ท่ามกลางการเดบิ้วท์ของแข้งดาวรุ่งและการกลับมาลงสนามของนักเตะตัวหลักในเกม เอฟเอคัพ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีใครคนหนึ่งที่ยังไม่มีโอกาสได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เลยแม้แต่เกมเดียวในฤดูกาลนี้ และดูเหมือนว่าอนาคตของเขากับ ลิเวอร์พูล จะต้องจบลงในไม่ช้า…นักเตะคนที่ว่านั้นคือ ลอริส คาริอุส
นับตั้งแต่ที่ลงเล่นในเกมรอบชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2018 เราก็ไม่เห็นนายทวารรูปหล่อรายนี้ได้ลงเล่นในเกมอย่างเป็นทางการกับทีม หงส์แดง อีกเลย
ช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา, เจ้าตัวพยายามเรียกความมั่นใจด้วยการย้ายไปเล่นในตุรกีและเยอรมนีบ้านเกิด แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่คิด ก่อนจะซมซานกลับมายังถิ่น แอนฟิลด์ อีกครั้งเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
และแม้ว่าจะชื่อในทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้ แต่ คาริอุส ทำได้เพียงแค่เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมเท่านั้น
ไม่บอกก็รู้ว่าแข้งหน้าหล่อรายนี้ไม่มีโอกาสที่จะได้กลับมาสู่ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ อีกแล้ว, ในเมื่อข้างหน้าของเขายังมี 3 นายทวารขวางทางอยู่ รวมทั้งยังมีผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่ถูกดันขึ้นมาร่วมฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง…การหาทีมใหม่จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
อันที่จริงนายทวารวัย 28 ปีเกือบจะได้ย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ แล้วเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หากแต่ว่าการตกลงเรื่องค่าเหนื่อยกับ บาเซิล นั้นไม่สามารถหาข้อสรุปได้
รวมทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ตกเป็นข่าวกับ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ ทีมท้ายตารางของ บุนเดสลีกา ซึ่งหวังจะได้ตัวเขาย้ายไปเฝ้าเสาในเดือนมกราคมแบบฟรี ๆ เพื่อแทนที่นายทวารตัวจริงที่ได้รับบาดเจ็บยาว แต่ดีลทั้งหมดก็ล้มไปเนื่องจาก ลิเวอร์พูล ไม่ต้องการจ่ายค่าชดเชยในการยกเลิกสัญญาให้กับนักเตะ…ทำให้ คาริอุส ยังต้องรอโอกาสในการย้ายทีมกันต่อไป
สัญญาฉบับปัจจุบันของนายด่านเยอรมันจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งทำให้เขาเปิดเจรจากับทีมนอกเกาะอังกฤษได้นับตั้งแต่เดือนมกราคม และย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัวหลังจบฤดูกาล หากว่ายังไม่มีทีมใดติดต่อเข้ามาในช่วงตลาดหน้าหนาว
มุมหนึ่งถ้าเจ้าตัวไม่คิดอะไร ลงซ้อมกับเพื่อนไปเรื่อย ๆ รับเงินค่าเหนื่อยที่เหลืออีก 6 เดือน ไม่ต้องลงสนาม ก็น่าจะเพียงพอ รอจบฤดูกาลค่อยหาทางขยับขยายกันต่อไป
“ท้ายที่สุดแล้วมันก็ต้องขึ้นอยู่กับเขา เอเยนต์ของเขา และสโมสรที่จะต้องพยายามหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้ และหวังว่ามันจะเกิดขึ้นในเดือนนี้”
“มันไม่ได้ช่วยอะไรใครได้เลยกับการที่ต้องนั่งอยู่ข้างสนามต่อไปอีก 6 เดือน โดยปราศจากความรู้สึกที่จะต้องสู้เพื่ออะไรบางอย่าง นั่นจะไม่ทำให้เขาได้พัฒนาฝีมือ เขาต้องโชว์ศักยภาพเพื่ออาชีพของตัวเองในเวลานี้ ลอริส เป็นผู้รักษาประตูที่เต็มไปด้วยคุณภาพอยู่แล้ว”
“ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น เขาก็จะต้องฝึกซ้อมกับเราต่อไปอีก 6 เดือนจนหมดสัญญา และถ้า ลอริส ย้ายออกไป เราก็จะดึงดาวรุ่งซักคนขึ้นมาจากอคาเดมีได้อีกครั้ง”
ปัจจุบัน คาริอุส ลงซ้อมเคียงข้างกับกลุ่มผู้เล่นทีมชุดใหญ่อย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์, ควีวิน เคลเลเฮอร์ และ อาเดรียน พร้อมกับนายประตูดาวรุ่ง ฮาร์วีย์ เดวีส์ และ มาร์เซโล ปิตาลูก้า ซึ่งหากเจ้าตัวย้ายทีมในเดือนมกราคมก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ วิเตซสลาฟ จารอส และ ฟาเบียน โมเซ็ค ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ต่อไป
“เราเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลาว่าใครจะคนต่อไปที่จะได้ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่”
“เป้าหมายของเรานั้นคือการปั้นผู้รักษาประตูของเราเอง การจะทำเช่นนั้นได้เราจำเป็นต้องมีการพัฒนาทั้งฝ่ายแมวมองและการทำงานเพื่อค้นหานักเตะดี ๆ เข้ามาสู่ทีม รวมทั้งการพัฒนาพวกเขาให้ก้าวขึ้นมาเป็นยอดนายทวารด้วย” อัชเทอร์เบิร์ก กล่าว
อนาคตต่อจากนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าจะมีทีมใดที่ให้ความสนใจในตัว คาริอุส และมีข้อเสนอที่น่าพึงพอใจขนาดไหน ซึ่งหากว่าเจ้าตัวอยากจะรักษาสถานภาพบนเส้นทางอาชีพเอาไว้ก็ควรจะต้องรับฟังที่ อัชเทอร์เบิร์ก ไว้พูดซักนิดก็ดี
เพราะเห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ส่งผลดีต่อใครทั้งนั้น โดยเฉพาะตัวของ ลอริส คาริอุส เอง…