การลุ้นแชมป์ที่ยิ่งกว่าการหายใจรดต้นคอ

Liverpool, ลิเวอร์พูล, หงส์แดง, Premier League, พรีเมียร์ลีก, Manchester City, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เรือใบสีฟ้า

การลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น หลังจากที่เมื่อช่วงหัวค่ำวันเสาร์ในบ้านเรา ลิเวอร์พูล จัดการเฉือนชนะ นิวคาสเซิล ไป 1-0 และขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีคิวจะออกไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ในช่วง 5 ทุ่มครึ่ง

จากนั้น เด็กหงส์ก็ดีใจได้ไม่เท่าไหร่เมื่อลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จัดการถล่มยูงทองกระจุยกระจายด้วยสกอร์ 4-0 กลับไปยึดตำแหน่งหัวตารางคืนแทบจะทันที นำ 1 แต้มเหมือนเดิม แถมประตูได้เสียยังจี้ก้นมาติด ๆ ที่ 63 ต่อ 64 แล้วในตอนนี้

การลุ้นกันหมัดต่อหมัด ตาต่อตา ฟันต่อฟัน หายใจรดต้นคอแบบนี้ทำเอา แกรี เนวิลล์ ผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในการลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วสมัยยังเป็นนักเตะถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน

หากย้อนกลับไปสมัยที่ทีม ปีศาจแดง เรืองอำนาจ พวกเขาถือว่ามีลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อยู่แทบทุกปี และแน่นอนว่าต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่เรียงหน้าขึ้นมาท้าทายความยิ่งใหญ่ มีบ้างที่ต้องพบกับความกดดันในการไล่ล่าแชมป์ แต่ด้วยความเก๋าเกมกว่าจึงทำให้เอาตัวรอดได้แทบจะทุกครั้ง

Liverpool, ลิเวอร์พูล, หงส์แดง, Premier League, พรีเมียร์ลีก, Manchester City, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เรือใบสีฟ้า

ตัวอย่างที่ชัดเจนและคลาสสิคที่สุดคือในซีซัน 1995-1996 ยูไนเต็ด โดน นิวคาสเซิล ทิ้งห่างถึง 12 คะแนนในช่วงปีใหม่ แต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ใช้ความนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวพาทีมไล่เก็บแต้มมาเรื่อย ๆ พร้อมเล่นสงครามจิตวิทยาใส่ เควิน คีแกน จนท้ายที่สุดพวกเขาก็สามารถแซงเข้าป้ายเป็นแชมป์ด้วยแต้มห่าง 4 คะแนน

เนวิลล์ เล่าให้ฟังว่าสมัยที่เขาเป็นนักเตะ ท่านเซอร์มักจะบอกกับลูกทีมเสมอว่า “ถ้าพวกเราไม่พลาด เดี๋ยวคู่แข่งก็พลาดเอง” ซึ่งเขายอมรับตามตรงว่า มันคงไม่สามารถเอามาใช้ในยุคที่ ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แย่งชิงความยิ่งใหญ่กันได้

นี่คือ 2 ทีมที่เราได้เป็นพยานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผมมักมองย้อนกลับไปในอดีต ในปี 2019 ตอนที่พวกเขาไล่บี้กันชนิดหายใจรดต้นคอ และไม่มีใครทำพลาดเลย” อดีตแบ็คขวา ปีศาจแดง กล่าวผ่านทาง สกายสปอร์ต

ผมไม่อยากจะเชื่อสายตา เพราะตอนที่ผมได้ชูถ้วยแชมป์อยู่บ่อย ๆ  ผู้จัดการทีมของเรามักจะพูดอยู่เสมอว่า ‘ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคู่แข่งก็พลาดกันเอง’ และมันก็เป็นแบบนั้นตลอด และเราก็ทำสำเร็จเรื่อยมา แต่กับ ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ พวกเขาไม่มีใครพลาดเลย

สิ่งที่ ซิตี้ ทำที่ ลีดส์ นั้นมันน่าประทับใจมาก ๆ และพวกเขาก็ทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องง่าย ๆ เมื่อคุณอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังลุ้นแชมป์ คุณมักอยากจะลงเล่นก่อนคู่แข่งเสมอ ลิเวอร์พูล เป็นแบบนั้นและพวกเขาก็เอาชนะ นิวคาสเซิล ได้ 1-0 หลังจากที่เพิ่งลงเล่นในเกมกับ บียาเรอัล มา ซึ่งพวกเขามักทำแบบนี้อยู่บ่อย ๆ ในช่วงหลัง

Liverpool, ลิเวอร์พูล, หงส์แดง, Premier League, พรีเมียร์ลีก, Manchester City, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เรือใบสีฟ้า

คุณคงคิดว่าความกดดันจะไปอยู่กับ ซิตี้ แต่เอาเข้าจริงคุณจะรู้สึกได้เลยว่าทั้งสองทีมไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพราะพวกเขายอดเยี่ยม ทั้งคลาสบอลและจังหวะการเล่น พวกเขาควบคุมมันได้เสมอ และดูจะสนุกสนานกับการแย่งแชมป์แบบนี้ด้วย

เนวิลล์ ยังกล่าวถึงบรรยากาศของการลุ้นแชมป์ในยุคนี้ว่า แตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง ไม่มีการอาฆาตมาดร้าย ไม่มีการก่อดราม่าหลังจบเกม ไม่มีเกมจิตวิทยา มีแต่การสู้กันด้วยแท็คติกล้วน ๆ ก่อนจะจบลงด้วยมิตรภาพ ซึ่งข้อนี้ก็ทำเอา เนวิลล์ อึ้งจนเงิบไปเช่นกัน

ตอนที่คุณต้องเจอกับคู่แข่งอย่าง อาร์เซนอล, เชลซี และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในช่วงกลางยุค 90 มันรู้สึกเหมือนการต่อสู้ บางครั้ง รอย คีน ถึงกับใช้คำว่า ‘สงคราม’ ด้วยซ้ำ

แต่กับสองทีมนี้ไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นเลย แม้กระทั่งในเกมที่พวกเขาเสมอกัน 2-2 ซึ่ง ลิเวอร์พูล คัมแบ็คได้อย่างยอดเยี่ยมในครึ่งหลัง พอเกมจบพวกเขากอดกัน มันเป็นการแย่งแชมป์ที่ให้เกียรติกันมาก และคุณก็ไม่สามารถปฏิเสธความยอดเยี่ยมของทั้งสองทีมได้

อย่างไรก็ตาม, เมื่อดูเส้นทางของทั้ง 2 ทีมแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ใช่แค่ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เพราะเราอาจได้เห็น “Battle of Britain” เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก อีกก็เป็นได้

ชอบบทความนี้แชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ
Scroll to Top