ข่าวการเตรียมย้ายทีมของ 2 ซูเปอร์สตาร์ ลิเวอร์พูล อย่าง ซาดิโอ มาเน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีออกมาอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ทั้งคู่เข้าสู่ปีสุดท้ายในสัญญาปัจจุบัน
ปีกเซเนกัลประกาศอย่างชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ หลังย้ายมาร่วมทีมตั้งแต่ปี 2016 หรือเป็นเวลา 6 ปีที่เขาสวมชุดสีแดงเลือดนกพร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์อย่างมากมาย โดยมี บาเยิร์น มิวนิค ที่พร้อมรับตัวไปอยู่ด้วยในช่วงซัมเมอร์
แม้รายงานข่าวจะระบุว่าเจ้าตัวจะตกลงเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับพี่เสือพร้อมรับค่าเหนื่อยราว ๆ 3 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์หรือ ประมาณ 20 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งได้มากกว่าเดิมถึง 3 เท่า, แต่ ลิเวอร์พูล ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวไปง่าย ๆ เพราะพวกเขาต้องการค่าตัวที่มากกว่า 25 ล้านปอนด์หรือ 30 ล้านยูโร
แต่ดู ๆ แล้วก็ไม่น่าจะตกลงกันยาก เหลือเพียงแค่การพูดคุยกันระหว่าง 2 สโมสรเท่านั้น อีกนิดเดียวก็คงลงตัว
ในขณะที่ฝั่งของ ซาลาห์ ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของ เดอะค็อป ไปแล้ว หลังจากที่มีข่าวออกมาว่าหากไม่สามารถต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูล ได้ เขาก็พร้อมที่จะลงเล่นจนหมดสัญญาและย้ายออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว โดยคาดว่าจะยังเล่นอยู่ใน พรีเมียร์ลีก อีกต่างหาก
จากที่อยากให้อยู่ต่อกลายเป็นว่ามีแต่เสียงก่นด่า คือถ้าย้ายออกไปนอกเกาะอังกฤษก็คงไม่มีใครว่า แต่ข่าวแจ้งว่าเอเยนต์ของนักเตะพร้อมเจรจากับสโมสรในอังกฤษที่สามารถจ่ายเงินค่าเหนื่อยให้นักเตะของเขาได้หลังหมดสัญญาซึ่งมันก็มีไม่กี่ทีม ไม่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ เชลซี
ก็คงต้องตามดูกันต่อไปว่าข่าวที่ออกมาจะจริงเท็จขนาดไหน…
อย่างไรก็ตาม, ลิเวอร์พูล ก็ไม่ได้มีข่าวแค่การย้ายออกของ ซาลาห์ กับ มาเน เท่านั้น แต่พวกเขายังถูกจับเชื่อมโยงกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าตัวเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค ที่เพิ่งประกาศว่าอยากย้ายทีมเต็มแก่ในช่วงซัมเมอร์นี้อีกด้วย
เลวาน ได้ออกมาแถลงข่าวกับสื่อเมื่อ 2 วันก่อนโดยยืนยันชัดเจนว่าเวลาของเขากับ บาเยิร์น นั้นสิ้นสุดลงแล้ว
“ผมมองไม่เห็นความเป็นไปได้ที่จะลงเล่นให้กับ บาเยิร์น อีกต่อไป พวกเขาเป็นทีมที่จริงจัง และก็คิดว่าทีมคงไม่รั้งผมเอาไว้อย่างแน่นอน ผมไม่ต้องการเล่นให้กับทีมอีกแล้ว การย้ายทีมคือการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด และหวังว่าสโมสรจะไม่ขวางทางผม” นี่คือคำพูดของดาวยิงวัย 33 ปีในระหว่างการเก็บตัวกับทีมชาติ
จากนั้น กุนซือของทีมชาติโปแลนด์ เชสลอฟ มิชเนวิซ ซึ่งเป็นเด็กหงส์ตัวยงก็ออกมายุลูกทีมของเขาว่า น่าจะย้ายมาเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ ซะเลย
“ผมอยากเห็น เลวานดอฟสกี้ เล่นให้กับทีม ลิเวอร์พูล เพราะผมก็เป็นแฟนบอลของพวกเขา” สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่โดนใจ
คำถามจึงตามมาว่าถ้า ลิเวอร์พูล กำลังจะเสียกองหน้าไป พวกเขาสมควรจะดึงดาวยิงเสือใต้มาเสริมความแทนหรือไม่?!
เมื่อมาพิจารณาตามตำแหน่ง แน่นอนว่า เลวาน จะต้องลงเล่นเป็นกองหน้าตัวกลาง เพราะแม้ไม่มี มาเน แต่ หลุยส์ ดิอาซ ยังสามารถเล่นฝั่งซ้ายได้ ดูได้จากช่วงหลังที่ คล็อปป์ ส่งแข้งโคลอมเบียนลงตรงนั้นตลอด แล้วขยับเอาดาวยิงเซเนกัลเข้าไปเล่นเป็นฟอลส์ไนน์
ถ้าคิดคำนวณตามข่าว ซาลาห์ ยังเล่นต่ออีก 1 ปีแล้วให้ ดิอาซ ลงกราบซ้าย ดึง เลวานดอฟสกี้ เป็นเซ็นเตอร์ฟอร์เวิร์ด ดูแล้วน่าจะเป็นแนวรุกที่น่ากลัวที่สุดทีมหนึ่งของ พรีเมียร์ลีก ได้เหมือนกัน
เรื่องสัญชาตญาณการยิงประตูไม่ต้องพูดถึง ดาวเตะวัย 33 ปีถล่มประตูให้ บาเยิร์น มานับไม่ถ้วน ถ้าคิดในแง่ของคุณภาพผู้เล่นและรูปแบบการเล่นที่ใกล้เคียงกันระหว่าง พี่เสือ กับ ลิเวอร์พูล คาดว่าเจ้าตัวก็คงยิงได้ไม่ต่ำกว่า 20 ลูกแน่ ๆ
อย่างไรก็ตาม, หากมองที่แนวทางเสริมทัพของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ผ่านมา เขาจะไม่ซื้อนักเตะอายุเกือบ 30 มาร่วมทีมเลย มีที่แหกกฎอยู่คนเดียวคือ ติอาโก้ อัลคันทารา ที่ย้ายมาร่วมทีมตอนอายุ 29 ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ซึ่งกุนซือชาวเยอรมันให้การยอมรับเป็นพิเศษ
แต่กับ เลวาน ที่อายุ 33 ปีไปแล้ว และสไตล์ “เกเก้นเพรสซิง” ก็คงมีคำถามตามมาว่า เจ้าตัวจะไหวหรือไม่กับการที่ต้องเพรสแดนบน และไล่เพรสกันเกือบตลอด 90 นาที แถม ลิเวอร์พูล ไม่ใช่ทีมที่ชอบใช้กองหน้าตัวเป้าที่ไปยืนรอเข้าฮอสหรือป้วนเปี้ยนในกรอบเขตโทษเพียงอย่างเดียว แนวรุกของพวกเขาต้องมีส่วนร่วมทุกจังหวะ เล่นเกมรับได้ แย่งบอลเป็น ดูอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน เป็นตัวอย่าง
ไหนจะเรื่องค่าเหนื่อยที่ไม่น่าจะต่ำกว่า 3 แสนปอนด์ และระยะเวลาในการค้าแข้งก็อาจจะไม่เกิน 3 ปี และคาดว่าช่วงพีคอาจจะอยู่ได้แค่ 1-2 ปีเท่านั้น ซึ่งค่อนข้างเสี่ยงพอสมควร
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็มีเสียงสนับสนุนพร้อมยกตัวอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่ย้ายมาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนอายุ 29 เมื่อปี 2012 และถล่มประตูกระจายทำให้ทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ครั้งสุดท้ายของพวกเขาได้สำเร็จ ซึ่งไม่แน่เหมือนกันว่า เลวานดอฟสกี้ อาจจะทำแบบนั้นกับ ลิเวอร์พูล ก็ได้
ส่วนเรื่องการเล่นในระบบของ เยอร์เก้น คล็อปป์ นั้น อย่าลืมว่า เลวาน คือกองหน้าที่นายใหญ่ หงส์แดง ปลุกปั้นจนกลายเป็นยอดดาวยิงสมัยร่วมงานกันที่ ดอร์ทมุนด์ ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นปัญหาและเชื่อว่า คล็อปป์ คงจะรู้ว่าต้องใช้งานเด็กเก่าของตัวเองยังไง
อย่างไรก็ดี, อุปสรรคสำคัญก็คงจะเป็นเรื่องค่าเหนื่อย เพราะดูเหมือน ลิเวอร์พูล คงจะไม่ทุ่มค่าจ้างระดับท็อปไฟว์ให้กับนักเตะที่อายุเลย 30 ไปแล้ว แม้คนคนนั้นจะชื่อว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็ตาม
แต่ถ้าเกิดพลิกล็อกขึ้นมา การลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ของสาวกหงส์แดงคงจะน่าตื่นเต้นขึ้นอีกหลายเท่าตัว!