่สร้างความแสบสันต์ให้แผงหลัง หงส์แดง ในเกมที่พวกเขาเปิดบ้านยัดเยียดความปราชัยในแรกใน พรีเมียร์ลีก ให้กับทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ไป 3-2 เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
นั่นจึงทำให้ปีกอิงลิชแมนกลายเป็นผู้เล่นที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ชื่นชอบและให้ความสนใจ พร้อมทั้งตกเป็นข่าวกับ ลิเวอร์พูล อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม อาจมีบางอย่างที่ทำให้เราต้องกลับมานั่งพิจารณากันว่า ตกลงแล้ว ลิเวอร์พูล สมควรจะเซ็นสัญญากับ โบเวน จริง ๆ หรือ?
เมื่อฟังจากบทสัมภาษณ์ของ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม เวสต์แฮม ที่พูดถึงฟอร์มของ จาร์รอด โบเวน เอาไว้หลังเกมที่พวกเขาเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปได้ 2-0 ในฟุตบอล เอฟเอคัพ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ต้องฉุกคิด
“ผมคิดว่าเขาน่าจะใจเย็นกว่านี้หน่อย บางครั้งเขาเล่นค่อนข้างเร็ว นั่นเป็นเพราะว่าเขาเป็นนักเตะที่มีความเร็วและต้องการมีส่วนร่วมในการเล่นกับทีม แต่บางครั้งคุณก็ต้องช้าลงบ้าง ลดความเร็วในการเล่นลงบ้าง”
“ตอนนี้ไม่มีใครเก่งไปกว่า โม ซาลาห์ ซึ่งสามารถใช้ความเร็วได้ตามที่เขาต้องการ แต่เขาก็ดึงให้คุณช้าลงได้ในกรอบเขตโทษ และเอาชนะคุณได้อย่างรวดเร็ว”
“ผมคิดว่า จาร์รอด อยู่ในช่วงที่เริ่มทำความเข้าใจกับบางส่วนของเกมได้มากขึ้น เราต้องการให้เขาทำประตูได้เรื่อย ๆ ต้องการให้ยิงประตูและทำแอสซิสต์ได้อย่างต่อเนื่อง ผมพอใจนะ เพราะเขาเป็นเด็กดีและทำงานหนักมาก”
มอยส์ อาจจะบอกเป็นนัยว่า สไตล์ของ โบเวน นั้นมีความพยายามที่จะเหมือนกับ ซาลาห์ แต่เขายังต้องพัฒนาเรื่องจังหวะจะโคนอีกมาก หากต้องการก้าวไปถึงจุดนั้น
อย่าลืมว่าดาวยิงทีมชาติอียิปต์คว้าดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก ได้ตั้งแต่ซีซันแรกที่ย้ายมาจาก โรมา และเขายังรักษามาตรฐานดังกล่าวมาตลอด 5 ปีในถิ่น แอนฟิลด์
แต่จากคำพูดของ มอยส์ นั้นแสดงให้เห็นว่า โบเวน ยังมีหลายอย่างที่ต้องพัฒนา โดยเฉพาะสถิติการยิงประตูที่ยังเทียบไม่ได้เลยกับ โม ซาลาห์ ไอดอลของเขา
และเมื่อย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ เวสต์แฮม คว้า โบเวน มาจาก ฮัลล์ ซิตี้ เมื่อ 2 ปีก่อนด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ จนถึงตอนนี้เขายิงได้แค่ 15 ประตูจากการลงเล่น 82 นัดใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งอาจเป็นตัวเลขที่ใช้ได้ในสายตาของ เดวิด มอยส์….แต่ก็อาจไม่ใช่ในสายตาของ เยอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงาน!
ไหนจะข่าวที่ออกมาว่า เวสต์แฮม เตรียมโก่งค่าตัวของแข้งผู้ดีรายนี้ โดยพร้อมเปิดเจรจาเบื้องต้นที่ 40 ล้านปอนด์ ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจท่ามกลางโรคระบาดแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องดีที่จะเสี่ยงขนาดนั้น
ตัวเลือกที่เด็กกว่า ฝีเท้าที่พัฒนาได้ ในราคาที่ถูกกว่า น่าจะยังพอมีให้เห็นในตลาดซื้อขาย และเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่เน้นความคุ้มค่ามากกว่าราคาที่ไม่เป็นมิตร
แม้ คล็อปป์ จะเอ่ยปากว่าชอบนักชอบหนา แต่ถ้าค่าตัวแพงหูฉี่แบบนี้ ก็ไม่น่าจะไหวเหมือนกัน!